ประเทศในโซนยุโรป เป็นเมืองท่องเที่ยวสวยงามที่ใครๆ ก็อยากไปสักครั้งและ สำหรับใครที่จะแพลนไปเที่ยวยุโรปนั้น สิ่งจำเป็นที่จะต้องมีนอกจากตั๋วเครื่องบิน เสื้อผ้า และเงินในบัญชีแล้ว “วีซ่ายุโรป” เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลยเช่นกัน ซึ่งวีซ่ายุโรป หรือ เชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) เป็นวีซ่าสำหรับใช้เดินทางเข้า-ออกกลุ่มประเทศในโซนยุโรป โดยก่อนที่เราจะทำเรื่องขอวีซ่าเพื่อท่องเที่ยวยุโรป เราจะพาไปทำความรู้จัก เชงเก้นวีซ่ากันก่อนเพื่อที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ
เชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) คืออะไร
เชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) เป็นวีซ่าพำนักระยะสั้นเพื่อใช้เดินทางข้ามพรมแดนไปมาในกลุ่มประเทศแถบยุโรปโดยไม่ต้องถือหนังสือเดินทาง ซึ่งสามารถเดินทางผ่านประเทศต่างๆ ทั้ง 26 ประเทศได้โดยง่ายภายใต้อนุสัญญาเชงเก้น (Schengen Agreement) โดยมีข้อแม้ที่ว่าระยะเวลาที่พำนักในแต่ละประเทศจะต้องไม่เกิน 90 วัน ภายใต้ระยะเวลา 6 เดือนโดยนับตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้าสู้พื้นที่เชงเก้นนั่นเอง
สำหรับกลุ่มประเทศทั้ง 26 ประเทศที่เข้าร่วมอนุสัญญาเชงเก้นได้แก่ ฝรั่งเศส, อิตาลี, เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์, กรีซ, แลตเวีย, สเปน, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, ลิกเตนสไตน์, ลิธัวเนีย, ลักเซมเอร์ก, มอลตา, สวีเดน, เยอรมัน, ฟินแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, เชค, ฮังการี, ไอซ์แลนด์ เอสโตเนีย, เดนมาร์ค, สโลวัก, สโลวีเนีย และออสเตรีย
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ผู้ขอวีซ่าจะต้องรู้เชงเก้นวีซ่าไม่สามารถใช้เข้าประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, เวลส์, สก็อตแลนด์, ไอร์แลนด์เหนือ), ไอร์แลนด์, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, โรมาเนีย และไซปรัส ถ้าหากประสงค์ที่จะเข้าประเทศเหล่านี้จะต้องขอวีซ่าในประเทศนั้นๆ ต่างหาก
ประเภทของเชงเก้นวีซ่า
วีซ่าแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน (วีซ่าประเภท A)
พลเมืองจากประเทศนอกเขตเชงเก้นบางประเทศที่ต้องการเดินทางโดยสายการบินไปยังประเทศที่สาม และจะต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินในเขตประเทศเชงเก้น จะต้องขอวีซ่าแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน
วีซ่าเดินทางผ่าน (วีซ่าประเภท B)
เป็นวีซ่าที่ออกให้บุคคลที่เดินทางผ่านกลุ่มประเทศเชงเก้นเพื่อไปประเทศที่สาม วีซ่าประเภทนี้จะออกให้สำหรับการเดินทางผ่าน 1 ครั้ง หรือมากกว่า 1 ครั้งขึ้นไปทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางผ่านแต่ละครั้งจะต้องไม่เกิน 5 วัน
วีซ่าพำนักระยะสั้น (วีซ่าประเภท C)
เป็นวีซ่าที่นักท่องเที่ยวขอมากที่สุด โดยสามารถเดินทางเข้า-ออกในกลุ่มประเทศเชงเก้นได้ไม่จำกัดครั้ง ซึ่งกำหนดให้มีระยะเวลาอนุญาตให้พำนักแตกต่างกันออกไป แต่ต้องไม่เกิน 90 วัน ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน
วีซ่าเข้าได้แค่ประเทศที่ขอ (วีซ่าประเภท D)
เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่จะพำนักเกิน 90 วัน และใช้เข้าได้เฉพาะประเทศที่คุณขอไปเท่านั้น เช่น วีซ่านักเรียน จะต้องไปขอที่สถานทูต ณ ประเทศที่จะศึกษา จากนั้นสถานทูตจะออกวีซ่าประเภท Dให้ แต่จะเข้าได้แค่ในประเทศนั้นๆ ห้ามออกไปนอกประเทศ จนกว่าจะไปทำเรื่องขอไอดีนักเรียน พอได้ไอดีนักเรียนแล้วถึงสามารถเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่มเชงเก้นได้
ขั้นตอนการขอเชงเก้นวีซ่า
การขอวีซ่ายุโรป หรือเชงเก้นวีซ่ามีขั้นตอนที่สำคัญหลายขั้นตอน ผู้ยื่นขอจะต้องศึกษารายละเอียด และทำแต่ละขั้นตอนอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้ผู้ยื่นขอวีซ่าจะต้องมาดำเนินการด้วยตนเอง โดยสามารถยื่นคำขอวีซ่าล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรืออย่างน้อย 15 วันก่อนการเดินทาง โดยขั้นตอนการขอเชงเก้นวีซ่ามีดังนี้
- เดินทางไปติดต่อขอเชงเก้นวีซ่าด้วยตัวคุณเองได้ที่สถานทูตของประเทศที่คุณคิดว่าจะใช้เวลาพำนักนานที่สุด ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าจะพำนักประเทศใดนานที่สุด ให้คุณเดินทางไปยังสถานทูตที่เป็นประเทศแรกที่เดินทางไปถึง
- กรอกเอกสารใบสมัครให้ละเอียดครบถ้วน และลงนามสำหรับการขอวีซ่า หรือสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ฟรีจากเว็บไซต์ของสถานทูตนั้นๆ พร้อมแนบหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วน
- แสดงหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเกินกว่าช่วงเวลาที่ท่านจะพำนักอยู่ในประเทศเชงเก้น
- ระบุวัตถุประสงค์ของการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศเชงเก้น
- แสดงทรัพย์สินเพื่อยืนยันความสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายระหว่างที่พำนักในกลุ่มประเทศเชงเก้น
- ประกันการเดินทาง โดยจะต้องมีวงเงินประกันคุ้มครองอย่างน้อย 30,000 ยูโร
หลักฐานที่สำคัญสำหรับการขอเชงเก้นวีซ่า
- แบบฟอร์ม หรือใบสมัครขอเชงเก้นวีซ่าที่กรอกรายละเอียดถูกต้องครบถ้วน
- กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี จะต้องแสดงใบสูติบัตร
- กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปี เดินทางไม่ได้มีบิดา หรือมารดาไปด้วยให้แสดงหนังสือยินยอมการเดินทางไปต่างประเทศ พร้อมลงลายมือชื่อ บิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย
- กรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 20 ปี เดินทางไปกับบิดา หรือมารดาเพียงคนใดคนหนึ่ง จะต้องมีเอกสารการยินยอม และหลักฐานรับรองว่ามีอำนาจในการปกครองผู้เยาว์จากสำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ - พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาหน้าพาสปอร์ต พาสปอร์ตต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- รูปถ่ายตัวจริง ฉากหลังพื้นขาว ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
- หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ หรือถ้าเป็นเจ้าของกิจการให้แสดงใบจดทะเบียนทางการค้า หรือใบจดทะเบียนบริษัท กรณีเป็นนักเรียน หรือนักศึกษาให้ขอหนังสือรับรองจากสถานศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ
- เอกสารรับรองสถานภาพทางการเงิน เพื่อยืนยันความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายระหว่างพำนักในประเทศเชงเก้น
- ประกันการเดินทาง โดยจะต้องมีวงเงินประกันคุ้มครองไม่น้อยกว่า 30,000 ยูโร ซึ่งเอกสารประกันการเดินทางนี้สำคัญมากถ้าหากไม่มีอาจโดนปฏิเสธการขอวีซ่ายุโรปได้
- ตั๋วเครื่องบินระบุวันเดินทางไป-กลับอย่างชัดเจน
- แผนการเดินทางระบุวันที่ประเทศ หรือเมืองที่จะไป เพื่อการันตีว่าคุณสามารถเดินทางไปประเทศเชงเก้นได้
- หลักฐานการจองที่พัก โดยพิมพ์ใบจอง ประกอบแผนที่การเดินทางพร้อมชื่อ ที่อยู่ อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ของโรงแรมที่พัก
- เอกสารทางราชการ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า และใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ทั้งจริง และสำเนาพร้อมลงนามให้ครบถ้วน
ค่าธรรมเนียมในการขอเชงเก้นวีซ่า
การขอเชงเก้นวีซ่า คุณจะต้องชำระค่าธรรมเนียมในการขอซึ่งไม่มีการคืนเงิน ปัจจุบันค่าธรรมเนียมในการขอเชงเก้นวีซ่าอยู่ที่ 80 ยูโรต่อคน แต่กรณีเป็นเด็ก หรือผู้ขอเชงเก้นวีซ่าบางกรณีค่าธรรมเนียมอาจลดลง หรือได้รับการยกเว้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้ขอวีซ่านั่นเอง
หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว จะต้องเข้ารับการสัมภาษณ์ในการขอเชงเก้นวีซ่าตามเวลานัดหมาย โดยการสัมภาษณ์จะเป็นการถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว และวัตถุประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ โดยขั้นตอนการสัมภาษณ์จะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที และจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 15 วันทำการ หรือบางกรณีอาจจะนานถึง 45 วันทำการ
และนี่คือขั้นตอนของการขอวีซ่ายุโรป หรือเชงเก้นวีซ่า ซึ่งหากคุณมีแพลนจะเที่ยวยุโรปจะต้องศึกษาข้อมูลการขอวีซ่ายุโรปในประเทศนั้นๆ ให้ละเอียดครบถ้วน และจะต้องดำเนินการยื่นขอวีซ่าด้วยตัวเอง ทั้งนี้เพื่อความถูกต้อง และเพื่อถูกกฎหมาย เมื่อยื่นวีซ่าผ่านแล้วก็เตรียมความพร้อมเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจค่ะ