มาเที่ยวยุโรปกันทั้งทีนอกจากจะไปท่องเที่ยวกันตามสถานที่ยอดนิยมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาดก็คือในเรื่องของอาหารการกิน โดยเฉพาะของหวานยุโรปที่บอกได้เลยว่าควรจะต้องลองหาทานกันดูสักครั้งเมื่อไปถึงยุโรป เพราะคุณจะได้สัมผัสกับรสชาติดั้งเดิมตามแบบฉบับออริจินอลกับของหวานยุโรปอย่างแท้จริง วันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 ของหวาน ในยุโรป ที่ต้องลองหาทานสักครั้ง เมื่อไปถึงยุโรป มาฝากกันค่ะ
เป็นขนมที่มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเพราะ Semla นั้นถูกเรียกว่าเป็นขนมที่ทำให้พระราชาสิ้นพระชนม์ นั่นก็เป็นเพราะว่าความอร่อยของมันที่ทำให้ พระราชาอดอล์ฟ เฟรเดอริคแห่งสวีเดน ทรงเสวย Semla ของโปรดในช่วงพระกระยาหารค่ำไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้สิ้นพระชนม์ด้วยโรคหลอดเลือดสมองในเวลาต่อมานั่นเองค่ะ โดยเป็นขนมที่ทำมาจากขนมปังโฮลวีตขนาดเล็กปรุงรสด้วยกระวาน สอดไส้ตรงกลางด้วยวิปครีมนุ่มๆ และอัลมอนด์บดละเอียด
เป็นขนมขึ้นชื่อของประเทศฝรั่งเศสกันเลยทีเดียวค่ะ ไม่เพียงเท่านี้เพราะ Macaron ก็ยังเป็นขนมที่โด่งดังมากไปทั่วโลกอีกด้วย แต่ถ้าหากมีโอกาสได้มาเที่ยวฝรั่งเศสโดยเฉพาะที่กรุงปารีส ก็อย่าลืมมองหา Macaron ต้นตำรับฉบับ Original มาลองลิ้มชิมรสกันดูค่ะ
ขนมที่นิยมรับประทานคู่กับการจิบน้ำชายามบ่ายของชาวผู้ดีอังกฤษ เป็นขนมอบประเภท Quick bread ที่ทำมาจากแป้งสาลี เนยสด ไข่ไก่ น้ำตาล นม เวลารับประทานก็จะนิยมนำมาตัดผ่าตรงกลางแล้วทาแยมหรือวิปครีมลงไป รับประทานกับคู่กับน้ำชาหรือกาแฟบอกได้เลยว่าเข้ากันได้ดีเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
เป็นขนมชื่อดังของประเทศตุรกีกันเลยทีเดียวค่ะสำหรับเมนูนี้ ซึ่งชาวตุรกีก็นิยมรับประทาน turkish Delight ควบคู่กับการดื่มกาแฟหรือดื่มชา เป็นของหวานยุโรปที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งและน้ำตาล แล้วแต่งรสชาติ สี และกลิ่น รวมไปถึงส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไป อย่างเช่น กุหลาบ ถั่วแมคคาเดเมีย อัลมอนด์ ส้ม เลมอน เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นขนมที่รสชาติค่อนข้างหวานจัดและมีหลากหลายรสชาติให้เลือก และยังเหมาะสำหรับการซื้อเป็นของฝากอีกด้วยค่ะ
ของหวานยุโรปสัญชาติอิตาลีที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการควบคุมน้ำหนักแต่ก็ยังอยากกินของหวานอยู่ดี เพราะเมนูนี้เป็นขนมหวานที่เน้นรสชาติของผลไม้เป็นหลัก โดยมีวัตถุดิบเพียงแค่ครีมกับน้ำตาลเล็กน้อย แล้วทำให้เซ็ตตัวด้วยเจลาติน หน้าตาก็จะคล้ายกับพุดดิ้งแต่มีความนุ่มละมุนมากกว่า รับประทานควบคู่กับผลไม้สดและซอสจากผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวหวาน อย่างเช่น ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ตามฤดูกาล
ของหวานยุโรปที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในชื่อที่เรียกว่าทาร์ตไข่นั่นเองค่ะ ซึ่งต้นกำเนิดของทาร์ตไข่ก็มาจากประเทศโปรตุเกส และยังเป็นของหวานยอดนิยมของที่นี่กันอีกด้วย สามารถหากินได้ทั่วไป โดยเป็นขนมที่ทำมาจากแป้งนำมากรุเป็นขอบ เทไข่ที่ผสมน้ำตาลหยอดลงไป แล้วนำไปอบให้หน้าไหม้เล็กน้อย ซึ่งถ้าหากใครไปทัวร์ยุโรปกันที่โปรตุเกสก็แนะนำให้ลองหาทาร์ตไข่ฉบับต้นตำรับมาลิ้มลองกันดูสักครั้ง
เมนูของหวานประจำชาติเนเธอร์แลนด์กันเลยทีเดียว โดยเป็นขนมวาฟเฟิลแผ่นกลมบางๆ ประกบกันสอดไส้ด้วยน้ำเชื่อมหรือคาราเมลที่มีความข้นหนืด เวลารับประทานก็จะนิยมนำเอาไปวางบนถ้วยกาแฟเครื่องดื่มร้อนเพื่อให้ไอร้อนจากถ้วยนั้นขึ้นมาอุ่นตัวขนมเพื่อให้น้ำเชื่อมที่อยู่ตรงกลางระหว่างแผ่นวาฟเฟิลละลาย ทำให้ได้ความกรอบของแป้งวาฟเฟิลและความหอมหวานจากคาราเมลที่กินแล้วหยุดไม่ได้กันเลยทีเดียว
Schwarzwälder Kirschtorte หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของเค้กแบล็คฟอเรสต์ (Black Forest Cake) ที่มาของเมนูนี้ก็มีต้นกำเนิดมาจาก Black forest หรือป่าดำ ซึ่งเป็นป่าขนาดใหญ่ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ด้วยความหนาแน่นของป่าสนจนทำให้แสงไม่สามารถส่องทะลุเข้าไปในป่าได้อย่างทั่วถึงจึงทำให้กลายเป็นแมวป่าสีดำขนาดใหญ่ และได้นำมาตั้งเป็นชื่อเค้ก Schwarzwälder Kirschtorte ที่แปลว่าเค้กเชอร์รี่ป่าดำนั่นเองค่ะ
ขนมยอดฮิตของสเปนที่บ้านเราเรียกกันว่าปาท่องโก๋สเปนหรือโดนัทสเปนนั่นเอง ส่วนผสมหลักก็มีเพียงแค่เนย ไข่ไก่ และแป้ง แล้วนำมาทอด นิยมรับประทานกันในตอนเช้า โดยนำมาจิ้มกับซอสช็อกโกแลตร้อน ๆ ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มในเข้ากันได้ดีกับช็อกโกแลตเข้มๆ อร่อยจนกินชิ้นเดียวไม่เคยพอ
Apfelküchlein หรือเรียกง่ายๆ ว่าเมนูแอปเปิ้ลชุบแป้งทอดนั่นเองค่ะ โดยการนำเอาแอปเปิ้ลมาหั่นเป็นชิ้นวงกลมไม่หนามากจนเกินไป แล้วนำไปชุบกับแป้งและผงเฮเซลนัท ลงทอดในน้ำมันร้อนๆ ราดด้วยซอสวนิลา เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยากและหากินได้ง่าย รวมไปถึงอร่อยมากอีกด้วยค่ะ
บอกได้เลยว่าของหวานของแต่ละประเทศในยุโรปนั้นก็มีความโดดเด่นและรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางเมนูก็สามารถหารับประทานได้ในบ้านเราด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากมีโอกาสได้ไปเยือนยังประเทศต้นฉบับที่เป็นเจ้าของตำรับเมนูของหวานยุโรปนั้น ๆ ก็แนะนำให้ลองหาลิ้มชิมรสชาติของขนมตามแบบฉบับดั้งเดิมกันดูกันนะคะ
