การเข้าวัดทำบุญขอพร ถือเป็นกิจกรรมที่บ้านเรานิยมกัน ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ สำหรับประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีความคล้ายกับไทยอยู่ เพราะญี่ปุ่นก็มีการนับถือศาสนาพุทธ รวมถึงนิกายที่คล้ายๆ กันอย่าง ศาสนาชินโต เป็นส่วนใหญ่เช่นกัน ทำให้เมื่อเราไปญี่ปุ่น เราจะสามารถเห็น วัดญี่ปุ่น มากมาย ที่เปิดพร้อมให้ชาวญี่ปุ่น เข้าไปสักการะและสงบจิตใจกัน ซึ่ง วัดในญี่ปุ่น แต่ละแห่งก็ล้วนสวยงาม ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือน ถ่ายรูป เก็บบรรยากาศสวย ๆ และสำหรับใครที่อยากจะไปญี่ปุ่น เพื่อไปเที่ยวชมความงดงามของ วัดญี่ปุ่น โดยเฉพาะ เราได้รวบรวมลิสต์ “10 วัดในญี่ปุ่น” ที่สวยงาม และเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์มาฝากกันค่ะ
10 อันดับ วัดในญี่ปุ่น ที่ควรค่าแก่การไปขอพรสักการะ
1. วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) (อาซาคุสะ, โตเกียว)
ถ้าบอกว่า วันเซนโซจิ อาจจะไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่า “วัดอาซาคุสะ” หลายคนน่าจะร้องอ๋อแน่นอน วัดโจเซนจิ เป็น วัดญี่ปุ่น ในเขตอาซาคุสะ โตเกียว มักจะถูกเรียกชื่อเล่นว่า “วัดโคมแดง” เนื่องจากโทนสีของวัด ที่เลือกใช้สีแดงสด ที่งดงามมาก โดยเฉพาะเมื่อมีแสงไฟตกกระทบในยามค่ำคืน เป็นวัดที่ทำให้เราอุ่นใจได้แม้ในความมืด และกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งกรุงโตเกียว ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาเยือน
2. วัดคิโยมิสุเดระ (Kiyomizudera Temple) (ฮิกาชิยามะ, เกียวโต)
ใครอยากสัมผัสความอลังการ ที่สามารถรวมเหล่าผู้ศรัทธาให้มารวมตัวกันได้แบบเนืองแน่นล่ะก็ ควรตรงไปที่วัดคิโยมิสุเดระ ซึ่งเป็น วัดญี่ปุ่น แห่งเมืองฮิกาชิยาม่า ที่หลายคนมักจะเรียกว่า “วัดน้ำใส” เนื่องจากเป็น วัดญี่ปุ่น ที่อยู่ในเขตของน้ำตกโอโตวะ ที่กลายเป็นเหมือนน้ำสะอาดที่ไหลผ่านเพื่อให้ผู้คนมาชำระล้างจิตใจกัน ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ของต้นเมเปิลที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล และการออกแบบที่สวยงามอลังการในทุกๆ มุมมอง
3. วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) (เทนโนจิ, โอซาก้า)
อีกหนึ่งวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโอซาก้า เป็นวัดขนาดกลางๆ ที่ความงดงามไม่แพ้วัดใหญ่เลย กับ วัดชิเทนโนจิ เป็น วัดญี่ปุ่น ที่ผสมผสานงานออกแบบสไตล์เกาหลีไว้อย่างลงตัว เนื่องจากเป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 593 ที่เจ้าชายแห่งโทโฮคุ ได้จ้างช่างไม้จากทางเกาหลี มาช่วยสร้างวัด เพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธ ทำให้เราจะสังเกตได้ว่า ตัววัดจะมีการออกแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในเกาหลีมากๆ ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลกจากวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่น
4. วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) (คามาคุระ, คานาวางะ)
วัดในญี่ปุ่น ในกลิ่นอายเก่าแก่สุดขลัง แห่งจังหวัดคานางาวะ ที่เราแนะนำอย่างยิ่งเลยว่าหากมีโอกาส ควรต้องมาสักครั้ง สำหรับ วัดโคโตคุอิน เป็น วัดญี่ปุ่น ที่มีจุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดก็คือ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางวัด ชื่อว่า “พระพุทธรูปใหญ่ไดบุทสึ” ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1243 อายุเท่าๆ กับที่วัดเริ่มก่อสร้าง ที่สวยงามด้วยโทนสีเขียว ที่เกิดจากการสึกกร่อนของสำริดและทองแดงตามกาลเวลา จนออกมาเป็นภาพที่อลังการ ควรค่าแก่การมาสักการะเป็นอย่างยิ่ง
5. วัดคาวาซากิ ไดชิ (Kawasaki Daishi) (คาวาซากิ, คานาซาวะ)
ถือเป็น วัดญี่ปุ่น อีกวัดที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพราะไปทีไรก็ต้องเจอนักท่องเที่ยวจำนวนมากทุกครั้งไป กับ วัดคาวาซากิ ไดชิ ที่ชื่อแปลความหมายได้ตรงตัวว่า “วัดคุ้มครองเมืองคาวาซากิ” นั่นเอง ในฐานะวัดที่มีไว้เพื่อประกอบพิธีกรรม เพื่อสวดมนต์อ้อนวอนต่อเทพเจ้า เพื่อปัดเป่าโชคร้ายให้ออกไปจากเมืองโดยเฉพาะ กลายเป็นป้อมปราการแห่งโชคดี ที่ชาวเมืองให้ความใส่ใจเป็นอันดับหนึ่ง และกลายเป็นอีกจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ทั้งในและนอกญี่ปุ่น
6. วัดนิกโกซัง รินโนจิ (Nikkozan Rinnoji Temple) (นิกโก, โทชิกิ)
หากต้องการที่จะมา วัดญี่ปุ่น เพื่อมาสงบจิตใจ ในบรรยากาศเงียบสงบโดยเฉพาะ ต้องมาที่นี่เลย สำหรับ วัดนิกโกซัง รินโนจิ เป็น วัดในญี่ปุ่น ที่มีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์ของเมืองนิกโก คานาซาวะ อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปพันมือ (Senju-Kannon) เทพีแห่งความเมตตา ด้วยการออกแบบที่ทุกองค์ประกอบ เต็มไปด้วยความสวยงามและลงตัว ให้ความรู้สึกเหมือนภาพวาดสีน้ำเลยทีเดียว
7. วัดนาริตะซัง ชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) (นาริตะ, ชิบะ)
อีกหนึ่ง วัดญี่ปุ่น ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง แห่งเมืองนาริตะ กับ วัดนาริตะ ชินโซจิ วัดสไตล์โบราณแบบแท้จริง ที่ก่อสร้างมายาวนานมากกว่า 1,000 ปีแล้ว โดดเด่นด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “โซมง (Somon)” เป็นสง่าอยู่ด้านหน้าของวัด และได้รับการบูรณะปรับปรุงตัววัดอยู่เรื่อยๆ ไปตามยุคสมัย มาจนถึงปัจจุบัน โดยการพยายามผสมงานออกแบบดั้งเดิม เข้ากับบริบทสังคมใหม่ๆ ให้เราได้ซึมซับทั้งความเก่าแก่ของบริเวณวัด และชุมชนร้านค้าต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเลือกซื้อกันได้ตลอดทาง
8. วัดจูซนจิ (Chusonji Temple) (นิขิอิวาอิ, อิวาเตะ)
เป็นอีก วัดญี่ปุ่น ที่เก่าแก่และสวยงามมากๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบวัดในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ถือเป็นวัดที่น่าจะตรงใจคุณแน่นอน วัดจูซนจิ เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างมากของญี่ปุ่น ในฐานะหนึ่งในมรดกโลก ด้วยสไตล์งานออกแบบวัดแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่มีส่วนผสมของชาติอื่นหรือความโมเดิร์นใดๆ และล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศสงบๆ ของธรรมชาติที่สวยงาม และสำหรับใครที่ไปวัดจูซนจิ อย่าพลาดขึ้นไปชม “วิหารทองคำ” หรือ “คอนจิคิโดะ” อันเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม ที่จะเป็นสีทองอร่ามในยามค่ำคืน
9. วัดเมียวริวจิ (Myouryuji Temple) (คานาซาวะ, อิชิกาวะ)
ใครที่คิดว่า วัดในญี่ปุ่น สวยงามแต่น่าเบื่อ มีแต่แง่มุมเดิมๆ เหมือนกัน ขอให้ลองคิดใหม่ เมื่อมาที่วัดแห่งนี้ กับ วัดเมียวริวจิ เป็น วัดญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่าเป็น “วัดของนินจา” เพราะในอดีต ที่นี่คือวัดของสำนักนินจา ในสมัยเอโดะของจริง! ภายใต้งานออกแบบที่เรียบง่าย ทั้งวัดเต็มไปด้วยซอกหลืบลับมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้องลับ ทางเชื่อมลับห้องหนึ่งไปห้องหนึ่ง หอสังเกตการณ์ลับชั้นบน เป็นต้น ใครเป็นคนชอบการ์ตูน แล้วมาเจอฐานลับนินจาของจริง รับรองเลยว่าคุณจะตื่นตาตื่นใจแน่นอน
10. วัดเซกังโทจิ (Seiganto-ji Temple) (ฮิกาชิมุโระ, วาคายามะ)
ปิดท้ายกันที่ วัดญี่ปุ่น ในบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ อีกแห่ง ที่คนชอบเสพบรรยากาศดีๆ ไม่ควรพลาดบ กับ วัดเซนกังโทจิ วัดสุดงดงาม ที่ได้ฉายาแบบสละสลวยว่า “วัดคลื่นนารีสีคราม” เพราะเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเขตธรรมชาติ ที่มีองค์ประกอบสวยงามอย่างตัวในทุกๆ มุมมอง ทั้งการตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นวิวของ “น้ำตกนาจิ” ได้อย่างชัดเจน จนกลายเป็นศูนย์รวมของเหล่าผู้แสวงบุญจากหลายนิกายในโลก มาเยี่ยมเยือนกัน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโกในที่สุด
ทั้งหมดนี้ก็คือ วัดญี่ปุ่น ทั้ง 10 วัด ที่สวยงาม น่าไปเที่ยวพักผ่อนจิตใจที่เรานำมาแนะนำให้กันค่ะ ซึ่ง 10 สถานที่นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบรรดา วัดในญี่ปุ่น มากมายที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ยังมีวัดญี่ปุ่นอีกหลายแห่งที่มีความน่าสนใจและที่รอให้เราเข้าไปเยี่ยมชม โดยหนึ่งในสิ่งที่เราอยากแนะนำสำหรับใครที่กำลังมีแพลนญี่ปุ่นกัน คือ “ไม่ว่าจะไปที่เมืองใดของญี่ปุ่น หากมีโอกาส ควรแวะไปเที่ยว วัดญี่ปุ่น ในเขตเมืองนั้นๆ ด้วย” เพื่อเป็นการซึมซับความรู้สึกในแบบประเทศญี่ปุ่นให้ ซึ่งการไปเยี่ยมชมวัดญี่ปุ่น ที่มีความสงบเงียบ และมีมนต์ขลังอาจจะทำให้เราได้อะไรดีๆ กลับบ้านมามากกว่าที่เราคิด ก็เป็นได้ค่ะ