ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทั้งเรื่อง การปกครอง สงคราม และศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีมีความงดงาม ญี่ปุ่นจึงเป็นอีกประเทศที่เราจะสามารถมองเห็นความเฉพาะตัวในทางการออกแบบ และสร้างสรรค์ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบรรดาเหล่างานออกแบบทางสถาปัตยกรรมของ “ปราสาทญี่ปุ่น” ที่ล้วนแต่มีมนต์ขลัง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งวันนี้ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เรามี 10 ปราสาทในญี่ปุ่น ที่งดงามและควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมมาฝากกันค่ะ
10 ปราสาทญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ แห่งประเทศญี่ปุ่น
1. ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto)
เป็นหนึ่งใน ปราสาทญี่ปุ่น ที่หลายคนน่าจะคุ้นตา เพราะถูกนำมาใช้เป็นภาพโปรโมทประเทศอยู่บ่อยๆ โดยปราสาทคุมาโมโตะ เป็นปราสาทที่ถูกใช้เป็นป้อมปราการในช่วงยุคสงครามกลางเมือง ซึ่งจะสามารถสังเกตได้ว่า องค์ประกอบทุกอย่างล้วนถูกใช้เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกโดยเฉพาะ ทั้งปราการหลัก หอสังเกตการณ์ และกำแพงหินอันแข็งแกร่ง และเป็นที่นำพักของ มิยาโมโต้ มูซาชิ ซามูไรระดับตำนานอีกด้วย ตัวปราสาทได้รับความเสียหายไปค่อนข้างมากในช่วงสงครามยุคเมจิ และได้รับการบูรณะใหม่ครั้งใหญ่อีกครั้งในช่วงยุคโชวะ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มรูปแบบนับแต่นั้นมา
Location : 1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, 860-0002, Japan
2. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) จังหวัดโอซาก้า (Osaka)
หนึ่งใน ปราสาทญี่ปุ่น ที่โด่งดังอย่างมาก จนพูดได้ว่า ใครไปเที่ยวในเขตโอซาก้า แล้วไม่ได้เยือนปราสาทโอซาก้า จะถือว่าไปไม่ถึงโอซาก้าเลยทีเดียว ปราสาทโอซาก้าเป็นอีกสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคสงครามกลางเมือง และได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในช่วงปี ค.ศ.1995 ให้ตัวปราสาทมีความแข็งแรง และผสมสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่เข้าไปด้วย ทำให้ปราสาทโอซาก้าถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อถ่ายทอดความรู้ทางประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้กันอย่างเต็มรูปแบบ โดยนอกจากความสวยงามของงานออกแบบแล้ว ยังถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของโอซาก้าด้วย เพราะอยู่ในมุมที่จะสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมือง พร้อมกับดอกซากุระงามๆ ที่อยู่รอบปราสาทอย่างชัดเจน
Location : 1-1 Osakajo, Chuo Ward, Osaka, 540-0002, Japan
3. ปราสาทมัทสีโมโตะ (Matsumoto Castle) จังหวัดนางาโนะ (Nagano)
อีกหนึ่ง ปราสาทในญี่ปุ่น ที่ถูกใช้เป็นป้อมปราการในยุคสงคราม (สังเกตว่างานออกแบบและการวางผังของปราสาท จะมีความคล้ายกับผังของปราสาทคุมาโมโตะ แม้จะอยู่คนละเขตกัน เพราะมันคือฟอร์มของการสร้างปราการที่แข็งแรงนั่นเอง) ปราสาทมัทสึโมโตะ เป็นปราสาทในโทนสีดำขาวดูขึงขัง จนถูกเรียกด้วยฉายาว่าเป็น “ปราสาทอีกา (Crow Castle)” ถือเป็นปราสาทที่มีสภาพที่สมบูรณ์ และผ่านการบูรณะน้อยมาก จนถึงปัจจุบัน สามารถซึมซับความเป็นปราสาทเก่าแก่ “แบบดั้งเดิม” ได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชม การจัดแสดง อาวุธ ข้าวของเครื่องใช้ ในช่วงยุคสงคราม กันได้ตลอดทั้งวัน
Location : 4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano 390-0873, Japan
4. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
รู้จักกับปราสาทอีกาไปแล้ว มาดู ปราสาทญี่ปุ่น ที่ได้สมญาว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” กันบ้าง ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตแม่น้ำเซ็มบะ การออกแบบในลักษณะแหลมโค้ง ดูเหมือนภาพวาดที่วาดโดยการสะบัดพู่กัน เหตุที่ได้ชื่อว่าปราสาทกระยางขาว ก็เพราะโทนสีขาวสะอาดตา อันโดดเด่นเมื่อมองจากระยะไกลนี่เอง ซึ่งจังหวัดเฮียวโงะนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งเขตที่ได้รับความเสียหายในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ปราสาทฮิเมจิ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยมากพอสมควร จนต้องมีการบูรณะกันครั้งใหญ่กันภายหลัง ปัจจุบันปราสาทฮิเมจิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์กรยูเนสโกเป็นที่เรียบร้อย
Location : 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012, Japan
5. ปราสาทฟุคุยามะ (Fukuyama Castle) จังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima)
เมื่อพูดถึงพื้นที่ในเขตญี่ปุ่น ที่เคยได้รับความเสียหายในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สุด และได้รับการบูรณะจนกลับมางดงามได้อีกครั้ง ก็ต้องไปที่จังหวัดฮิโรชิมะกัน กับปราสาทฟุคุยามะ เป็น ปราสาทในญี่ปุ่นเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยยุคเอโดะ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามแบบเต็ ๆ จึงมีการบูรณะใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1960 กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์อย่างเต็มรูปแบบ ให้เราได้รับรู้เรื่องราว ความโหดร้ายของสงคราม และเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ ของคนฮิโรชิมะได้ว่า ไม่ว่าจะเจอภัยร้ายที่หนักหนาแค่ไหน ก็สามารถสร้างทุกอย่างให้กลับมาสวยงามดังเดิมได้
Location : 1 Chome-8-3 Marunouchi, Fukuyama, Hiroshima 720-0061, Japan
6. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) จังหวัดเกียวโต (Kyoto)
ปราสาทนิโจ เป็น ปราสาทญี่ปุ่น อีกที่ ที่มีความเก่าแก่มากของญี่ปุ่น และถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวเกียวโตเลยก็ว่าได้ โดยปราสาทนิโจได้รับการสร้างโดยคำสั่งของ “โอดะ โนบุนางะ” ไดเมียวผู้เกรียงไกรแห่งยุคสงครามกลางเมือง ในช่วงปี ค.ศ.1569 เพื่อใช้ในการศึก และแสดงความยิ่งใหญ่ของตน จุดเด่นของปราสาทนิโจคือ ทุกส่วนของปราสาทถูกสร้างขึ้นจากไม้ทั้งหมด แม้แต่ฐานใต้ปราสาทเช่นกัน (ปราสาทอื่นๆ ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่มักจะมีฐานเป็นหิน เพื่อเน้นความแข็งแรง) เพื่อเป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ทางศิลปะที่งดงามของเกียวโต และมีบรรยากาศที่ดูขลังมาก เมื่อเดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคสงครามกลางเมืองอีกครั้งเลย
Location : 541 Nijojocho, Nakagyo Ward, Kyoto, 604-8301, Japan
7. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) จังหวัดไอจิ (Aiji)
ปราสาทนาโกย่า เป็นอีกปราสาทญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ นับรวมอายุก็ปาเข้าไป 400 กว่าปีแล้ว และมีการซ่อมแซมบูรณะมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากจังหวัดไอจิก็เป็นอีกที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ต้องมีการบูรณะเพื่อรักษาฐานของปราสาทที่แข็งแรงเอาไว้ให้ยังคงเดิม โดยจุดเด่นสำคัญของปราสาทนาโกย่าก็คือ หลังคาที่ถูกปูด้วยพื้นกระเบื้องสีเขียวน้ำทะเล ทำให้มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากปราสาทอื่นๆ อย่างชัดเจนมาแต่ไกล
Location : 1-1 Honmaru, Naka Ward, Nagoya, Aichi 460-0031, Japan
8. ปราสาททากามัทสึ (Takamatsu Castle) จังหวัดคางาวะ (Kagawa)
สำหรับปราสาทญี่ปุ่นแห่งนี้ ไม่ใช่ปราสาทที่ยังคงอยู่เป็นหลังแบบที่อื่น แต่เป็นพื้นที่ที่เหลือไว้เพียงแค่ซากของปราสาทเท่านั้น นั่นคือ ปราสาททากามัทสึ หรือในชื่อเดิมที่คนท้องที่เรียกว่า ปราสาททามาโมะ เคยเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของเขตคางาวะ ก่อสร้างโดยไดเมียว จิคามาสะ อิโคมะ ในช่วงปลายยุคสงครามกลางเมือง ซึ่งได้ถูกทำลายลงไปเรียบร้อยด้วยภัยสงคราม เหลือไว้เพียงฐานหินใต้ปราสาทเท่านั้น ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมกันได้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นการเปลี่ยนรสชาติ ไปดูร่องรอยของประวัติศาสตร์ ว่าครั้งหนึ่ง เคยมีปราสาทหลังงาม อยู่ ณ ที่แห่งนี้ นั่นเอง
Location : 2-1 Tamamocho, Takamatsu, Kagawa 760-0030, Japan
9. ปราสาทสึรุงะ (Tsuruga Castle) จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)
ปราสาทสึรุงะ คือ ปราสาทญี่ปุ่นที่ความจริงแล้ว ปราสาทหลังนี้ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ.1874 จนกระทั่งได้รับการก่อสร้างใหม่อีกครั้งในช่วงปี ค.ศ.1965 โดยได้รับการปรับปรุง ผังและโครงสร้างให้มีความร่วมสมัยยิ่งกว่าเดิม เป็นปราสาทที่มีความสำคัญต่อความสวยงามโดยภาพรวมของจังหวัดอย่างชัดเจน ด้วยความสูงใหญ่ของยอดปราสาทที่โดดเด่นมาก เราจึงสามารถมองเห็นปราสาทได้จากบนท้องถนนตั้งแต่ระยะไกลได้อย่างชัดเจน เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความไม่ยยอมแพ้ต่อภัยอันตรายใดๆ และสามารถกลับมายืนหยัดได้ทุกครั้ง (แถมยิ่งใหญ่กว่าเดิมอีก)
Location : 1-1 Otemachi, Aizuwakamatsu, Fukushima 965-0873, Japan
10. ปราสาทชูริ (Shuri Castle), จังหวัดนาฮะ (Naha)
ปิดท้ายกันด้วย ปราสาทญี่ปุ่น อันยิ่งใหญ่แห่งอ่าวโอกินาว่ากันค่ะ กับปราสาทชูริ ปราสาทอันเป็นที่ประทับของ ราชวงศ์แห่งอาณาจักรริวกิว ตระกูลดั้งเดิมผู้ปกครองโอกินาว่าในช่วงยุคที่ญี่ปุ่น มีการติดต่อทางการค้ากับทางฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ และครอบครองพื้นที่ฝั่งโอกินาว่ามายาวนานติดต่อกันหลายร้อยปี เพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้งานออกแบบของปราสาทชูริ จะได้รับอิทธิพลอย่างสูงมาจากการออกแบบปราสาทของจีน โดยสังเกตเห็นได้ชัด จากองค์ประกอบการใช้สีแดง ที่สื่อถึงความมั่งคั่งตามแบบของจีน (ที่ปราสาทอื่นๆ ในยุคสงครามของญี่ปุ่น มักจะไม่ใช้กัน) ปัจจุบันปราสาทชูริได้กลายเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่สำคัญ และเปิดให้ท่องเที่ยวเข้าไปชมความโอ่อ่าภายในกันได้ตามปกติ
Location : 1 Chome-2 Shurikinjocho, Naha, Okinawa 903-0815, Japan
และนี่ก็คือ ปราสาทญี่ปุ่น ทั้ง 10 แห่ง ที่เราที่เรานำมาฝากกันค่ะ หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงเลยว่า ที่ญี่ปุ่นจะมีปราสาทเยอะขนาดนี้ ขอบอกเลยว่า นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีปราสาทงามๆ อีกมากมายหลายแห่งทั่วทั้งญี่ปุ่น ซึ่งทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและเชื่อได้เลยว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ไปเยือนได้อย่างแน่นอน