หากเอ่ยถึงพระราชวังยุโรป ทุกคนจะต้องนึกถึงความหรูหราอลังการของสถาปัตยกรรมที่ออกแบบ และตกแต่งให้มีความงดงามสมฐานะ ซึ่งพระราชวังยุโรปเป็นอีกหนึ่งพิกัดยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวที่จะต้องแวะเพื่อชมความสวยงามให้เห็นกับตาสักครั้ง วันนี้เราจะพาไปชม 10 พระราชวังในยุโรป ทั้งสวย และยิ่งใหญ่สุดอลังการระดับโลกกันค่ะ แต่จะมีที่ไหนบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ
เช็กอิน 10 พระราชวังในยุโรป ยิ่งใหญ่อลังการ ทั่วยุโรป
พระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles) ประเทศฝรั่งเศส
เริ่มต้นกันที่พระราชวังยุโรปที่โด่งดังระดับโลกกับ “พระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles)” แห่งประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสถานที่นี้ตกแต่งอย่างสวยงามและหรูหราแบบประเมินค่ามิได้ ความอลังการและงดงามเริ่มตั้งแต่โถงทางเดินเรือนกระจกที่ประดับตกแต่งเพิ่มความหรูหราด้วยโคมระย้า อีกทั้งแถวรูปปั้น และกระจก 357 ชิ้นที่จัดเรียงรายได้อย่างสวยงาม รวมถึงโรงละครรอยัลโอเปร่า(Royal Opera) ที่ต้องบอกว่าไม่มีโรงละครไหนๆ เทียบได้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน และไฮไลต์ที่เป็นที่สุดแห่งพระราชวังแวร์ซายคือ “ห้องบรรทมของพระนางมารีอ็องตัวแน็ต (Marie-Antoinette) ที่งดงาม หรูหรา สมคำร่ำลือ
Location : Place d'Armes, 78000 Versailles, France
พระราชวังช็องบอร์ (Château de Chambord) ประเทศฝรั่งเศส
พระราชวังช็องบอร์ เป็นอีกหนึ่งพระราชวังยุโรปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์ ตั้งอยู่ในแคว้นซองท์ ประเทศฝรั่งเศส จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้ขึ้นชื่อด้วยสถาปัตยกรรมชิ้นเอกแห่งยุคเรอเนสซองต์ ซึ่งเป็นงานที่ผสมผสานระหว่างการก่อสร้างแบบยุคกลางของฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมคลาสสิคของอิตาลีที่มีความสวยงามเกินคำบรรยาย ภายในพระราชวังประกอบด้วยปราสาทที่มีห้องต่างๆ มากถึง 426 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องประดับประดาด้วยงานแกะสลักต่างๆ ที่สวยงามกว่า 800 ชิ้น เรียกได้ว่าสวยและงดงามมากๆ หากใครมีโอกาสมาเยือนฝรั่งเศสอย่าพลาดที่จะเที่ยวชมความงดงามของพระราชวังช็องบอร์แห่งนี้กันด้วยนะคะ
Location : Château, 41250 Chambord, France
พระราชวังดิอาลัมบรา (The Alhambra) ประเทศสเปน
สำหรับประเทศสเปนนอกจากมีปราสาทเทพนิยายที่สวยงามแล้วยังมีพระราชวังยุโรป ที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้มาเที่ยวชมเช่นกัน อย่าง “พระราชวังดิอาลัมบรา (The Alhambra)” ซึ่งตั้งอยู่บนเขาในกรานาดา (Granada) ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 และ โดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมแขกมัวร์ที่สวยงามอลังการ ตัวพระราชวัง และป้อมปราการถูกตกแต่งในธีมที่เข้ากันทั้งซุ้มทางเดิน และสวนรอบๆ ของพระราชวัง และตกแต่งด้วยลวดลายแบบอาหรับที่สวยงามตระการตา นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอย่างสวนสิงโต (Court of the Lions) ที่มีพานหินน้ำพุบนรูปแกะสลักสิงโตหินอ่อน 12 ตัว รวมถึงโถงอาเบนเซอราเจซ (Abencerrajes) ที่มีความหรูหราด้วยเพดานแกะสลักในโดมรูปคล้ายดาว 8 แฉก ทั้งนี้ด้วยความงดงาม และอายุของพระราชวังที่มากกว่า 600 ปี ทำให้พระราชวังดิอาลัมบราได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1984 อีกด้วยค่ะ
Location : C. Real de la Alhambra, s/n, 18009 Granada, Spain
พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace) ประเทศออสเตรีย
พระราชวังเชินบรุนน์เป็นหนึ่งในพระราชวังยุโรปที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก (House of Habsburg) และได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นปลายศตวรรษที่ 17 โดยจักรพรรดิลีโอพอลด์ที่ 1 ของออสเตรีย ด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก (Baroque) ปัจจุบันพระราชวังเชินบรุนน์มีความสำคัญมาก เพราะใช้เป็นสถานที่จัดงานรับรองเชื้อพระวงศ์ รวมถึงแขกบ้านแขกเมืองระดับสากล จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้อยู่ที่การตกแต่งภายในที่วิจิตรงดงามสมคำเล่าลือ ไม่ว่าจะเป็น ห้องรับรองเกรต แกลอรี่ (Great Gallery) ที่ใช้ธีมสีขาว-ทองผ่อง พร้อมกระจกที่ทำจากคริสตัลสุดพรีเมียม อีกทั้งเพิ่มความหรูหราด้วยโคมระย้าขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมี “ห้องแลกเกอร์สีดำ (Vieux-Laque Room)” ที่ตกแต่งด้วยบานพับสีดำจากจีนผสมผสานเข้ากับศิลปะยุโรปได้อย่างลงตัว และ “ห้องเบิร์จ (Bergl Rooms)” ที่มาพร้อมกับภาพวาดธรรมชาติที่ไล่เรียงกันตามจินตนาการอีกด้วย ใครที่มาทัวร์ออสเตรียแนะนำเลยว่าควรมาเยี่ยมชมให้ได้นะคะ
Location : Schönbrunner Schloßstraße 47, 1130 Wien, Austria
พระราชวังวินด์เซอร์ (Windsor Castle) ประเทศอังกฤษ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศอังกฤษต้องไม่พลาดที่จะมาชม “พระราชวังวินด์เซอร์” พระราชวังยุโรป ที่มีความสวยงามที่สุดแห่งยุโรป ตั้งอยู่เนินเหนือแม่น้ำเทมส์ ภายในกรุงลอนดอน พระราชวังแห่งนี้มีความเก่าแก่นับพันปี มีเนื้อที่กว้างขวางโดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ การตกแต่งเป็นแบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความคลาสสิค จุดเด่นของพระราชวังวินด์เซอร์นี้อยู่ที่อพาร์ทเมนท์ที่สวยงามซึ่งตกแต่งด้วยสมบัติจากของสะสมของพระราชวงศ์ อีกทั้งยังมีโบสถ์เซนต์จอร์จที่มีความสวยงามที่สุดในอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีบ้านตุ๊กตาของสมเด็จพระราชินีแมรี่ และนิทรรศการแกลอรี่ภาพวาดของพระราชวงศ์ที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชมอีกด้วย ปัจจุบันพระราชวังวินด์เซอร์ยังเป็นที่ประทับในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ด้วยเช่นกัน
Location : Windsor SL4 1NJ, United Kingdom
พะราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace) ประเทศอังกฤษ
พระราชวังบักกิงแฮม เป็นพระราชวังยุโรปที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย ซึ่งพระราชวังแห่งนี้มีความสำคัญกับประเทศอังกฤษอย่างมาก เพราะเป็นที่ประทับของกษัตริย์ และราชวงศ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประชาชนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความงดงามได้แค่ภายนอกของพระราชวังในบริเวณจำกัดเท่านั้น โดยไฮไลต์จะอยู่ที่สามารถเข้าชมพิธีเข้าเวรของทหารยามซึ่งหาดูได้ยากมีแค่พระราชวังบักกิงแฮมแห่งนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าได้ไปเที่ยวในช่วงเวลาพิเศษระหว่างเดือนสิงหาคมจนถึงกันยายนพระราชวังบักกิงแฮมจะเปิดให้เข้าชมบริเวณโถงใหญ่อีกด้วย
Location : London SW1A 1AA, United Kingdom
พระราชวังเปนา (Pena Palace) ประเทศโปรตุเกส
พระราชวังเปนา เป็นอีกหนึ่งพระราชวังยุโรปที่เป็นมรดกโลกแห่งเมืองซิงตรา (Sintra) ประเทศโปรตุเกส เดิมพระราชวังแห่งนี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 15 แต่เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหว โบสถ์แห่งนี้เกิดพังทลายลงเหลือแต่ซากปรักหักพัง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1838 กษัตริย์ Ferdinand Saxe-Coburg-Gotha ได้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่แทนที่โบสถ์หลังเดิมด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติก (Romanticism) เพิ่มจุดเด่นด้วยสีฉูดฉาด สดใส สีเหลือง แดง น้ำเงิน และม่วง นอกจากนี้ภายนอกพระราชวังยังตกแต่งด้วยพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างแวะมาเยี่ยมเยือนเพื่อชมชมความงดงามของพระราชวังแห่งนี้
Location : Estrada da Pena, 2710-609 Sintra, Portugal
พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก (Munich Residenz) ประเทศเยอรมนี
พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิวนิก ในรัฐบาวาเรีย โดยในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นเขตพระราชฐานของราชอาณาจักรบาวาเรีย และต่อมาในช่วงปีค.ศ. 1508 ถึง ค.ศ.1918 ถูกใช้เป็นรัฐสภาบาวาเรีย และในปัจจุบันเป็นพระราชวังยุโรป เก่าแก่และพิพิธภัณฑ์หลวงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ซึ่งความงดงามพระราชวังแห่งนี้อยู่ที่ความลงตัวในการผสมผสานกันของสถาปัตกรรมและการตกแต่งในรูปแบบต่างๆ อย่าง เรเนซอง, บาโรก , ร็อคโคโค และนีโอคลาสสิค นอกจากนี้การตกแต่งภายในยังมีความสวยงามตระการตา รวมถึงมีการนำของสะสมโบราณของราชวงค์ต่างๆ ที่เคยปกครองบาวาเรียมาจัดแสดงอีกด้วย ปัจจุบันพระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามทุกวันยกเว้นวันคริสต์มาส วันสิ้นปี และวันปีใหม่ค่ะ นอกจากนี้ในส่วนจัดแสดงต่างๆ อาจจะมีเวลา เปิด-ปิดไม่เหมือนกัน แนะนำให้เช็กรายละเอียดกันด้วยนะคะจะได้ไม่พลาดจุดแสดงที่สำคัญในวันที่แวะมาเที่ยวที่นี่ค่ะ
Location : Residenzstraße 1, 80333 München, Germany
พระราชวังกาแซร์ตา (Royal Palace of Caserta) ประเทศอิตาลี
พระราชวังกาแซร์ตา ประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในพระราชวังยุโรปแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และยังเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เดิมทีเป็นพระราชวังเก่าแก่และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์แห่งเนเปิลส์แห่งราชวงศ์บูร์บง และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมชั้นเลิศของยุคบาโรกที่ใช้ศิลปะแบบภาพลวงตาทำให้เกิดพหุทัศน์ทางสถาปัตยกรรมที่งดงาม รวมถึงการตกแต่งภายในที่หรูหรา โอ่อ่าและปราณีต ทำให้พระราชวังแห่งนี้มีความงดงามแบบหาที่เปรียบมิได้ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1997 ปัจจุบันพระราชวังกาแซร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมความสวยงาม นอกจากนี้พระราชวังยุโรปแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์อยู่บ่อยๆ อีกด้วยค่ะ
Location : Piazza Carlo di Borbone, 81100 Caserta CE, Italy
พระราชวังกรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm Royal Palace) ประเทศสวีเดน
พระราชวังกรุงสตอกโฮล์ม เป็นพระราชวังยุโรปที่มีความเก่าแก่ และสวยงามเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเป็นที่ประทับของราชวงศ์สวีเดน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วย สำหรับพระราชวังกรุงสตอกโฮล์มแห่งนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1754 ด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก มีความสูง 7 ชั้น ภายในพระราชวังมีห้องมากมายถึง 608 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องมีความสวยงามอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องพระคลัง, วิหารหลวง, ห้องโถงว่าการของรัฐ (Hall of State), ห้องพักของขุนนางลำดับต่างๆ รวมถึงพิพิธภัณฑ์โบราณสถานกุสตาฟที่ 3 และไฮไลต์ของพระราชวังแห่งนี้ที่พลาดไม่ได้เลยคือ Treasury ห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่มีทั้ง อาทิเช่น มงกุฎ อ่างน้ำมนต์ที่ทำจากเงิน และดาบเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจอีกอย่าง คือ การผลัดเปลี่ยนเวรยามประจำวันของกองทหารรักษาพระองค์ ที่จะคอยผลัดเปลี่ยนในช่วงก่อนเที่ยงของทุกวันนั่นเอง สำหรับพระราชวังกรุงสตอกโฮล์มจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปีค่ะ แต่จะสามารถเข้าชมได้บางส่วนที่เปิดให้บริการเท่านั้น ใครที่มาเที่ยวกรุงสตอกโฮล์มแนะนำเลยว่าห้ามพลาดเลยทีเดียว
Location : Kungliga slottet, 107 70 Stockholm, Sweden
และนี่ก็คือ 10 พระราชวังในยุโรป ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ค่ะ หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และชื่นชมความงามของสถาปัตกรรมแบบยุโรป แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาดที่จะแวะชมความงดงามของพระราชวังเหล่านี้กันด้วยนะคะเพราะนอกจากจะได้ความประทับใจกลับไปแล้วยังได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพระราชวังยุโรป เก่าแก่เหล่านี้ด้วยค่ะ