เที่ยวฟิลิปปินส์ดินแดนแห่งเกาะสวรรค์เสร็จแล้ว ก็ต้องไปตะลุยตามหาของฝากฟิลิปปินส์กันต่อ บอกเลยว่าช้อปปิ้งของฝากที่ประเทศนี้ ขาช้อปต้องฟินอย่างแน่นอน เพราะประเทศฟิลิปปินส์มีเกาะมากกว่า 7,000 เกาะกระจายอยู่ทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก ดังนั้นความหลากหลายทางวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นจึงทำให้เกิดสินค้าที่น่าสนใจมากมาย ของฝากจากแต่ละเมืองเปี่ยมไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญของฝากที่นี่ราคาดีงามจนหลายคนซื้อกันถล่มทลายเลยทีเดียว
ด้วยธรรมชาติที่หลากหลายเต็มไปด้วยเกาะแก่งน้อยใหญ่จึงทำให้การเลือกซื้อของฝากฟิลิปปินส์เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากๆ เพราะในแต่ละพื้นที่จะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นสินค้าท้องถิ่น ดังนั้นหากมองหาของฝากจึงไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นของฝากมะนิลาเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะไปเมืองเล็กหรือใหญ่เราก็สามารถแวะช้อปของฝากที่น่าสนใจได้แทบจะทุกพื้นที่
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ในท้องทะเล ประเทศนี้จึงมีอัญมณีอันงดงามอย่างไข่มุกเป็นของฝากฟิลิปปินส์ที่ล้ำค่า โดยว่ากันว่าไข่มุก South Sea ของฟิลิปปินส์ถือเป็นหนึ่งในไข่มุกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก กระบวนการในการสร้างไข่มุกที่งดงามนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเป็นขั้นตอนที่ยาวและยากด้วยขั้นตอนมากกว่า 360 ขั้นตอน แต่ก็คุ้มค่าเพราะไข่มุก South Sea จากฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในไข่มุกที่มีค่าที่สุดในตลาด ปัจจุบัน Pinctada maxima เป็นหอยมุกสายพันธุ์พิเศษที่มีค่าที่สุดและกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่งบจำกัดก็ไม่ต้องกังวลเพราะไข่มุกจากฟิลิปปินส์ ราคามีหลากหลายให้เลือก มีตั้งแต่ราคาถูกไปจนราคาสูงลิบลิ่ว ดังนั้นใครๆ ก็สามารถซื้อของฝากฟิลิปปินส์ชิ้นนี้ได้ทั้งนั้น
อยากลองเปลี่ยนรสชาติจากมะม่วงไทย แนะนำให้ซื้อของฝากฟิลิปปินส์ประเภทมะม่วงอบแห้งดูสักครั้ง รับรองว่าจะต้องติดใจอย่างแน่นอน ว่ากันว่าธรรมเนียมปาซาลูบง (Pasalubong) ซึ่งเป็นประเพณีของชาวฟิลิปปินส์ที่นักเดินทางมักจะนำของขวัญจากจุดหมายปลายทางไปให้คนที่อยู่ที่บ้านสำหรับชาวฟิลิปปินส์นั้นมักจะเลือกซื้อของฝากเป็นมะม่วงอบแห้ง โดยมะม่วงอบแห้งถือเป็นของฝากเซบูที่โด่งดัง เนื่องจากเมืองเซบูมีชื่อเสียงในด้านการผลิตของอร่อยชนิดนี้มากๆ หากได้ไปที่เซบู แนะนำให้แวะไปที่ตลาดสาธารณะ Taboan เพราะว่ามีมะม่วงอบแห้งขายมากมายหลายร้าน แถมเรายังสามารถต่อราคากับพ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่นได้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีโอกาสไปเมืองเซบู เราก็ยังหาซื้อมะม่วงอบแห้งไปเป็นของจากฝากฟิลิปปินส์ได้ทั่วประเทศ เพราะหาซื้อได้ง่ายทั้งในตลาด ร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น
ของกินแสนอร่อยชนิดนี้ถือเป็นของฝากฟิลิปปินส์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ดังกิตเป็นปลาแห้งและเป็นอาหารอันโอชะยอดนิยมของชาวฟิลิปปินส์ กรรมวิธีในการทำก็คือจะนำไปหมักเกลือ ตากแดด และผ่าแยก ส่วนใหญ่รับประทานพร้อมกับมื้ออาหารเช้า โดยชาวฟิลิปปินส์นิยมทานคู่กับไข่ดาวหรือข้าวกระเทียม กลิ่นจะค่อนข้างเข้มข้นนิดนึง อาจจะคล้ายๆ ปลาเค็มบ้านเราแต่ก็มีรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์มากๆ ดังกิตถือเป็นของฝากยอดนิยมจากเซบู และมีขายมากในตลาด Taboan ซึ่งเราสามารถหาซื้อดังกิตแบบเค็มและไม่ใส่เกลือ รวมถึงปลาแห้งชนิดอื่นๆ ได้ในราคาไม่แพง
สำหรับคนที่มองหาของฝากฟิลิปปินส์ประเภทงานหัตถกรรมจักสานหรือสินค้าทำมือสวยๆ สินค้ายอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นบานิกซึ่งเป็นเสื่อทอมือที่ทำจากใบหญ้าทะเลแห้ง กรรมวิธีการทำก็น่าสนใจมากๆ โดยช่างทอผ้าจะย้อมหญ้าแห้งให้มีสีสันสดใสและทอเป็นลวดลายสวยงาม โดยทั่วไปชาวฟิลิปปินส์ใช้ผ้าบานิกในการปูนั่งหรือนอน ซึ่งจะให้อารมณ์คล้ายๆ กับเสื่อในบ้านเรา และในบางครั้งก็จะใช้บานิกแทนผ้าม่านหรือใช้เพื่อประดับตกแต่งผนังด้วยเช่นกัน ปัจจุบันการทำบานิกยังแตกไลน์ออกไปเป็นสินค้าหลากหลายชนิด เช่น กระเป๋าถือ รองเท้าแตะ และแม้แต่ซองใส่แล็ปท็อป ส่วนใหญ่ชาวเมืองบาซีย์ (Basey) จะผลิตบานิกกันค่อนข้างเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ บานิกเป็นของฝากจากฟิลิปปินส์ที่หาซื้อได้ไม่ยาก เพราะตามตลาด รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าก็มีบานิกจำหน่ายด้วยเช่นกัน
ของฝากฟิลิปปินส์ที่เป็น the must อย่างรถของเล่นจี๊ปนีย์ถือเป็นของฝากที่ดีงามสุดๆ แถมที่มาสำหรับของฝากจากฟิลิปปินส์ชิ้นนี้ก็น่าสนใจมากๆ โดยรถจี๊ปนีย์มีขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพสหรัฐฯ ทิ้งรถจี๊ปไว้เบื้องหลังสงคราม ชาวบ้านจึงได้เปลี่ยนรถจี๊ปเหล่านี้ให้กลายเป็นรถโดยสาร ตัวของฝากชิ้นนี้จะเป็นเวอร์ชันย่อส่วนของรถจี๊ปนีย์ของจริง มีหน้าตาเหมือนรถบัสจริงทุกประการ ทำจากดีบุกและทาสีด้วยสีสันสดใส รถบัสมียางและล้อหมุนได้ ข้างรถบัสมีป้ายทาสีเขียนว่า “Manila: The Next Convention Bureau” ซึ่งแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นของฝากฟิลิปปินส์ มะนิลาอย่างแน่นอน
กาแฟชื่อแปลกที่เหมาะกับการเป็นของฝากฟิลิปปินส์อย่างกาแฟบาทังกัสหรือที่เรียกกันในภาษาท้องถิ่นว่ากะเปงบาราโก (Kapeng Barako) ถือเป็นของฝากที่ยอดเยี่ยมสำหรับคอกาแฟเลยทีเดียว กาแฟบาทังกัสจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสชาติเข้มข้น เพราะเป็นเมล็ดกาแฟพันธุ์พิเศษคุณภาพสูงที่ปลูกได้มากในจังหวัด Batangas และ Cavite เท่านั้น โดยกาแฟชนิดนี้เริ่มแพร่หลายในฟิลิปปินส์ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1740 โดยบาทหลวงชาวสเปน จากนั้นเกษตรกรก็เริ่มนำมาเพาะปลูกกันมากขึ้น และในปี 1860 ก็เริ่มมีการส่งออกขายไปทั่วโลก โดยส่งไปยังซานฟรานซิสโกและบางส่วนของยุโรป ถือเป็นกาแฟที่มีราคาสูงกว่าเมล็ดกาแฟอื่นๆ ในเอเชีย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของฟิลิปปินส์ ร้านกาแฟ หรือซูเปอร์มาร์เก็ต
เอ่ยถึงขนมขบเคี้ยวแสนอร่อยที่เหมาะกับการเป็นของฝากฟิลิปปินส์ ชื่อของขนมข้าวโพดคอร์นนิกก็ต้องผุดมาเป็นอันดับต้นๆ ขนมชนิดนี้ทำมาจากข้าวโพดที่ผ่านการแช่น้ำเป็นเวลา 3 วัน โดยเคล็ดลับคือต้องเปลี่ยนน้ำที่ใช้แช่ทุกวัน จากนั้นจึงนำไปทอดให้กรุบกรอบ ส่วนใหญ่ชาวฟิลิปปินส์มักจะทานเล่น หรือนำมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ของว่าง หรือแม้แต่รับประทานคู่กับเบียร์ มีจำหน่ายทั่วไปในฟิลิปปินส์และหาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ดังนั้นหากลืมซื้อของฝากจากฟิลิปปินส์ก่อนขึ้นเครื่อง บอกเลยว่าแวะซูเปอร์ฯ หรือร้านค้าทั่วไปก็จะเจอขนมข้าวโพดคอร์นนิกวางจำหน่ายอยู่มากมาย นอกจากจะหาได้ง่ายแล้ว ยังมีรสชาติอร่อย ทานได้เพลินและราคาไม่แพงอีกด้วย
การเลือกซื้อของฝากฟิลิปปินส์ที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมได้อย่างชัดเจนคงหนีไม่พ้นหมวกสานสวยๆ อย่างหมวกซาลาโกต (Salakot) โดยชาวตากาล็อกและชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในที่ราบเกษตรกรรมของเกาะลูซอนตอนกลาง (Kapampangans) นิยมใส่กันเป็นประจำ นอกจากนี้ยังถูกสวมใส่ในช่วงการทำสงครามระหว่างการปฏิวัติฟิลิปปินส์อีกด้วย ปัจจุบันเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป หมวกก็อาจจะมีดีไซน์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากกำลังมองหาของฝากจากฟิลิปปินส์ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ อยากให้ลองแวะชมหมวกซาลาโกตดู แต่ว่าร้านขายของฟิลิปปินส์ทั่วไปอาจจะไม่มีจำหน่าย ดังนั้นแนะนำให้ไปร้านขายของที่ระลึกตามแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆ จะมีแบบและดีไซน์ให้เลือกมากกว่า
ของฝากฟิลิปปินส์ที่เหมาะกับคนรักดนตรีคงหนีไม่พ้นกีต้าร์แฮนด์เมดที่มีชื่อเสียงจากเกาะเซบู ส่วนกรรมวิธีการผลิตกีตาร์ก็มีความละเอียดประณีตมากๆ โดยองค์ประกอบหลักของกีตาร์จะทำจากไม้ซึ่งส่วนใหญ่มาจากไม้ท้องถิ่น ส่วนบอร์ดี้ของกีต้าร์ก็ทำโดยการดัดแถบไม้ให้เป็นรูปนาฬิกาทรายหรือเจาะรู กีตาร์ทำมือเหล่านี้ถือเป็นสินค้าพิเศษมากๆ เพราะกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันจึงทำให้สามารถผลิตกีตาร์ได้เพียงวันละ 1 โหลเท่านั้น ดังนั้นหากต้องซื้อของฝากจากฟิลิปปินส์ไอเท็มนี้ แนะนำให้ลองอีเมล์แจ้งความต้องการไปยังร้านที่ผลิตกีต้าร์เพื่อสั่งจองล่วงหน้าเสียก่อน
ใครที่มองหาของฝากฟิลิปปินส์สำหรับเพื่อนสาว เราขอแนะนำกระเป๋าบายงแบบโมเดิร์นที่มีลวดลายสวยงาม หากมองเผินๆ จะเห็นว่ากระเป๋าบายงมีหน้าตาคล้ายกับกระเป๋าสานของไทย แต่สำหรับฟิลิปปินส์บายงเปรียบเสมือนงานคราฟต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ ตัวกระเป๋าบายงจะผลิตด้วยการทอใบไม้แห้ง ใบไม้ที่ใช้ทำบายงจะแตกต่างกันไป แต่บายงแบบดั้งเดิมนั้นทำมาจากใบบุรีและใบเตย นอกจากนี้ยังอาจจะมีการใช้พืชพื้นเมืองของฟิลิปปินส์มาเป็นส่วนประกอบของกระเป๋าด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีการออกแบบและดีไซน์ให้บายงมีความทันสมัยยิ่งขึ้น ดังนั้นนอกจากจะมีสินค้าอย่างกระเป๋าหิ้วแล้ว เราอาจจะเห็นกระเป๋าบายงที่ใช้คาดอกและคาดเอวด้วยเช่นกัน ส่วนใครที่ชอบลวดลายเก๋ๆ แนะนำให้ลองมองหากระเป๋าบายงที่วาดลวดลายแบบแฮนด์เมด
คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าของฝากฟิลิปปินส์แสนอร่อยและขึ้นชื่ออย่างพายบูโกซึ่งบางครั้งก็เรียกว่าพายมะพร้าวอ่อน พายบูโกมีต้นกำเนิดในปี 1965 มาจากจังหวัดลากูน่าในประเทศฟิลิปปินส์ แต่ปัจจุบันเราสามารถหาทานพายชนิดนี้ได้ตามร้านกาแฟหรือร้านเบเกอรีทั่วประเทศ พายบูโกแสนอร่อยทำจากมะพร้าวอ่อน และใช้นมข้นหวานซึ่งทำให้พายมีเนื้อแน่นกว่าพายที่ใช้ครีมเป็นส่วนผสม และจุดเด่นของพายหลักๆ ก็คือเนื้อมะพร้าวอ่อนซึ่งถือเป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายในฟิลิปปินส์และเป็นจุดกำเนิดของพายบูโกก็ว่าได้ เนื่องจากพี่น้อง Pahud ผู้ซึ่งริเริ่มทำพายชนิดนี้ได้ไอเดียมาจากการทำพายแอปเปิลในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากแอปเปิ้ลหาได้ยากและไม่ใช่ผลไม้หลักของฟิลิปปินส์ ก็เลยมีการประยุกต์โดยการนำเอามะพร้าวเป็นส่วนประกอบหลักแทนแอปเปิลซึ่งบอกเลยว่าอร่อยและกลมกล่อมมากๆ
โซโลเคทเป็นเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมที่เหมาะกับการซื้อมาเป็นของฝากฟิลิปปินส์เป็นอย่างยิ่ง แม้ชื่อจะดูแปลกๆ แต่แท้จริงแล้วโซโคเลทก็คือช็อกโกแลตร้อนที่ทำจากเมล็ดโกโก้บดแบบโฮมเมด โดยการใช้ทาบลิยา (Tableya) หรือทาเลอา (Tablea) ซึ่งเป็นเมล็ดโกโก้คั่วบดบริสุทธิ์ แล้วนำไปละลายในน้ำและนม มักเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าทานคู่กับขนมปัง เครื่องดื่มชนิดนี้ถือเป็นวัฒนธรรมอาหารที่พบเห็นได้มากมายทั่วประเทศ ดังนั้นสำหรับใครที่มองหาของฝากจากฟิลิปปินส์อย่างโซโคเลทก็สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก ตามร้านขายของฟิลิปปินส์และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปก็มีวางจำหน่าย
หากมองหาของฝากฟิลิปปินส์ที่มีความละเมียดละไม ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอยคาปิซอย่างเช่น จานก็ถือว่าเป็นของฝากที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสินค้าที่ทำจากแผ่นเปลือกคาปิซจะเป็นการผลิตแบบแฮนด์เมดและเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างยิ่ง จานสีมุกจากเปลือกหอยคาปิซสามารถนำไปใส่อาหารได้จริง แต่หลายคนก็มักทึ่งในความสวยงามและมักจะเลือกนำไปประดับตกแต่งบ้านให้ดูหรูหรามากกว่านำไปใช้จริงๆ ดีไซน์ส่วนใหญ่ของจานเปลือกหอยคาปิซมักจะออกแนวคลาสสิกวินเทจซึ่งจะเติมแต่งบ้านให้มีบรรยากาศแบบท้องทะเล บอกเลยว่าของฝากจากฟิลิปปินส์ชิ้นนี้ถือเป็นไอเท็มตกแต่งบ้านที่ช่วยให้บ้านดูมีสไตล์มากยิ่งขึ้น
สำหรับของฝากฟิลิปปินส์ที่ออกแนวรักโลกแถมยังสวยอีกด้วย คนท้องถิ่นมักจะแนะนำให้ซื้อรองเท้าแตะสานลิลิฟ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นรองเท้าแตะที่สามารถใส่อยู่บ้านได้สบายๆ รองเท้าแตะชนิดนี้ถูกผลิตที่เมืองลิลิฟในลากูน่า ดีไซน์ก็ดูสวยงามและโดดเด่นไม่เหมือนรองเท้าแตะทั่วไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญเห็นสวยๆ แบบนี้มีความแข็งแรงและทนทานมากๆ เพราะตัวรองเท้าทำจากอะบาคา (Abaca) ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีลิกนินสูงถึง 15% จึงมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก บอกเลยว่ารองเท้าแตะสานลิลิฟจะต้องเป็นของฝากจากฟิลิปปินส์ที่ผู้รับตกหลุมรักอย่างแน่นอน
ใครที่ต้องการของฝากฟิลิปปินส์ที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริงๆ ขอแนะนำผ้าเช็ดตัวอินาเบลซึ่งเป็นผ้าทอมือแบบดั้งเดิมด้วยการใช้เครื่องทอผ้าแบบโบราณ และสร้างสรรค์ความสวยงามด้วยสตรีท้องถิ่นในภูมิภาคอิโลกอส (Ilocanos) โดยเนื้อผ้าที่ถักทอด้วยเทคนิคนี้จะมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานมากๆ ถือเป็นการอัปเกรดจากผ้าเช็ดตัวธรรมดาทั่วไปให้กลายเป็นผ้าทอมือที่งดงาม ของฝากจากฟิลิปปินส์ชิ้นนี้มีเอกลักษณ์และมีสไตล์ไม่เหมือนใคร นอกจากผ้าเช็ดตัวแล้ว ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่ใช้กรรมวิธีเดียวกันในการผลิต เช่น ผ้าเช็ดมือ ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง และปลอกหมอน
กว่าจะมาเป็นผ้าลายปักที่กลายมาเป็นของฝากฟิลิปปินส์ยอดนิยมนั้นต้องผ่านขั้นตอนที่พิถีพิถันในการผลิต ที่สำคัญผ้าลายปักอิทเน็กนั้นนิยมผลิตในชนเผ่าอิทเน็ก (Itneg) ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอะบรา (Abra) โดยชนเผ่านี้ได้เก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นผ่านรูปแบบการทอผ้าอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยการเย็บปักถักร้อยที่เรียกว่าคินาเมย์ ดังนั้นบอกเลยว่าผ้าลายปักอิทเน็กถือเป็นของฝากที่ทรงคุณค่าและยังเป็นการช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชนเผ่าให้สืบต่อไปได้
หากได้ลองชิมช็อกโกแลตชงร้อนอย่างโซโคเลทแล้วติดใจ ขอแนะนำให้ซื้อช็อกโกแลตแท่งไว้เป็นของฝากฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่าประเทศฟิลิปปินส์เป็นแหล่งผลิตช็อกโกแลตแท่งคุณภาพสูง ที่สำคัญหาซื้อได้ง่าย โดยแบรนด์ยอดนิยมก็จะเป็นยี่ห้อ Auro Chocolate และถ้าหากอยากได้ของฝากจากฟิลิปปินส์แบบแปลกแหวกแนว แนะนำให้ซื้อช็อกโกแลตที่ผสมผสานกับรสชาติท้องถิ่น เช่น มะม่วงและมาลากอส (Malagos)
มันม่วงทำอะไรก็อร่อย ดังนั้นของฝากฟิลิปปินส์ที่พลาดไม่ได้และรสชาติดีงามมากๆ อย่างแยมมันม่วงจึงเป็นของฮิตติดชาร์ต โดยแยมมันม่วงต้นตำรับแท้จากฟิลิปปินส์นั้นผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1976 ที่ Good Shepherd Convent แยมมันม่วงมีส่วนผสมอย่าง เนย น้ำตาล นมข้นจืด นมข้นหวาน หรือกะทิ มีสีม่วงเข้มสดใส เนื้อหนาและเป็นครีม และมีรสถั่วเล็กน้อย บอกเลยว่านำมาทาขนมปังจะอร่อยเด็ดมากๆ ที่สำคัญถือเป็นของฝากจากฟิลิปปินส์ที่ต้องติดกระเป๋ากลับบ้านไปให้ได้
สายหวานจะต้องชอบของฝากฟิลิปปินส์ชิ้นนี้อย่างแน่นอน เพราะปาสติลลัส เด เลเช่ เป็นลูกอมที่หอมนุ่มแสนอร่อย ทำจากน้ำตาลและนมมีความนุ่มละมุนมากๆ มีต้นกำเนิดจากซานมิเกล (San Miguel) ที่อยู่ในเมืองบูลากัน (Bulacan) โดยทั่วไปมักจะมี 3 แบบให้เลือกคือ แบบอ่อน แบบแข็ง และแบบปิ้ง และที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือกระดาษที่ห่อนมเม็ดนั้นจะเป็นแบบพิเศษ โดยเป็นที่รู้จักในท้องถิ่นว่าเป็นศิลปะการตัดกระดาษซึ่งเหมาะกับการซื้อเป็นของฝากจากฟิลิปปินส์เป็นอย่างยิ่ง
เครื่องดื่มแปลกๆ ที่ไม่มีขายที่ไหนในโลกนอกจากฟิลิปปินส์อย่างไวน์ข้าวตาปุยถือเป็นไอเท็มของฝากฟิลิปปินส์ที่น่าสนใจไม่ได้น้อย ในบางครั้งก็จะเรียกอีกชื่อว่า 'สาเกฟิลิปปินส์' ไวน์ชนิดนี้ทำจากข้าวเหนียว สารสกัดจากขิง และบูโบด (ยีสต์กอร์ดิลเลอรัน) และมักนำมาใช้ในพิธีการสำคัญ หรือเสิร์ฟในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน การเฉลิมฉลองใหญ่ๆ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วผู้คนท้องถิ่นก็มักจะทำไวน์ชนิดนี้ด้วยตนเองและเก็บไว้เพื่อดื่มเป็นประจำในทุกๆ วัน
ปาซาลูบงหรือที่แปลว่าของที่ระลึกจากการเดินทางในภาษาตากาล็อกถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในฟิลิปปินส์ ดังนั้นหากเรามาเยือนประเทศที่สวยงามแห่งนี้ การแวะซื้อของฝากฟิลิปปินส์จึงถือเป็นสิ่งควรทำเป็นอย่างมาก ประเทศสวยๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยงานศิลปะและงานฝีมือ แถมยังมีอาหารและขนมท้องถิ่นที่อร่อยเด็ดไม่แพ้ชาติอื่น ที่สำคัญราคาสินค้าก็ไม่ต่างจากบ้านเรามากนัก ยิ่งไปช้อปปิ้งตามตลาดใหญ่ๆ ก็ยิ่งสามารถต่อรองราคาได้อีกด้วย ดังนั้นกิจกรรมที่ควรทำก่อนปิดทริปก็คือการเลือกซื้อของฝากแทนใจกลับไปให้คนที่เมืองไทยนั่นเอง
