ใครจะไปคิดว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าจะมีของฝากพม่าที่น่าสนใจไม่แพ้ที่ใดในโลก ยิ่งใครเป็นสายมูหรือชอบไหว้พระ การไปเยือนพม่านอกจากจะได้รับพลังงานดีๆ กลับมาแล้ว เรายังอาจจะได้ของขลังพม่ากลับมาฝากคนใกล้ชิดอีกด้วย พม่าถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ เพราะมีตั้งแต่เจดีย์ชเวดากองที่ยิ่งใหญ่ไปจนถึงเกาะสวยๆ น้ำทะเลสีฟ้าคราม นอกจากนี้พม่ายังมีมรดกจากยุคอาณานิคมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามด้วยเช่นกัน
สำหรับคนที่วางแผนจะช้อปปิ้งของฝากพม่าก็คลายกังวลไปได้เลย เพราะลิสต์ของฝากที่น่าสนใจนั้นมีหลากหลายรายการ ตั้งแต่เครื่องประดับสวยๆ อย่างเช่นหยกชิ้นงามจากตลาดสก๊อต พม่า ไปจนถึงของขลังสายมูที่มีให้แวะเลือกซื้อกันอย่างละลานตา ที่สำคัญสินค้าจากพม่าส่วนใหญ่สามารถต่อรองราคาได้อีกด้วย ดังนั้นเตรียมเก็บลิสต์ของฝากจากพม่าเพื่อไปตะลุยช้อปปิ้งกันได้เลย
ไม่ต้องสงสัยว่าสาวพม่าผิวงามมาจากไหน เพราะส่วนใหญ่สาวๆ จะใช้ของฝากพม่าอย่างทานาคาในการดูแลผิวพรรณ โดยทานาคาจะช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียน ขาวผ่องแถมยังช่วยลดสิวฝ้าได้อีกด้วย และด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามยอดนิยม เราจึงสามารถหาซื้อทานาคาได้ในตลาดเกือบทุกแห่งทั่วประเทศ สำหรับใครที่อยากลองทานาคเวอร์ชันออริจินอล แนะนำให้เลือกซื้อกิ่งทานาคาซึ่งจะต้องซื้อหินมาไว้ใช้คู่กัน เพราะเราจะต้องถูไม้ทานาคากับหินเพื่อทำให้แป้งออกมาถึงจะใช้งานได้ เปรียบเสมือนกับว่าเราจะได้ทานาคาสดใหม่ที่ผลิตด้วยตัวเองอยู่เสมอ บอกเลยว่าเป็นของฝากจากพม่าที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
พม่าเป็นสถานที่ผลิตหยกที่มีชื่อเสียงระดับโลก ดังนั้นของฝากพม่ายอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นหยกสวยๆ และเนื่องจากหยกกว่า 90% ในโลกขุดได้ในประเทศพม่าจึงทำให้หยกหาซื้อได้ง่ายและมีหลายดีไซน์ให้เลือกซื้อหา โดยหยกที่พม่านั้นนอกจากจะมีสีเขียวแบบที่เราคุ้นเคยกันดีแล้ว ยังมีหยกที่มีสีชมพู เขียว ส้ม ลาเวนเดอร์ และน้ำตาล ส่วนแหล่งขายหยกขนาดใหญ่มักจะอยู่ที่ตลาดดั้งเดิมในเมืองหลักๆ รวมไปถึงตลาดสก๊อต พม่าที่มีชื่อเสียงก็มีหยกหลายรูปแบบให้เลือกซื้อด้วยเช่นกัน ส่วนใครมีเวลาน้อยอาจจะลองไปเลือกช้อปปิ้งหยกที่ห้างสรรพสินค้าหรือที่สนามบินได้ แต่บอกก่อนว่าราคาอาจจะสูงกว่าที่ตลาดค่อนข้างมาก
ศิลปะของพม่านั้นน่าสนใจมากๆ แถมเรายังสามารถซื้อหุ่นกระบอกเหล่านี้มาเป็นของฝากพม่าที่มีไสตล์เฉพาะตัวมาฝากคนที่บ้านได้อีกด้วย กล่าวกันว่าวัฒนธรรมหุ่นกระบอกของพม่าแบบดั้งเดิมนั้นมีมายาวนานหลายพันปีแล้ว โดยน่าจะเริ่มราวศตวรรษที่ 11 ถึง 15 โดยตัวหุ่นกระบอกจะมีองค์ประกอบมากถึง 18 ชิ้นเลยทีเดียว ดังนั้นการทำหุ่นกระบอกจึงถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ เพราะต้องอาศัยทั้งความชำนาญและความประณีต อาจจะไม่ใช่ของฝากจากพม่าที่หาซื้อได้ง่ายนัก แต่หากได้ไปเยือนเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นเมืองที่มีการเชิดหุ่นอยู่มากมายก็จะสามารถหาซื้อหุ่นกระบอกเป็นของที่ระลึกได้ไม่ยาก
เป็นระฆังที่ทำมาจากทองแดงหรือทองเหลือง มีขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการซื้อเป็นของฝากพม่า หลายคนอาจจะคิดว่าระฆังน่าจะมีขนาดใหญ่ แต่ระฆังพม่าชนิดนี้จะมีรูปร่างแบนและเป็นรูปสามเหลี่ยม จุดเด่นอีกอย่างก็คือมีเสียงใสก้องกังวานที่ไพเราะมากๆ โดยชาวพม่ามักจะใช้ระฆังในการทำสมาธิหรือการปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนา ในอดีตถูกใช้เป็นสกุลเงินและสินสอดอีกด้วย ชาวพม่ามีความเชื่อกันว่าระฆังจะมีพลังวิเศษที่ช่วยแก้ปัญหาและขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไป ราคาของพม่าอย่างระฆังนั้นไม่ได้แพงมากนักจึงเหมาะกับการซื้อเป็นของฝากเป็นอย่างยิ่ง
(Pathein’s handmade parasols) ของฝากพม่าอีกอย่างที่เป็นงานแฮนด์เมดและมีเอกลักษณ์มากๆ อย่างร่มพะสิมนั้นถือเป็นของที่ระลึกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลยทีเดียว โดยความแตกต่างของร่มจากพะสิมนั้นก็คือเรื่องของสีสันที่สดใสและลวดลายที่สวยแปลกตา นอกจากนี้ร่มจากพะสิมรุ่นแรกจะทำจากกระดาษ แต่ปัจจุบันเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปก็มีการปรับใช้วัสดุที่ตอบรับกับชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น โดยมีวัสดุหลากหลายประเภท เช่น ผ้าไหมและผ้าฝ้าย แม้ร่มต้นตำรับจะอยู่ที่เมืองพะสิม แต่เราก็สามารถหาซื้อร่มชนิดนี้ได้ตามตลาดใหญ่ๆ ทั่วพม่า
ใครที่อยากซื้อของฝากพม่าสำหรับคุณแม่หรือผู้สูงอายุ ขอแนะนำผ้าลองยีที่งดงาม ผ้าลองยีเป็นเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมของพม่า และถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวพม่าก็ว่าได้ เพราะแทนที่จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ทันสมัยแบบตะวันตก แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังคงอนุรักษณ์โดยนุ่งผ้านุ่งลองยี ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ผ้านุ่งลองยีสามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิง ดังนั้นเวลาเห็นผู้ชายพม่าใส่ผ้านุ่งเหมือนกระโปรงก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนั่นคือผ้าลองยีนั่นเอง ปัจจุบันผ้านุ่งลองยีมีให้เลือกหลากหลายเนื้อผ้า โดยทั่วไปจะเป็นผ้าฝ้าย แต่ก็มีการใช้วัสดุที่หรูหรายิ่งขึ้น เช่น ผ้าไหมซึ่งชาวพม่ามักจะนำมาใส่ในโอกาสพิเศษ
ของฝากพม่าอย่างเครื่องเขินนั้นอาจจะมีความคล้ายคลึงกับเครื่องเขินไทยอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ว่ากันว่าเครื่องเขินถือเป็นของฝากจากพม่าที่ขายดีเป็นอันดับ 1 เลยทีเดียว ด้วยศิลปวัฒนธรรมที่มีความผสมผสานจึงทำให้เครื่องเขินของพม่ามีลวดลายและสีสันที่อาจจะไม่เคยเห็นในเมืองไทย ดังนั้นจึงเหมาะที่จะซื้อไปเป็นของฝากจากพม่าเป็นอย่างมาก โดยประวัติของเครื่องเขินพม่านั้นมีต้นกำเนิดในเมืองพุกามตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 12 ส่วนขั้นตอนการผลิตเครื่องเขินก็ค่อนข้างที่จะซับซ้อน และถือเป็นงานศิลปะที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นราคาก็อาจจะสูงอยู่สักหน่อย
ยอมรับเลยว่าศิลปะของพม่านั้นน่าทึ่งมากๆ ดังนั้นอย่าลืมหาซื้อภาพวาดจากทรายของฝากพม่าที่โดดเด่นและแตกต่างจากภาพวาดธรรมดาทั่วไป เทคนิคการวาดภาพด้วยทรายถือเป็นรูปแบบศิลปะที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยเทคนิคการวาดด้วยทรายนั้นมีต้นกำเนิดที่เมืองพุกามราวๆ ปี 1975 หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ทำลายเจดีย์จำนวนมากซึ่งก็ทำให้จิตรกรรมฝาผนังถูกเปิดออก ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นสร้างแรงบันดาลใจให้กับจิตรกรในการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบใหม่ สำหรับผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมพม่า ภาพวาดจากทรายมักนำเสนอเรื่องราวและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน รวมถึงอาจจะมีการสื่อถึงขนบประเพณีและความเชื่อทางพุทธศาสนาที่น่าสนใจอีกด้วย
ความโดดเด่นของเครื่องเงินพม่านั้นฮิตติดชาร์ตจนกลายเป็นของฝากพม่าที่ขายดีติดอันดับ 2 รองจากเครื่องเขินเลยทีเดียว โดยเครื่องเงินที่จำหน่ายในพม่ามีหลายประเภท เช่น แหวน สร้อยคอ กำไล รวมไปถึงของใช้บางอย่าง เช่น แหวนใส่ผ้าเช็ดปากที่หรูหรา ดังนั้นหากอยากได้เครื่องเงินที่มีดีไซน์แปลกๆ และต่างจากของไทย เครื่องเงินพม่าที่ถูกออกแบบอย่างละเอียดอ่อนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวน่าจะตอบโจทย์สายช้อปได้อย่างดีเยี่ยม แต่สิ่งสำคัญในการซื้อของฝากจากพม่าอย่างเครื่องเงินก็คือ เราควรขอใบรับรองความเป็นเงินแท้จากร้านค้าหรือจากช่างเงินเพื่อหลีกเลี่ยงของปลอมหรือของเลียนแบบ
สำหรับคนที่อยากซื้อของฝากพม่าที่เป็นสินค้าแฮนด์เมดจากชนเผ่าหรือชาวชาติพันธุ์ แนะนำลองแวะซื้อกระเป๋าฉานที่ผลิตโดยชนเผ่าคาย่า (Kayah) ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ โดยหากดูจากลักษณะของห่วงที่คอและการแต่งกายก็จะดูคล้ายกับชาวเขาในประเทศไทยนั่นเอง กระเป๋าฉานที่ผลิตโดยชาวคาย่ามักจะมีสีสันสดใสและมีลวดลายหลากหลายให้เลือกซื้อ ชิ้นงานจะมีความประณีตเพราะถักทอด้วยเส้นด้ายตามแบบฉบับสินค้าทำมือ แถมยังมีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่ายในโซนท่องเที่ยวอย่างทะเลสาบอินเล
แม้เราจะมีตัวเลือกอย่างผ้าสวยๆ ที่เหมาะจะเป็นของฝากพม่ามากมายหลากหลายชนิด แต่ผ้าทอที่สวยแปลกตาและหาซื้อได้ยากอย่างผ้าทอบัวก็ถือเป็นของฝากที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะคงจะมีไม่กี่แห่งในโลกที่จะทอผ้าจากดอกบัวที่งดงาม โดยผ้าทอบัวนั้นทำกันแค่ในหมู่บ้าน In Paw Khon ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบอินเลเท่านั้น การทอผ้าด้วยมือมีประวัติย้อนกลับไปราวๆ 1 ศตวรรษเท่านั้น โดยผ้าทอชนิดนี้จะทำจากเส้นใยบัวที่ได้มาจากการตัดก้านของต้นบัว จากนั้นช่างทอก็จะใช้เทคนิคการปั่นด้ายจากต้นบัวในการทอผ้าสวยๆ ออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะใยบัวนั้นบอบบางมากจึงทำให้การทอผ้าเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้ความอดทนสูง ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าทอบัวมักจะเป็นผ้าพันคอและผ้าคลุมไหล่ที่สวยงาม ดังนั้นหากมองหาของฝากให้คุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ ขอแนะนำเลยว่าหากมีโอกาสไปเที่ยวแถวทะเลสาบอินเลควรจะซื้อของฝากจากพม่าอย่างผ้าทอบัวมาให้ได้ เพราะนอกจากจะเป็นของฝากที่มีคุณค่าแล้วยังเป็นของหายากอีกด้วย
หากกำลังตามหาของฝากพม่าที่เหมาะกับญาติผู้ใหญ่ เราขอแนะนำให้ลองซื้อผ้าไหมพม่าลายสวยๆ มาเป็นของฝากชิ้นสำคัญดูสักผืน เพราะการทอผ้าไหมถือเป็นอาชีพหลักของประเทศนี้เลยก็ว่าได้ ดังนั้นการผลิตเส้นไหมจึงมีคุณภาพค่อนข้างสูง ช่างทอส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีการย้อมแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ที่สำคัญการผลิตผ้าไหมที่พม่ายังคงใช้สีย้อมจากธรรมชาติอยู่ เช่น ครั่ง (สีแดง) สีคราม (สีน้ำเงิน) และเปลือก (สีเหลือง) ในแต่ละภูมิภาคก็จะใช้เทคนิคการทอที่ต่างกัน แถมลวดลายก็แตกต่างไปตามศิลปวัฒนธรรมของภูมิภาคนั้นอีกด้วย ปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมพม่านั้นมีหลายรูปแบบ เช่น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ กระโปรง
ศาสนาพุทธในพม่านั้นเข้มแข็งมาก ดังจะเห็นได้จากวัดวาอารามที่มีอยู่มากมายในทุกๆ เมือง และผู้คนมากกว่า 90% ก็นับถือศาสนาพุทธด้วยเช่นกัน ดังนั้นของฝากพม่าที่มีค่าทางจิตใจอย่างการเช่าพระพุทธรูปก็ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตพระพุทธรูปก็มีมากมายหลายแบบ เช่น โลหะ ไม้ หิน แต่ที่น่าสนใจก็น่าจะเป็นพระพุทธรูปที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านเราอย่างพระพุทธรูปที่ทำจากไม้ที่แฝงไปด้วยความงดงามและความอ่อนช้อย
การดื่มชาเป็นวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับชาวพม่ามาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุนี้การหาซื้อของฝากพม่าที่เป็นชากล่องเล็กๆ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ตำนานเล่าว่าการปลูกชาริเริ่มโดยพระเจ้าอลอง สีทู (ค.ศ. 1113-1167) ซึ่งประทับอยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉานในปัจจุบัน ต่อมาเมื่อประเทศพม่าตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษจึงทำให้มีการปลูกชาในเชิงพาณิชย์เพื่อส่งออกไปยังอังกฤษ ซึ่งเป็นในลักษณะเดียวกับที่อินเดียทำในตอนช่วงที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันคนพม่าส่วนใหญ่นิยมดื่มชาเป็นอาหารเช้า ดังนั้นร้านน้ำชาที่มีอยู่มากมายตามท้องถนนก็จะค่อนข้างคึกคักในช่วงเช้าด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การปลูกชาในพม่ายังมีมากมายหลายชนิด รวมถึงชาที่มีชื่อเสียง เช่น ชาเขียว ชาอู่หลง และพันธุ์ชาที่มีกลิ่นหอม โดยส่วนใหญ่ชาในประเทศพม่ามักจะปลูกบนที่ราบสูงในรัฐฉานเป็นหลัก เนื่องจากมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นจึงถือเป็นถิ่นกำเนิดชาหลากหลายสายพันธุ์ ดังนั้นบอกได้เลยว่าหากมองหาของฝากจากพม่าที่มีคุณภาพสูง การเลือกซื้อชาพม่าก็ถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ถ้าคุณมีเพื่อนสายปาร์ตี้ ของฝากพม่าที่ต้องแวะซื้อให้ได้ก็คือเบียร์ที่มีชื่อเสียงและรสชาติดีเยี่ยม ต้องบอกก่อนว่าชาวพม่าถือว่าเบียร์เป็นเครื่องดื่มที่หรูหราเพราะอาจจะมีราคาสูงกว่าเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เบียร์ทั่วไปที่หาได้ในท้องตลาดจะบ่งบอกความแรงของแอลกอฮอล์ด้วยสีของฉลาก โดยเบียร์ฉลากเขียวจะมีแอลกอฮอล์ราว 5 % ส่วนเบียร์ฉลากขาวหรือที่เรียกว่าดับเบิลสตรองจะมีแอลกอฮอล์ราวๆ 7.7 % ส่วนเบียร์ยอดนิยมในพม่าก็จะเป็นเบียร์ท้องถิ่นยี่ห้อดากองลาเกอร์ (Dagon Lager Beer) ซึ่งมีรสชาติที่ค่อนข้างหวานเข้มข้นผสมกับรสขมแหลมเล็กน้อย โดยมีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ราวๆ 8 % ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือเบียร์ยี่ห้อนี้จะมีส่วนผสมจากวอดก้าและน้ำเชื่อมกลูโคสซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติของเบียร์ให้สดชื่นและกลมกล่อมยิ่งขึ้น สำหรับคนที่จะซื้อของฝากจากพม่าอย่างเบียร์แนะนำให้ซื้อแบบกระป๋องจะได้พกพาง่ายยิ่งขึ้น
เครื่องเคียงที่เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ตามแบบฉบับของพม่าถือเป็นของฝากพม่าที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับสายกิน โดยบาลาชองประกอบด้วยหอมแดง กระเทียม ขิง กุ้ง และพริกแดงซึ่งนำมาทอดจนได้กลิ่นหอม นอกจากข้าวสวยร้อนๆ แล้ว บาลาชองยังทานกับไข่เจียวได้อย่างอร่อยเด็ดอีกด้วย จริงๆ ถ้าทำสดๆ ใหม่ๆ จะเป็นของฝากจากพม่าที่อร่อยมากๆ แต่ส่วนใหญ่เรามักจะหาซื้อได้ตามตลาดท้องถิ่นซึ่งอาจจะทำเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นก่อนซื้ออาจจะลองขอชิมดูก่อนเพื่อให้มั่นใจว่ารสชาติยังหอมอร่อยเหมือนเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ
ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นซิการ์จากประเทศในโซนอเมริกาใต้ แต่ของฝากพม่าที่มีเอกลักษณ์และหาซื้อได้ค่อนข้างยากในโซนเอเชียอย่างซิการ์นั้นก็น่าสนใจไม่น้อย โดยแหล่งขายซิการ์ยอดนิยมคือทะเลสาบอินเล เพราะเป็นพื้นที่ที่ผู้คนเก็บเกี่ยวต้นยาสูบและสร้างส่วนผสมพิเศษตามประเพณีดั้งเดิม ซิการ์แบบพม่า 8 ห่อจะมีราคาราวๆ ประมาณ 1 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าถูกมากๆ หากเทียบกับของฝากจากพม่าประเภทอื่น
นอกจากจะเก็บไว้ได้นานแล้วยังเป็นของฝากพม่าที่แสนอร่อยและมีราคาย่อมเยาอีกด้วย ผลไม้แช่อิ่มของพม่าจะใช้ส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลปี๊บ ผลไม้แห้งหรือสด น้ำเชื่อมข้าวโพด และเกลือ โดยส่วนใหญ่ที่พม่าจะนิยมแปรรูปผลไม้จากขนุน มะยม ลูกพลัม กะดุก มะม่วง มะนาว มะเขือเทศ ทุเรียน และสับปะรด เวลาซื้อของฝากจากพม่าชนิดนี้แนะนำให้เลือกของที่ใส่ในบรรจุภัณฑ์สุญญากาศเพื่อช่วยรักษารสชาติและกลิ่นของผลไม้
ของว่างแสนอร่อยและทานง่ายอย่างขนมงาถือเป็นของฝากพม่าที่หาซื้อได้ง่ายมาก ส่วนผสมหลักของขนมก็จะเป็นเมล็ดงาคั่วและถั่ว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้ถั่วลิสงเปราะ จากนั้นก็จะมาผสมกับน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง เกลือ และบางครั้งก็จะใส่มะขามเพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมจนทานเพลินแบบหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว
ขนมหวานชื่อแปลกที่มีต้นกำเนิดในภูมิภาค Pathein ถือเป็นขนมหวานยอดนิยมที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า กะทิ และน้ำตาลโตนด โดยบางครั้งก็อาจจะมีการใส่เมล็ดงา Pathein Halawa เข้าเป็นส่วนผสม ถือเป็นขนมที่ดังขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อสัมผัสและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ของฝากพม่าชิ้นนี้มีรสชาติอร่อยแถมยังเหมาะกับการทานคู่กับชาหรือกาแฟ และเป็นของขวัญยอดนิยมสำหรับซื้อกลับจากพม่า ที่สำคัญหาซื้อได้ง่ายและมีราคาย่อมเยา
แม้หลายคนอาจจะคิดว่าการช้อปปิ้งของฝากพม่าไม่น่าจะสนุกเท่ากับประเทศอื่นๆ แต่บอกเลยว่าคุณอาจจะคิดผิดเพราะพม่าเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในด้านทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นบอกเลยว่าของฝากจากพม่าที่บ่งบอกถึงความเจริญเติบโตของภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมนั้นมีมากมายหลายชนิดให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ตามท้องตลาดส่วนใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นยังขายสินค้าที่มีราคาค่อนข้างถูกและยังต่อรองได้อีกด้วย ดังนั้นรับประกันได้เลยว่าคุณจะต้องสนุกกับการช้อปปิ้งของฝากในพม่าอย่างแน่นอน
