15 เมืองหลวงยุโรป ห้ามพลาด พาเที่ยวจุดยอดฮิต เมื่อไปถึงยุโรป Cover Page

ยุโรปดินแดนในฝันของนักเดินทางที่หลงใหลประวัติศาสตร์ ศิลปะ และความโรแมนติกที่หลายคนใฝ่ฝันถึง แต่ด้วยความห่างไกลและเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางทำให้หลายคนเหลือเวลาท่องเที่ยวน้อย ครั้นจะลางานหลายวันก็เกรงใจเพื่อนร่วมงาน จนต้องรอให้มีวันหยุดยาวๆ เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยว แต่รู้หรือไม่ว่า ต่อให้คุณมีเวลาที่จำกัดก็สามารถไปเที่ยวยุโรปได้ เพราะแค่ในตัวเมืองหลวงของแต่ละประเทศ ต่างก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย การแวะเที่ยวเมืองหลวงของแต่ละประเทศในยุโรป ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและใช้เวลาเดินทางอย่างไม่ต้องเร่งรีบ มีเวลาเดินชมงานศิลปะในสถานที่สำคัญต่างๆ ดื่มด่ำไปกับความโรแมนติกของบรรยากาศที่รายล้อม ซึ่ง 15 เมืองหลวงยุโรป ที่น่าสนใจ มีที่เที่ยวยอดฮิตที่ไหนบ้างเราจะมาแนะนำให้คุณได้ลองนำไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกทริปท่องเที่ยวกันค่ะ  

 

แนะนำ 15 เมืองหลวงในยุโรป ที่ต้องไปเยือนให้ได้!

 

เมืองหลวงยุโรป Image1

 

1. เมืองหลวงยุโรป เบอร์ลิน, เยอรมนี (Berlin, Germany)

 

เมืองหลวงยุโรป เบอร์ลิน, เยอรมนี (Berlin, Germany) Image2

 

เริ่มต้นด้วยเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี เมืองเบอร์ลิน เมืองหลวง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งหนึ่งของยุโรป โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอยู่หลายแห่ง ทั้งยังมีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพมีเส้นทางที่ครอบคลุมทั่วเมือง ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวเมืองเบอร์ลินสะดวกสบายมากทีเดียว ซึ่งสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดได้แก่ ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) แลนด์มาร์คและศูนย์กลางของเมืองเบอร์ลิน, มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral Church), เบอร์ลินวอลอีสท์ไซด์แกลลอรี่ (Berlin Wall East Side Gallery) ชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินที่ยังหลงเหลืออยู่เป็นอนุสรณ์และสัญลักษณ์ของการรวมชาติเยอรมนี, อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) และจัตุรัสอเล็กซานเดอร์พลัทซ์ (Alexanderplatz) จัตุรัสกลางเมืองที่เป็นจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ และยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง กิน ดื่ม ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาเดินเล่น

 

2. เมืองหลวงยุโรป บูดาเปสต์, ฮังการี (Budapest, Hungary)

 

เมืองหลวงยุโรป บูดาเปสต์, ฮังการี (Budapest, Hungary) Image3

 

เมืองมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO) ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติกของสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโคโลเนียลที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็น สะพานเชน เซเชนยี (Széchenyi Chain Bridge) หนึ่งในสะพานข้ามแม่น้ำดานูบที่สวยในยุโรป เป็นสะพานโซ่ขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยรูปแกะสลักสิงโตหมอบขนาดใหญ่บริเวณคอสะพานทั้งสองฝั่ง, อาคารรัฐสภาฮังการี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบและยังมีอาคาร โบสถ์ วิหารโบราณอีกหลายแห่ง ซึ่งในช่วงเวลากลางคืนสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำจะพากันประดับประดาด้วยแสงไฟ สว่างไสว จนกลายเป็นไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการล่องเรือชมความงดงามของแม่น้ำดานูบในยามค่ำคืน

 

3. เมืองหลวงยุโรป ปราก, สาธารณรัฐเช็ก (Prague, Czech)

 

เมืองหลวงยุโรป ปราก, สาธารณรัฐเช็ก (Prague, Czech) Image4

 

เมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปีของยุโรป อย่างเมืองปราก  สาธารณรัฐเช็ก ย่อมต้องโดดเด่นเต็มไปด้วยโบราณสถานและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าอาทิ Prague Castle - ปราสาทปราก ปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมือง ซึ่งภายในยังเป็นที่ตั้งของ St. Vitus Cathedral หรือ มหาวิหารเซ็นต์วิตุส ที่เต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมและปฏิมากรรมอันล้ำค่า โดยเฉพาะหน้าต่างกระจกสีภาพนักบุญ ที่วิจิตรงดงาม จึงไม่แปลกใจเลยที่เมืองปรากจะได้รับการจัดให้เป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก และไม่ควรพลาดการเดินเล่นชมบรรยากาศที่ Charles Bridge - สะพานชาร์ลส์ สะพานข้ามแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินที่ทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป

 

4. เมืองหลวงยุโรป ปารีส, ฝรั่งเศส (Paris, France)

 

เมืองหลวงยุโรป ปารีส, ฝรั่งเศส (Paris, France) Image5

 

เมืองแห่งความรัก มหานครแห่งความโรแมนติก เมืองหลวงแห่งแฟชั่น ศิลปะของยุโรป เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก หอไอเฟลที่เป็นเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปารีส ซึ่งปารีสยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่รอต้อนรับผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นสะพานปงต์เนิฟ (Pont Neuf) สะพานข้ามแม่น้ำแซน ที่มีอีกชื่อเรียกคือ “สะพานแห่งความรัก”, มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre-Dame Cathedral) มหาวิหารสไตล์โกธิคที่วิจิตรงดงามที่สุด, พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musee du Louvre) ที่เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง, ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) อนุสรณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม, พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace) ที่ถูกจัดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก ฯลฯ ซึ่งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองปารีส  

 

5. เมืองหลวงยุโรป มาดริด, สเปน (Madrid, Spain)

 

เมืองหลวงยุโรป มาดริด, สเปน (Madrid, Spain) Image6

 

เมืองหลวงเก่าแก่ของยุโรปที่เป็นหลายคนจดจำได้จากชื่อของสโมสรฟุตบอลชื่อดัง เรอัล มาดริด (Real Madrid Club de Fútbol) ที่แฟนฟุตบอลตัวยงอยากจะเยี่ยมเยือนสนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabéu Stadium) และพิพิธภัณฑ์ของทีมเรอัลมาดริดให้ได้สักครั้ง แต่ถ้าใครที่ไม่ใช่แฟนฟุตบอล เมืองมาดริดก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ  รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง อาทิ พลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสกลางเมืองมาดริดและเป็นแลนมาร์คสำคัญของเมือง, เรติโร ปาร์ค (Parque de EI Retiro) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ประจำเมืองที่ไม่ควรพลาด, พระราชวังหลวงมาดริด (Royal Palace of Madrid) ที่งดงามอลังการแบบฉบับสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป และยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่ง แต่ถ้าใครอยากช้อปปิ้ง กินเที่ยวแบบคนมาดริด แนะนำให้ไปที่ แกรน เวีย (Gran Via) ช้อปปิ้งสตรีทใจกลางเมือง หรือไปสัมผัสบรรยากาศแบบคนท้องถิ่นที่ ตลาดเมอคาโด (Mercado de Anton Martin) ก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจไม่น้อย

 

6. เมืองหลวงยุโรป เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์ (Reykjavik, Iceland)

 

เมืองหลวงยุโรป เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์ (Reykjavik, Iceland) Image7

 

เมืองเรคยาวิก เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุดในยุโรป หลายคนจึงเข้าใจว่าเมืองเรคยาวิกจะมีหิมะตกตลอดทั้งปี ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมืองเรคยาวิกก็มีช่วงที่อากาศแจ่มใส และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม อย่างเช่น  โบสถ์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา (Hallgrímskirkja) ที่เป็นแลนด์มาร์คของเมือง, Harpa  อาคารที่ตกแต่งด้วยกระจกหกเหลี่ยมทั้งหลัง, Vikin Maritime Museum พิพิธภัณฑ์การเดินเรือไวกิ้งที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การเดินเรือของชาวไอซ์แลนด์ดิก ฯลฯ และนอกจากนี้เราสามารถเดินชมบรรยากาศรอบๆ ของเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารร้านรวงสีลูกกวาดที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์เรียงรายอยู่รอบเมือง ซึ่งจะมีภาพงานศิลปะ ประติมากรรมสวยๆ แทรกตัวอยู่เป็นระยะ หรือจะออกไปชมธรรมชาติ ล่าแสงเหนือ หรือล่องเรือชมวาฬในวันที่สภาพอากาศเป็นใจ ก็เป็นกิจกรรมที่พบได้ในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์แห่งนี้

 

7. เมืองหลวงยุโรป โรม, อิตาลี (Rome, Italy)

 

เมืองหลวงยุโรป โรม, อิตาลี (Rome, Italy) Image8

 

กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีที่มีชื่อเสียงของยุโรป สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโรมต่างเป็นชื่อที่เราคุ้นหูไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter’s Basilica), พิพิธภัณฑ์นครวาติกัน (Museum Vatican), โคลอสเซียม (Colosseum), บันไดสเปน (Spanish Steps), น้ำพุ เทรวี่ (Trevi Fountain), วิหารแพนธิออน (Pantheon), จัตุรัส นาโวน่า (Piazza Navona), อนุสรณ์สถานแห่งชาติวิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2  (Victor Emmanuel II National Museum) หรือ อิล วิตโตริอาโน (Il Vittoriano) คงไม่ต้องบรรยายถึงคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ แต่ถ้ามีโอกาสควรไปสัมผัสความงดงามด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิต  

 

8. เมืองหลวงยุโรป ลอนดอน, สหราชอาณาจักร (London, United Kingdom)

 

เมืองหลวงยุโรป ลอนดอน, สหราชอาณาจักร (London, United Kingdom) Image9

 

ถ้าพูดถึงหนึ่งในเมืองหลวงของยุโรปที่เป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วโลก หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อมหานครลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน  กรุงลอนดอนแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม แหล่งช้อปปิ้ง อาหาร ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวคุณไม่ควรพลาดที่จะแวะชมได้แก่ พิพิธภัณฑ์อังกฤษ (British Museum) พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก, หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery) แหล่งรวมงานศิลปะที่คนรักศิลปะอยากไปให้ได้สักครั้ง, พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace) ความงดงามอลังการ ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์, ทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge) แลนด์มาร์คสำคัญและจุดชมวิวที่ดีแห่งหนึ่งในลอนดอน และลอนดอนอาย (The London Eye) ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในยุโรป ให้คุณได้มองเห็นวิวทิวทัศน์รอบมหานครลอนดอนอย่างชัดเจน  

 

9. เมืองหลวงยุโรป วอร์ซอ, โปแลนด์ (Warsaw, Poland)

 

เมืองหลวงยุโรป วอร์ซอ, โปแลนด์ (Warsaw, Poland) Image10

 

เมืองวอร์ซอ หรือ วาร์ชาวา เมืองหลวงของยุโรปอีกแห่งหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี แม้จะเคยถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองแต่ปัจจุบันเมืองวอร์ซอได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมสิ่งที่น่าสนใจทั้งในอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาประวัติศาสตร์การต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่สองของชาวโปแลนด์มาจัดแสดง, ตลาดเก่ากรุงวอร์ซอ (Old Town Market Place, Warsaw) ตลาดเก่าแก่ที่ยังคงคึกคักและเป็นที่ตั้งของรูปปั้นนางเงือก สัญลักษณ์ของเมืองวอร์ซอ ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยยังคงรูปลักษณ์และสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่บรรจงสร้างให้ใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด อาคาร Palace of Culture and Science อาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ถูกเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศโปแลนด์ ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การจัดแสดงไฟในยามค่ำคืนที่สวยงามแปลกตา รวมถึงโบสถ์ของนักบุญแอนน์ St. Anne’s Church เป็นต้น

 

10. เมืองหลวงยุโรป เฮลซิงกิ, ฟินแลนด์ (Helsinki, Finland)

 

เมืองหลวงยุโรป เฮลซิงกิ, ฟินแลนด์ (Helsinki, Finland) Image11

 

เมืองเฮลซิงกิ เป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงในยุโรป ที่เต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมยุคเก่าและสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่หลอมรวมกันได้อย่างลงตัว กลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่เป็นแตกต่าง ซึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวควรไปเยือนที่แรกคือ น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก (Havis Amanda) แลนด์มาร์คของเมืองเฮลซิงกิ, มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) มหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์ โดดเด่นด้วยสไตล์นีโอคลาสสิก, มหาวิหารอุสเพนสกี้ (Uspenski Church) มหาวิหารสีน้ำตาลโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย, โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ (Temppeliaukio Church) หรือ โบสถ์แห่งความรัก ที่มีโด่งดังในเรื่องของการอธิฐานขอให้รักสมหวัง, โอลด์ มาร์เก็ต ฮอลล์ (Old Market Hall) ตลาดในร่มเก่าแก่ที่นอกจากจะมีสินค้าและอาหารมากมายแล้ว ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบสแกนดิเนเวียแท้ๆ อีกด้วย

 

11. เมืองหลวงยุโรป เวียนนา, ออสเตรีย (Vienna, Austria)

 

เมืองหลวงยุโรป เวียนนา, ออสเตรีย (Vienna, Austria) Image12

 

สถาปัตยกรรม ดนตรี ศิลปะ และแหล่งช้อปปิ้ง คือนิยามความเป็น เวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรียแห่งทวีปยุโรป ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทุกมุมโลกให้มาเยือนกรุงเวียนนาได้แก่ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โรโกโก (Rococo) , พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และภายในยังเป็นที่ตั้งของหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library), มหาวิหารเซนต์สตีเฟน กรุงเวียนนา (St.Stephen Cathedral Vienna) แลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ควรพลาด, โรงโอเปร่าแห่งกรุงเวียนนา (Vienna State Opera) โรงละครที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ยังเปิดใช้งานจนถึงทุกวันนี้ และยังมีจุดแวะพักถ่ายรูปและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมท่ามกลางอาคารเก่าแก่ที่ย่านถนนกราเบน (The Graben) และ ถนนโคห์ลมาร์ท (The Kohlmarkt) ให้คุณได้แวะช้อปปิ้ง แวะชิมอาหารสไตล์ท้องถิ่นกันอย่างจุใจ

 

12. เมืองหลวงยุโรป สตอกโฮล์ม, สวีเดน (Stockholm, Sweden)

 

เมืองหลวงยุโรป สตอกโฮล์ม, สวีเดน (Stockholm, Sweden) Image13

 

เมืองสตอกโฮล์ม เมืองหลวงที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของยุโรป เพราะนอกจากจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะที่น่าสนใจ อาทิ สถานีรถไฟใต้ดินสตอกโฮล์ม (Stockholm Metro) สถานีรถไฟใต้ดินที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก ความน่าสนใจอยู่ที่ในแต่ละสถานีจะถูกตกแต่งด้วยรูปภาพ จิตรกรรมฝาผนัง ที่สร้างสรรค์ความแตกต่างด้วยศิลปินกว่า 150 คน หรือจะเที่ยวชมบรรยากาศเมืองเก่าที่ย่าน Gamla Stan ที่ยังคงรักษาอาคารสถาปัตยกรรมแบบสวีเดนเอาไว้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม (Drottningholm Palace) ที่ได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลก ที่งดงามไม่แพ้ที่อื่น

 

13. เมืองหลวงยุโรป ออสโล, นอร์เวย์ (Oslo, Norway)

 

เมืองหลวงยุโรป ออสโล, นอร์เวย์ (Oslo, Norway) Image14

 

ออสโล เมืองหลวงที่ถูกขนานนามให้เป็นปอดแห่งยุโรปจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ทำให้เป็นเมืองออสโลที่มีพื้นที่เป็นสวนสาธารณะและทะเลสาบมากมาย และภายในเมืองออสโลวนั้นก็เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์  สถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ พิพิธภัณฑ์แกลเลอรี่ และโรงละคร อาทิ โรงละครแห่งชาติ - Oslo Opera House แลนด์มาร์คประจำเมือง, Vigeland - สวนประติมากรรมกลางแจ้งใหญ่ที่สุดในโลก, Ekebergparken สวนสาธารณะบนเนินเขา ที่จัดแสดงงานศิลปะและเป็นจุดชมวิวของเมืองออสโลจากมุมสูง, The Viking Ship Museum พิพิธภัณฑ์จัดแสดงวิวัฒนาการของการเดินเรือ และในแต่ละปี เมืองออสโลยังมีเทศกาลดนตรีร่วมสมัย และดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

 

14. เมืองหลวงยุโรป อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ (Amsterdam, Netherlands)

 

เมืองหลวงยุโรป อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ (Amsterdam, Netherlands) Image15

 

อัมสเตอร์ดัม มีชื่อเสียงในฐานเมืองแห่งสายน้ำสุดโรแมนติก เป็นสวรรค์ของนักถ่ายรูป และนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินชมรอบเมืองเพื่อพักผ่อน แหล่งท่องเที่ยวในเมืองอัมสเตอร์ดัมที่ได้รับความนิยมจึงเป็นการท่องเที่ยวเพื่อชมศิลปะและวิถีชีวิตของชาวเนเธอร์แลนด์ อย่างเช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum), บ้านของแอนน์ แฟรงค์ (Anne Frank House), พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum), ตลาดขายดอกไม้ (Bloemenmarkt) ตลาดดอกไม้ลอยน้ำแห่งเดียวในเนเธอร์แลนด์ หรือแม้แต่ย่าน Red Light District ย่านที่มีการขายบริการทางเพศอย่างถูกกฎหมาย และยังเป็นที่ตั้งของ Red Light Secrets พิพิธภัณฑ์การค้าประเวณีแห่งแรกในโลกก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

 

15. เมืองหลวงยุโรป เอเธนส์, กรีซ (Athens, Greece)

 

เมืองหลวงยุโรป เอเธนส์, กรีซ (Athens, Greece) Image16

 

ปิดท้ายด้วยเมืองหลวงที่เปี่ยมด้วยอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดในยุโรป เมืองเอเธนส์ ดินแดนแห่งเทพเจ้า ซึ่งทุกคนทราบดีถึงแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป้อมปราการ อะโครโปลิส (The Acropolis), วิหารพาร์เธนอน (Parthenon), โรงละครกลางแจ้งThe Odeon of Herodes Atticus ที่ยังถูกใช้จัดคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี และยังมีสถานที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง แต่เอเธนส์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะจะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวท้องถิ่นที่น่าสนใจ อย่างเช่น ย่าน Plaka แหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมากมาย

 

นอกจาก 15 เมืองหลวงยุโรป ที่เราได้พูดถึงแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองในทวีปยุโรปที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เดินทางได้ง่ายพร้อมให้เหล่านักเดินทางได้ดื่มด่ำกับความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อสัมผัสถึงประสบการณ์สุดประทับใจและรอให้คุณออกเดินทางสัมผัสกันค่ะ

Powered by