แนะนำ 30 อาหารกัมพูชา ไปเที่ยวทั้งทีต้องลองให้ได้!
1. หนมบ๋าโชค (Nom banh chok, នំបញ្ចុក)
เริ่มต้นเมนูอาหารกัมพูชากันที่หนมบ๋าโชค (Nom banh chok) หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าก๋วยเตี๋ยวเขมรกันค่ะ เมนูนี้เป็นอาหารประจำชาติกัมพูชาประเภทก๋วยเตี๋ยวหรือเมนูเส้น ที่มีความแตกต่างกันออกไปตามภูมิภาค โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า จึงทำให้เราพบเห็นแม่ค้าที่สะพายไม้คานหาบของ ใส่ก๋วยเตี๋ยวเขมรในตะกร้ามาขายกันในช่วงเช้าได้ทั่วไป อาหารกัมพูชาเมนูนี้ประกอบไปด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวสดที่ทำมาจากข้าว ราดด้วยน้ำซุปคล้ายกับแกงเขียวหวานซึ่งทำมาจากเนื้อปลา, ตะไคร้, ขิง, ขมิ้น และกระเทียม พร้อมด้วย แตงกวาสด, หัวปลี, ถั่วฝักยาว, ดอกไม้กินได้ และใบไม้ป่าวางไว้ด้านบน หนมพาโชคในเสียมราฐนิยมเสิร์ฟพร้อมกับซอสหวานที่เรียกว่า “ตุ๊กแพม” ซึ่งทำจากน้ำตาลปี๊บและถั่วลิสง
2. ซัมลาร์ คาโก (Samlar kako, សម្លកកូរ)
อาหารกัมพูชาเมนูนี้มีความหมายว่า 'ซุปกวน' อาหารประจำชาติกัมพูชาแบบดั้งเดิมที่ชาวกัมพูชาบริโภคกันมายาวนานหลายร้อยปี ประกอบไปด้วยส่วนผสมหลัก 3 อย่างที่เรียกว่าสามเกลอ ได้แก่ พริกแกงเขียวหวาน, น้ำพริกปลาร้า (Prahok) และข้าวคั่วปลาดุกหรือไก่ จากนั้นใส่วัตถุดิบอื่น ๆ เพิ่มเติมเช่น ผัก, ผลไม้ และสมุนไพร ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้หลากหลายตามฤดูกาล และสามารถใช้เนื้อสัตว์ได้เกือบทุกชนิดไม่เพียงแค่ปลาดุกหรือไก่เท่านั้น เป็นเมนูอาหารกำพูชาประเภทแกง ที่มีรสชาติเข้มข้นและได้กลิ่นหอมของข้าวคั่ว ส่วนใหญ่นิยมรับประทานเป็นอาหารจานหลัก และสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติก็สามารถเลือกใช้กะทิและน้ำซุปผัก แทนปลาและเนื้อสัตว์ได้
3. เบ แซค ชุก (Bay sach chruk, បាយសាច់ជ្រូក)
มาต่อกันที่อาหารกัมพูชาเมนูยอคฮิตอย่างข้าวหมูย่างกัมพูชากันค่ะ เมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาแนวสตรีทฟู้ดที่ง่ายและอร่อยมากที่สุด และน่าจะถูกปากชาวไทยด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถหารับประทานข้าวหมูทอดกัมพูชาได้ทั่วไปโดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่ โดยจะใช้เนื้อหมูที่หมักจนได้ที่ นำมาย่างด้วยไฟอ่อนบนเตาถ่านอย่างช้า ๆ เพื่อให้เนื้อนุ่มและหอมกรุ่นกลิ่นควันไฟ เนื้อหมูที่ถูกย่างจนได้ที่จะถูกนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ วางบนข้าวสวย พร้อมด้วยแตงกวาดอง, หัวไชเท้าดอง และขิงดอง โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปไก่ที่มีหัวไชเท้าและโรยด้วยหอมเจียว เป็นอาหารกัมพูชามื้อเช้าที่ทั้งอิ่มอร่อย และได้ประโยชน์อย่างครบถ้วน
4. อาม็อก เตร็ย (Amok trei, អាម៉ុកត្រី)
แกงปลานึ่งเขมรซึ่งมีเนื้อเข้มข้นเหนียวคล้ายกับเนื้อมูส อาหารกัมพูชาเมนูนี้หากจะว่าไปแล้วหน้าตาเหมือนกับห่อหมกบ้านเราดี ๆ นี่เองค่ะ อาหารประจำชาติกัมพูชาที่ทำมาจากเนื้อปลา โดยทั่วไปนิยมใช้ปลาบู่, ปลาช่อน หรือปลาดุก แต่ในบางครั้งก็สามารถใช้เนื้อปลาชนิดอื่น ๆ ได้อีกหลายชนิด เช่น ปลาคอด, ปลากะพง, ปลาแซลมอน เนื้อปลาจะถูกหมักเข้ากับพริกแกงเหลืองหรือพริกแกงสีเขียว ผสมกับหัวกะทิ, น้ำกะทิ และไข่ไก่ นำมาใส่ในกระทงใบตองที่รองด้านล่างด้วยใบยอ แล้วนำไปนึ่งให้สุกจนกระทั่งได้เนื้อที่เข้มข้น เสริฟร้อน ๆ มาบนใบตองหรือบนกะลามะพร้าว รับประทานคู่กับข้าวสวย เป็นเมนูอาหารกัมพูชาที่อร่อยไม่แพ้ห่อหมกบ้านเราเลยทีเดียว
5. เบาะ ลฮ็อง (Bok Lahong, បុកល្ហុង)
สำหรับเมนูนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอาหารกัมพูชาที่หน้าตาเหมือนส้มตำบ้านเราอยู่ไม่น้อยเลยล่ะค่ะ และยังเหมือนกับตำหมากหุ่งของประเทศลาวด้วย ส้มตำเขมรซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติกัมพูชาประเภทยำ หรือสลัดรูปแบบหนึ่ง รสชาติจะออกไปทางหวานกว่าส้มตำและมีความเผ็ดที่น้อยกว่า โดยจะมีการใส่ใบแมงลัก, ใบโหระพา, ใบมะกรูด หรือผักชีฝรั่งลงไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันการปรุง Bok Lahong ของกัมพูชานั้นได้รับอิทธิพลจากส้มตำบ้านเราไปอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการใช้พริกเพื่อให้มีรสชาติเผ็ดมากขึ้น และการใส่น้ำปลาร้าแบบไทยลงไป ทำให้มีรสชาติที่จัดจ้านแตกต่างออกไปจาก Bok Lahong แบบฉบับของอาหารประจำชาติกัมพูชาดั้งเดิม
6. พลีสัจโค (Pleah sach ko, ភ្លាសាច់គោ)
อาหารกัมพูชาแบบดั้งเดิมที่มีรสชาติยอดเยี่ยม และเป็นเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วประเทศ สามารถหารับประทานได้ทั่วไปทั้งจากแผงขายอาหารข้างทาง ไปจนถึงในร้านอาหารหรู เมนูนี้เป็นยำเนื้อสมุนไพรที่มีรสเผ็ดจัดจ้าน ใช้เนื้อวัวนำมาปรุงร่วมกับวัตถุดิบและสมุนไพรต่าง ๆ เช่น พริกหยวก, พริกขี้หนู, กระเทียม, หัวไชเท้าฝอย, ถั่วงอก, หอมแดงซอย, ถั่วลิสงคั่วบด, ตะไคร้, ใบสะระแหน่, ใบโหระพา ปรุงรสด้วยมะนาว, น้ำปลา, น้ำตาล, เกลือ ให้รสชาติที่อร่อยจัดจ้านพร้อมผักที่มีความกรุบกรอบ เข้ากันได้ดีกับเนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำ ซึ่งเมนูนี้จะมีเสิร์ฟด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบดิบ และแบบสุก ใครที่ชอบรับประทานเนื้อและชอบอาหารกัมพูชารสจัดแนะนำเมนูนี้กันเลยค่ะ
7. ประฮ็อก ติส (Prahok ktis, ប្រហុកខ្ទិះ)
อาหารกัมพูชาสูตรดั้งเดิมที่มีมาอย่างช้านาน ไว้สำหรับจิ้มผักต่าง ๆ ทั้งผักสด, ผักลวก และผักดอง ให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ชาวกัมพูชานิยมทำกินกันทุกบ้าน หน้าตาของเมนูนี้คล้ายกับน้ำพริกปลาร้าของบ้านเราค่ะ ส่วนผสมหลักของอาหารประจำชาติกัมพูชาเมนูนี้คือ ปลาร้า, หมูสับ, มะเขือพวง และกะทิ ปรุงรสกับเครื่องแกงปลาร้าหรือ Prahok ที่เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของอาหารกัมพูชา พร้อมด้วยน้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ โรยหน้าด้วยใบมะกรูดซอย ให้รสชาติที่เข้มข้นและหอมปลาร้านัว ๆ นิยมเสิร์ฟพร้อมกับผักสด เช่น แตงกวา, แครอท, กะหล่ำปลี และถั่วฝักยาว และสามารถราดหัวกะทิเพิ่มเพื่อความเข้มข้นได้ รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ บอกเลยว่างานนี้มีคนขอเติมข้าวอย่างแน่นอน
8. ก้อแซกโก (Kor Sach Ko, កូរសាច់គោ)
เมนูเนื้อตุ๋นพะโล้น้ำขลุกขลิกแสนอร่อยนุ่มนวลเต็มไปด้วยรสชาติ อาหารกัมพูชาที่ไม่อยากให้พลาดหากได้มาเที่ยวที่กัมพูชากันค่ะ รสชาติก็คล้ายกับหมูพะโล้บ้านเรา แต่ที่นี่จะใช้เนื้อวัวซึ่งให้รสชาติที่แตกต่างออกไป และแต่ละครอบครัวหรือแต่ละร้านก็จะมีสูตรเป็นของตนเอง โดยพื้นฐานแล้วจะใช้ เนื้อวัว, น้ำตาลปี๊บ, พริกไทยดำ, กระเทียม, โป๊ยกั๊ก เป็นต้น ซึ่งก็จะคล้ายกับเครื่องพะโล้บ้านเรานั่นเองค่ะ ซึ่งวิธีการทำเมนูนี้ก็ไม่ค่อยซับซ้อนเหมือนการทำพะโล้นั่นเอง นิยมเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังบาแก็ตต์ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการที่กัมพูชาเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส หรือรับประทานกับเส้นก๋วยเตี๋ยว โรยหน้าด้วยสมุนไพร หอมซอย และกระเทียมเจียว
9. การี ซารามัน (Kari saraman, ការីសារ៉ាម៉ាន់)
การี ซารามัน (Kari saraman) เป็นแกงเนื้อที่ว่ากันว่ามีความเข้มข้นและซับซ้อนมากที่สุดในบรรดาอาหารกัมพูชาเมนูแกงเลยทีเดียวค่ะ อาจเรียกได้ว่าเป็นเมนูลูกพี่ลูกน้องกับแกงมัสมั่นของไทย เป็นแกงกะทิและเนื้อวัว ที่เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดอยู่ในชุมชนมุสลิมของกัมพูชา โดยใช้พื้นฐานการแกงมาจากประเพณีการทำอาหารของชนกลุ่มน้อยชาวจาม และเป็นหนึ่งในอาหารชาววังของกัมพูชาด้วยเช่นกัน อาหารประจำชาติกัมพูชาที่มีการใช้เครื่องเทศ สมุนไพร และวัตถุดิบต่าง ๆ อย่างหลากหลาย จนได้รสชาติที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามและโรยถั่วลิสง เพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เสิร์ฟพร้อมใบโหระพาหรือผักชีฝรั่ง และขนมปังบาแกตต์ฝาน หรือรับประทานคู่กับข้าวสวยก็เข้ากันได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
10. ต้มยำปลา (Sngor chruak sach trei, ស្ងោរជ្រក់ត្រី)
ว่ากันว่าอาหารกัมพูชามื้อนั้นจะไม่สมบูรณ์ถ้าหากไม่มี Sngor chruak sach trei หรือต้มยำปลาเมนูนี้ เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติกัมพูชาที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ขับเน้นไปที่รสชาติของส่วนผสมหลักอย่างปลาน้ำจืดนั่นเองค่ะ โดยเนื้อปลาจะถูกปรุงรสด้วยมะนาวและกระเทียม ในน้ำซุปที่เต็มไปด้วยสมุนไพรท้องถิ่น เช่น ใบโหระพา, ผักชีฝรั่ง อาจใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น เห็ดฟาง, มะม่วงดิบสับ เป็นต้น เป็นเมนูอาหารกัมพูชาเพื่อสุขภาพที่ซดร้อน ๆ คล่องคอ รับประทานคู่กับข้าวสวยสักจาน ก็อิ่มอร่อยกันไปอีกมื้อ
11. ตุ๊ก เกรือง (Tuk Kroeung, ទឹកគ្រឿងអន្លក់ខ្ចី)
เมนูเครื่องจิ้มที่เรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติกัมพูชากันเลยทีเดียว ทำมาจากปลาปรุงสุกและน้ำปลาร้า เสิร์ฟพร้อมกับผักสดและผักลวกตามฤดูกาล รวมไปถึงสมุนไพรนานาชนิด โดยเฉพาะยอดสะเดาลวกที่ถือได้ว่าเป็นผักจิ้มยอดฮิตของ Tuk Kroeung ส่วนผักอื่น ๆ ที่นิยมกันจะเป็น แตงกวา, ถั่วพู, กะหล่ำปลี, มะเขือเปราะ, ก้านบัว เป็นต้น ใครที่ชอบรับประทานสะเดาน้ำปลาหวานและแจ่วปลาร้า น่าจะชอบเมนูนี้กันค่ะ ซึ่งรสชาติของ Tuk Kroeung จะออกไปทางเผ็ด หวาน และเปรี้ยว หอมกลิ่นปลาร้านัว ๆ และรสชาติจะมีความแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความชอบ
12. ยำส้มโอ (Nhoam krauch thlong, ញ៉ាំក្រូចថ្លុង)
อาหารกัมพูชาเมนูสลัดส่วนใหญ่ มักจะใช้ผลไม้สุกหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเข้ามาเป็นส่วนประกอบร่วมกับผักต่าง ๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความเปรี้ยวสดชื่น ซึ่งยำส้มโอจานนี้ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาที่นำผลไม้รสเปรี้ยวเข้ามาใช้ด้วยเช่นกัน โดยจะทำการแกะเนื้อส้มโอสุก มายำร่วมกับหมูสามชั้น, มะพร้าวคั่ว, กุ้งแห้งตัวเล็ก บางที่อาจใส่กุ้งลวกลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อยด้วย เวลาเสิร์ฟจะโรยหน้ามาด้วยใบสะระแหน่และหอมแดงเจียว ความยากของเมนูนี้คือการทำให้แต่ละกลีบเล็ก ๆ ของส้มโอนั้นแยกออกจากกันอย่างสวยงามโดยที่ไม่ช้ำ เมื่อกัดเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงถุงน้ำเล็ก ๆ ที่แตกออกในปาก เข้ากันได้ดีกับรสชาติของมะพร้าวคั่ว เป็นเมนูอาหารกัมพูชาที่อร่อยสดชื่นและไม่อยากให้พลาดกันค่ะ
13. กบยัดไส้ (Kangkep baob, កង្កែបបោក)
หนึ่งในอาหารกัมพูชาที่แปลกที่สุดแต่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เมนูกบยัดไส้ อาหารประจำชาติกัมพูชาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป โดยจะนำเอากบตัวใหญ่มาควักไส้ออก จากนั้นใส่หมูสับยัดที่ปรุงรสด้วยถั่วลิสงคั่วและพริกแดงเข้าไปแทน เนื้อกบจะถูกหมักด้วยเครื่องแกงเผ็ดที่ทำจากตะไคร้, กระเทียม, ข่า, ขมิ้น และผิวมะกรูด จากนั้นนำกบยัดไส้ที่ได้หนีบกับไม้ไผ่ผ่าซีก แล้วนำไปย่างบนถ่านร้อน ๆ ให้สุกจนผิวข้างนอกเป็นสีเข้ม ถึงแม้ว่าหน้าตาของกบยัดไส้นี้ อาจจะดูไม่ค่อยน่ากินสักเท่าไหร่สำหรับบางคน แต่อยากให้ลองเปิดใจชิมกันอาหารประจำชาติกัมพูชาเมนูนี้ดูค่ะ กบเนื้อแน่นเด้งและเนื้อหมูที่ยัดไส้อยู่ภายใน เข้ากันได้ดีกับความเผ็ดและหอมของเครื่องแกง มีความหวานของน้ำตาลปี๊บเล็กน้อย รับรองว่าอร่อยจนวางไม่ลงอย่างแน่นอน
14. ปลาช่อนต้มหวานและมะม่วงดิบ (Kha trei svay kchai, ខត្រីស្វាយខ្)
มากันที่อาหารกัมพูชาเมนูปลาช่อนกันค่ะ หากเราเดินไปในตลาดสดของกัมพูชาจะสามารถเห็นร้านที่ขายปลาช่อนกันอยู่มากมาย โดยอาหารประจำชาติกัมพูชาเมนูนี้ จะเป็นการนำเอาปลาช่อนมาหั่นเป็นชิ้นหนา ๆ ไปต้มกับน้ำตาลปี๊บ, กระเทียม, พริกไทยดำ และน้ำปลา มักใส่มะเขือเทศสีแดงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความกลมกล่อม และจะต้มปลาทิ้งเอาไว้โดยที่ไม่คนเพื่อไม่ให้เนื้อปลาแตก ทำเพียงแค่เขย่าหม้อเบา ๆ เพื่อให้น้ำตาลปี๊บและส่วนผสมต่าง ๆ กระจายได้อย่างทั่วถึง เวลาเสิร์ฟจะตักเนื้อปลาขึ้นมาแล้วโรยด้วยมะม่วงดิบสับและใบโหระพาสด รสชาติหวานตัดเปรี้ยวของเนื้อปลาและมะม่วงดิบ รับประทานคู่กับข้าวสวยเข้ากันดีเลยทีเดียวค่ะ
15. ซุปกัมพูชานอกหม้อ (Chrok krao chhnang, ស្ងោរជ្រក់ក្រៅឆ្នាំង)
ถึงแม้ชื่อจะบอกว่าเป็นซุปแต่อาหารกัมพูชาเมนูนี้คือสลัดเบา ๆ ที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ หรือจะสั่งมาลองชิมกันจากร้านอาหารกัมพูชากันดูก็ได้ค่ะ มักจะรับประทานกันแบบเย็น ๆ หรือที่อุณหภูมิห้อง เป็นเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาที่เหมาะสำหรับฤดูร้อนเป็นอย่างดี โดยจะเป็นการนำเอาวัตถุดิบต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผักและสมุนไพร ได้แก่ ปลาแห้งฝอย, ไข่ต้ม, หอมแดง, มะเขือเทศ, แตงกวา, ใบสะระแหน่, ผักชีฝรั่ง เป็นต้น โดยวัตถุดิบทั้งหมดใส่ลงในชามแล้วเติมน้ำร้อนลงไป จากนั้นรอให้เย็นแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำมะนาว เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวย รสชาติที่สดชื่นของผักและน้ำซุปที่มีความเค็ม หวาน เปรี้ยว มอบความสดชื่นให้กับหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี
16. หมี่ โกลา (Mi kola, មីកូឡា)
อาหารกัมพูชาเมนูนี้มีที่มาจากชาวกุลาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในกัมพูชา โดยมีพื้นเพมาจากยูนนาน ประเทศจีน รวมไปเถอะรัฐมอญและรัฐฉานของพม่า ที่ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานทางตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชาในช่วงศตวรรษที่ 19 และได้มีการทำเมนูนี้ขึ้นมา จนกลายมาเป็นหนึ่งในเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาในปัจจุบัน ซึ่งเราสามารถพบเห็นบะหมี่ชนิดนี้วางขายตามร้านอาหารริมทางและร้านอาหารต่าง ๆ ได้ทั่วไปในกัมพูชา ส่วนผสมหลักประกอบไปด้วยเส้นหมี่ผัดซีอิ๊ว, กุ้งแห้ง, ไข่ต้ม, แตงกวา, ถั่วงอก, ถั่วลิสงคั่วบด และสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเช่น ใบโหระพา บางที่อาจใส่หมูลงไปด้วย เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดรสเปรี้ยว โดยจะใช้แตงกวาสดและมะละกอดิบคลุกเคล้ากับ มะนาว, กระเทียม, หอมแดง เป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่อิ่มท้องและรสชาติน่าจะถูกปากคนไทยกันอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ
17. มะเขือยาวย่างกับหมู (Chha trop dott, ឆាត្រប់ដុត)
เมนูอาหารกัมพูชาแสนอร่อยที่เหมาะจะกินกับข้าวอีกเมนูหนึ่งค่ะ อาหารประจำชาติกัมพูชาที่ใช้มะเขือยาวและหมูสับเป็นวัตถุดิบหลัก ถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมอยู่แค่ไม่กี่อย่าง แต่เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยรสชาติแสนอร่อย ด้วยการนำเอามะเขือยาวมายากบนเตาถ่านจนผิวด้านนอกไหม้เกรียมเป็นสีดำ ทำให้เนื้อของมะเขือยาวด้านในสุกชุ่มฉ่ำและหอมกลิ่นควันไฟอย่างเป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่หมูสับจะนำไปผัดกับซีอิ๊ว, ซอสหอยนางรม, กระเทียม, พริกไทย และเกลือ นำมะเขือยาวที่ย่างจนเกรียมแล้วมาลอกเปลือกออกจากนั้นกรีดตรงกลางเพื่อแผ่เนื้อมะเขือยาวออก ใส่หมูสับที่ปรุงเอาไว้ลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ซึ่งบางร้านที่มีเมนูนี้อาจจะมีการเพิ่มไข่ต้มเข้าไป หรือใส่ลูกเล่นโดยการปอกเปลือกมะเขือยาวที่ไหม้เกรียมให้เป็นโพรง จากนั้นนำเอาเนื้อและหมูสับที่ปรุงเอาไว้ยัดใส่เข้าไป เป็นเมนูอาหารกัมพูชาที่กินเปล่า ๆ หรือจะกินกับข้าวก็เหมาะทั้งนั้นค่ะ
18. ลก ลัก (Lok Lak, ឡុកឡាក់)
เมนูอาหารกัมพูชาท้องถิ่นที่น่าจะอร่อยถูกปากคนไทยกันอยู่ไม่น้อยค่ะ เป็นอาหารจานเนื้อที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารฝรั่งเศส โดยมีความใกล้เคียงกับเมนู Bò Lúc Lắc ซึ่งแปลว่า "เนื้อเขย่า" ที่เป็นอาหารเวียดนามยอดนิยม อาหารประจำชาติกัมพูชาเมนูนี้ประกอบไปด้วยเนื้อวัวที่ผัดกับหอมหัวใหญ่ โดยจะทำการแล่เนื้อวัวให้เป็นชิ้นบาง ๆ นำไปผัดกับซีอิ๊วและพริกไทยดำ รสชาติจะเป็นรสออกเค็มนำและหวานตาม เสิร์ฟพร้อมกับผักแกล้ม เช่น แตงกวาฝาน, มะเขือเทศฝาน ผักกาดหอม โดยวิธีการกินแบบดั้งเดิมคือนำเอาใบผักกาดหอมที่อยู่ด้านล่างจาน ห่อกับเนื้อวัวแล้วเอาเข้าปาก เป็นรสชาติที่เข้ากันได้อย่างลงตัวจนทำให้ Lok Lak นั้นกลายเป็นเมนูอาหารกัมพูชายอดนิยมอันดับต้น ๆ ของกัมพูชากันเลย
19. หม่ำ ชาว (Maam chao, ម៉ាំឆៅ)
อาหารกัมพูชาที่ทำมาจากปลาร้าดิบชนิดหนึ่ง ดู ๆ ไปหน้าตาก็คล้ายกับปลาร้าสับบ้านเราอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ทำจากเนื้อปลาร้าดิบที่ได้มาจากการนำเอาปลาน้ำจืด ผสมกับเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้แก่ ข้าวคั่ว, ข่า และน้ำตาลปี๊บ นำไปหมักเอาไว้อย่างน้อย 1 เดือน จนได้เนื้อปลาร้าที่มีรสชาติละเอียดอ่อนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเมื่อเทียบกับ Prahok อาหารกัมพูชาประเภทเครื่องจิ้มที่มีส่วนผสมของปลาร้ายอดฮิต จะพบว่า Maam chao นั้นมีรสชาติที่กลมกล่อมละเอียดอ่อนและมีความเผ็ดน้อยกว่า เป็นรสชาติที่มีความสมดุลระหว่างความหวานของน้ำตาลปี๊บ และความเค็มของตัวปลาร้าได้เป็นอย่างดี เสิร์ฟพร้อมกับผักจิ้มและเครื่องเคียงต่าง ๆ และนิยมรับประทานคู่กับหมูต้ม หากมีโอกาสได้มาเยือนกัมพูชาแนะนำให้ลองสั่งเมนูนี้มาชิมกันดูค่ะ
20. ปูผัดพริกหยวก (Chaa kdam meric kchai, ឆាក្តាមម្រេចខ្ចី)
ในเขตชายฝั่งทะเลของกัมพูชามีอาหารทะเลขึ้นชื่ออยู่หลายอย่าง ปูผัดพริกหยวกหรือ Chaa kdam meric kchai คือหนึ่งในอาหารกัมพูชาที่อยากให้ลองสั่งมาชิมกันค่ะ ปูม้าของที่นี่มีความสดใหม่ เนื้อแน่นหวาน จนกลายเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของเมืองชายทะเลในกัมพูชาเลยทีเดียว คุณสามารถพบเห็นตลาดปูที่แสนคึกคักได้ทั่วไปในเมืองตามแถบชายทะเล การนำเอาปูสด ๆ มาผัดกับพริกหยวกและพริกไทยที่ปลูกในท้องถิ่น ให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาจานโปรดที่ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวกัมพูชาต่างก็ชื่นชอบ ดังนั้นหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวกัมพูชาตามเมืองชายทะเล แนะนำว่าห้ามพลาดเมนูนี้กันค่ะ
21. อัง เดรย์ มึก (Ang dtray meuk)
หากไปเที่ยวกัมพูชาในพนมเปญหรือเสียมเรียบ คุณจะพบพ่อค้าขายอาหารทะเลที่ถือเตาถ่านขนาดเล็กไว้บนไหล่ แล้วย่างปลาหมึกขณะที่เดินเลียบชายฝั่ง ปลาหมึกจะถูกทาด้วยด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำปลา นำไปเสียบไม้แล้วย่างบนเตา เสิร์ฟพร้อมซอสรสเผ็ดที่ทำมาจากจากกระเทียม, พริกสด, น้ำปลา, น้ำมะนาว และน้ำตาล นอกจากนี้ยังสามารถมองหาแผงขายอาหารทะเลที่มาพร้อมเตาถ่านเล็ก ๆ สำหรับย่างหมึกได้ทั่วไปตามท้องถนนที่เป็นเมืองชายทะเล โดยเฉพาะในเมืองแกบ (Kep) เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับทะเลฝั่งอ่าวไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลยอดนิยมของกัมพูชา ซึ่งนอกจากจะมีหมึกย่างเสียบไม้ขายกันอยู่มากมายแล้ว ยังเต็มไปด้วยอาหารทะเลต่าง ๆ ที่จับมาขายและปรุงกันสด ๆ เช่น กุ้งย่างและปลาย่างเสียบไม้ เป็นต้น
22. ซุปกัมพูชา (Somlor proher, របៀបធ្វើសម្លប្រហើរ)
Somlor proher เป็นเมนูซุปกัมพูชาที่ถือได้ว่าเป็นอาหารกัมพูชายอดนิยมเลยทีเดียวค่ะ อาจเรียกว่าเป็นอาหารประจำชาติกัมพูชาที่มีกันทุกบ้านเลยก็ว่าได้ มีต้นกำเนิดมาจากหมู่บ้านชาวกัมพูชาโบราณ เต็มไปด้วยส่วนผสมอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะผักสดหลากหลายชนิด พื้นฐานของน้ำซุปนี้คือน้ำพริกปลาร้าหรือ Prahok ที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของอาหารกัมพูชาหลายเมนูเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีตะไคร้และขิงด้วย สำหรับเนื้อสัตว์ที่ใช้ในน้ำซุปมักจะประกอบด้วยปลาร้า, ปลาแห้ง และปลาสด ซึ่งสามารถเลือกใช้ผักต่าง ๆ ได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัวที่ปลูกเอง หรือผักตามฤดูกาล โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็น ฟักทอง, เผือก และบวบ บางที่อาจใส่มะละกอดิบลงไปด้วย เพิ่มกลิ่นหอมด้วยใบโหระพาและปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำมะนาว ซึ่งถ้าหากใครรับประทานมังสวิรัติก็สามารถเอาส่วนประกอบที่เป็นเนื้อสัตว์ออกไปได้
23. ปลาแห้งกับแตงโม (Aluek trei ngeat, អាំងត្រីងៀត)
อาหารกัมพูชาที่จับคู่ผสมผสานกันระหว่างปลาแห้งและผลไม้สด ถึงแม้จะดูไม่เข้ากันแต่ได้รสชาติที่อร่อยอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เมนูนี้ชื่อคล้ายกับเมนูปลาแห้งแตงโมของบ้านเรา แต่มีลักษณะที่แตกต่างกันอยู่มาก เพราะอาหารกัมพูชาเมนูนี้จะมาพร้อมกับแตงโมสด และปลาแห้งเป็นตัว ๆ กันมาเลยค่ะ ปลาที่ใช้จะเป็นปลาช่อนแดดเดียวที่ได้มาจากการนำเอาปลาช่อนสดไปหมักกับเกลือ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ซึ่งการทำปลาช่อนแดดเดียวนี้เป็นหนึ่งในวิธีถนอมอาหารของชาวกัมพูชาที่มีมายาวนานหลายศตวรรษ เนื่องจากปลาช่อนนั้นเป็นปลาน้ำจืดที่มีมากตามแหล่งน้ำต่าง ๆ ของประเทศ โดยจะนำเอาปลาช่อนแดดเดียวไปย่างบนเตาถ่านให้หอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมกับแตงโมสุกที่หั่นเป็นชิ้นหนา ๆ เนื้อหวานฉ่ำ รสชาติเค็มและหอมกลิ่นควันไฟของปลาช่อนแดดเดียว ตัดกับรสหวานสดชื่นของแตงโม กลายเป็นรสชาติที่อร่อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
24. ยำมะม่วงดิบ (Nhoam svay kchai, ញ៉ាំស្វាយខ្ចី)
อาหารกัมพูชาประเภทยำนั้นมีหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียวค่ะ แต่สิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในเมนูประเภทยำของอาหารกัมพูชา คือสมุนไพร 4 ชนิด ได้แก่ โหระพา, สะระแหน่, สะระแหน่กัมพูชา และ Fish Mint ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีลักษณะเป็นใบรูปหัวใจ นิยมปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรสชาติที่ชวนให้นึกถึงทะเล ซึ่งเมนูยำมะม่วงดิบหรือ Nhoam svay kchai ก็เป็นหนึ่งในอาหารประเภทยำที่ใส่สมุนไพรทั้ง 4 ชนิดนี้ด้วยเช่นกัน โดยจะใช้มะม่วงดิบสับคลุกเคล้าเข้ากับปลารมควันและกุ้งแห้งตัวเล็ก ๆ ได้รสชาติเปรี้ยวของมะม่วง ที่สามารถเข้ากับปลารมควันและกุ้งแห้งที่มีรสเค็มได้เป็นอย่างดี ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลปี๊บที่หอมหวาน จนกลายเป็นเมนูยำมะม่วงดิบที่มีรสชาติผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
25. กุยเตียว (Kuy teav, គុយទាវ)
อาหารกัมพูชาเมนูนี้คือก๋วยเตี๋ยวนั่นเองค่ะ ว่ากันว่าก๋วยเตี๋ยวในกัมพูชานั้น มีต้นกำเนิดมาจากพ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาค้าขายในกัมพูชาเมื่อในอดีต บ้างก็ว่ามีต้นกำเนิดในพื้นที่ทางตอนใต้ของเวียดนาม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรขอม ในปัจจุบัน Kuy teav คือหนึ่งในเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชา ที่สามารถเป็นได้ทั้งอาหารเช้าและอาหารบ่ายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ ก๋วยเตี๋ยวของกัมพูชาทำมาจากซุปกระดูกหมูและเส้นก๋วยเตี๋ยว สามารถพบเห็นได้ตามแผงขายของในตลาด ร้านค้าริมทาง ไปจนถึงร้านอาหารต่าง ๆ ทั่วประเทศ สิ่งที่ทำให้ก๋วยเตี๋ยวกัมพูชานั้นมีความแตกต่างจากที่อื่น ๆ ก็คือการใช้สมุนไพรและเครื่องเทศลงไปในอาหาร ซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของอาหารกัมพูชากันเลยทีเดียว นิยมเสิร์ฟพร้อมกับหมูหรือเนื้อ, ลูกชิ้น และกระเทียมเจียว
26. มดแดงผัดเนื้อ (Chaa angrong sach ko, ឆាអង្ក្រងសាច់គោ)
ที่กัมพูชามีเมนูอาหารแปลก ๆ อยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือมดแดงผัดกับเนื้อวัวและโหระพา อาหารประจำชาติกัมพูชาที่หน้าตาอาจจะดูไม่น่ากิน แต่ถ้าลองเปิดใจมองข้ามความแปลกประหลาดของตัวมดแดงไป จะพบว่าจานนี้เป็นเมนูอาหารกัมพูชาที่รสชาติอร่อยถูกปากอย่างไม่น่าเชื่อ และยังเป็นเมนูอาหารกัมพูชาที่ชาวตะวันตกชื่นชอบกันอีกด้วย โดยจะนำเอาตัวมดแดงที่มีขนาดต่าง ๆ มาผัดร่วมกับ ขิง, ตะไคร้, กระเทียม, หอมแดง, พริก และเนื้อวัวฝานบาง ๆ สมุนไพรต่าง ๆ ที่ใส่เข้าไป ช่วยทั้งดับกลิ่นคาวและเพิ่มกลิ่นหอมโดยที่ไม่กลบรสเปรี้ยวของมดแดง เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวย ซึ่งถ้าหากโชคดีอาจจะเจอไข่มดแดงใส่มาให้ด้วยค่ะ
27. นัม อันซอม (Num ansom, នំអន្សម)
อาหารกัมพูชาเมนูนี้คือขนมข้าวเหนียวห่อใบตองแบบดั้งเดิมของกัมพูชา ซึ่งในปี ค.ศ. 2015 รัฐบาลกัมพูชาได้ทุ่มเงินก้อนโตเพื่อสร้าง Num ansom ขนาดยักษ์ที่มีน้ำหนักมากถึง 8,900 ปอนด์ หรือประมาณ 4,037 กิโลกรัม นำไปจัดแสดงที่หน้านครวัด จนได้รับการบันทึกใน Guinness Book of World Records ว่าเป็น Num ansom ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว เมนูนี้ทำมาจากข้าวเหนียวที่ใส่กล้วยและมะพร้าวเข้าไปด้านใน ห่อด้วยใบตอง มัดเป็นปล้อง ๆ ด้วยตอก แล้วนำไปนึ่ง ทอด หรือย่าง สามารถทำแบบของคาวด้วยการใส่เนื้อหมูและถั่วเขียวเข้าไปแทนก็ได้ หน้าตาจะดูคล้ายกับข้าวต้มมัดบ้านเรา แต่มีขนาดใหญ่และยาวกว่า เป็นเมนูอาหารกัมพูชาที่นิยมทำขึ้นมาในวันสำคัญเช่น วันชุมเบ็ญ (วันบรรพบุรุษ)
28. ไก่ต้มมะนาวดอง (Sngor ngam nov sach moan, ស្ងោរង៉ាំង៉ូវសាច់មាន់)
มะนาวเป็นพืชที่ชาวกัมพูชามักจะปลูกเอาไว้ในสวนหลังบ้าน ดังนั้นเมื่อมะนาวออกผลชาวกัมพูชาจึงนิยมนำมะนาวที่เก็บได้ มาดองเอาไว้ในโหลขนาดใหญ่ เพื่อนำไปประกอบอาหารกัมพูชาเมนูต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคืออาหารประจำชาติกัมพูชาอย่าง ไก่ต้มมะนาวดอง (Sngor ngam nov sach moan) นั่นเองค่ะ เมนูนี้จะมีรสชาติที่เด่นชัดของมะนาวดองและเนื้อไก่ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว มีรสเปรี้ยวหวานเล็กน้อย เต็มไปด้วยเนื้อไก่ที่มีความชุ่มฉ่ำและได้กลิ่นหอมจากมะนาวดอง ตะไคร้ และผักชี บางสูตรจะนำไก่ไปทอดก่อน หรือจะใส่กระเทียมเจียวลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอมก็ได้ สำหรับผักอื่น ๆ ที่นิยมใส่ลงไปด้วย ได้แก่ แครอท, หัวไชเท้า และหอมแดง เป็นต้น รับประทานคู่กับข้าวสวยบอกเลยว่าอร่อยลงตัวเป็นที่สุด
29. แกงส้มปลาช่อน (Trei boeng kanh chhet, ត្រីបឹងកញ្ឆែត)
เมนูนี้บอกเลยว่าหน้าตาเหมือนกับแกงส้มปลาช่อนบ้านเรานั่นเองค่ะ ดังนั้นหากไปเทียบกัมพูชาแล้วกลัวอาหารกัมพูชาจะไม่ถูกปาก แนะนำให้สั่งเมนูนี้มากินกับข้าวกันได้เลย ซึ่งปลาช่อนนั้นถือได้ว่าเป็นปลาน้ำจืดที่พบได้มากในแหล่งน้ำของกัมพูชา เมนูนี้จะนำเอาปลาช่อนตัวใหญ่มาทอดจนเหลืองกรอบ เวลาเสิร์ฟจะนำเอาผักต่าง ๆ ได้แก่ กะหล่ำปลี, หัวไชเท้า, ผักกระเฉด รองเอาไว้ด้านล่าง วางปลาทอดที่เตรียมเอาไว้ลงไป จากนั้นราดด้วยน้ำแกงส้มที่ปรุงรสด้วยมะขามเปียกและกะปิ แล้วโรยถั่วลิสงเอาไว้ด้านบน เป็นเมนูอาหารประจำชาติกัมพูชาที่ค่อนข้างมีหน้าตาและรสชาติเหมือนอาหารไทย ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะรับประทานกันไม่ได้ ว่าแล้วก็ตักข้าวสวยกันมาได้เลยค่ะ
30. แกงส้มตะไคร้กัมพูชา (Samlor m’chu kroeung sach ko, សម្លម្ជូរគ្រឿងសាច់គោ)
ปิดท้ายอาหารกัมพูชากันที่เมนูแกงส้มตะไคร้กัมพูชา (Samlor m’chu kroeung sach ko) ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูซุปหรือแกงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกัมพูชา ส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ พริกปลาร้าหรือประฮ็อก (Prahok) และเครื่องแกงที่ทำจากตะไคร้, ข่า, มะกรูด, ขมิ้น และกระเทียม โดยจะมีทั้งสูตรที่ใส่กะทิและไม่ใส่กะทิ ปรุงรสด้วยมะขามเปียกเพื่อให้ได้รสเปรี้ยว ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ได้แก่ เนื้อวัว, ผักโขม, มะเขือยาว, ใบแกง เป็นต้น เป็นแกงที่ให้รสเปรี้ยวและเต็มไปด้วยส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และยังสามารถใช้เป็นน้ำแกงสร่างเมาเพื่อแก้อาการเมาค้างได้อีกด้วย
และทั้งหมดนี้คืออาหารกัมพูชาทั้ง 30 เมนูที่เราได้คัดเลือกมาแนะนำกัน จะเห็นได้ว่าส่วนผสมหลักของอาหารกัมพูชาคือปลาร้า เนื่องมาจากกัมพูชามีแหล่งน้ำอยู่มากมายซึ่งเต็มไปด้วยปลาน้ำจืด ดังนั้นชาวกัมพูชาจึงหาวิธีการถนอมอาหารด้วยการนำเอาปลาที่จับได้ไปทำปลาร้านั่นเอง อีกทั้งยังมีเมนูแปลก ๆ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวกัมพูชาอย่าพลาดชิมอาหารกัมพูชาเหล่านี้กันดูค่ะ