แนะนำ สภาพอากาศลาว เดือนไหนน่าเที่ยวพร้อมพิกัดที่เที่ยวยอดนิยม

ลักษณะภูมิประเทศที่มีผลต่อสภาพอากาศลาว

ก่อนที่จะเจาะลึกถึงอากาศลาว เราควรทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุที่แต่ละภูมิภาคของลาวนั้นมีอากาศที่แตกต่างกันเกิดจากลักษณะทางกายภาพ เพราะประเทศลาวขนาบข้างด้วยแม่น้ำโขงทางทิศตะวันตก ส่วนทางตะวันออกจะมีเทือกเขาอันนาไมต์ นอกจากนี้ลาวยังล้อมรอบด้วยประเทศต่างๆ มากมายในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีพรมแดนติดกับไทยและเวียดนาม ทางตอนเหนือจะติดกับจีนซึ่งก็ส่งผลให้อากาศหนาวเย็นในบางช่วง ส่วนประเทศพม่าจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมีกัมพูชาติดกับทิศใต้ ลาวไม่มีทางออกสู่ทะเล ดังนั้นลาวจึงอุดมไปด้วยป่าไม้และภูเขา ซึ่งเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวต่างก็หลงใหลในธรรมชาติ แถมที่นี่ยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่กว่า 1,200 ชนิดอีกด้วย ถือเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์มากเลยทีเดียว

ลาวมียอดเขาสูงสุดที่ความสูง 2,820 เมตร ตั้งอยู่ในเชียงขวาง นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำและลำธารยาวถึง 2,400 กิโลเมตรที่ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขง ในแต่ละปีอากาศลาวจะเจอกับฝนตกซึ่งมีปริมาณราวๆ 1,360 มิลลิเมตรในหลวงพระบางและ 3,700 มิลลิเมตรบนที่ราบสูงโบโลเวนในช่วงฤดูมรสุม สภาพอากาศลาวบางช่วงของปีอาจจะเผชิญกับความแห้งแล้ง ทำให้ขาดแคลนน้ำได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเกษตรและวิถีชีวิตของผู้คน

สภาพอากาศลาวและเรื่องที่ต้องรู้ก่อนออกเดินทาง

สภาพอากาศลาวทั่วไปจะมีภูมิอากาศแบบเขตร้อน เริ่มต้นฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ส่วนฤดูแล้งที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเย็นจะเริ่มเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังมีฤดูร้อนที่แห้งแล้งคล้ายๆ กับอีสานบ้านเราในเดือนมีนาคมและเมษายน ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของฤดูแล้งซึ่งทำให้ขาดแคลนน้ำ และเป็นฤดูที่อากาศลาวต้องเจอกับมรสุมซึ่งมักจะเกิดขึ้นพร้อมกันในทุกภูมิภาค

ฤดูแล้ง

โดยทั่วไปฤดูแล้งของลาวจะแบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่ ฤดูแล้งที่อากาศค่อนข้างเย็นหรือหนาว อากาศลาวหน้าแล้งอีกฤดูก็คือ ช่วงที่ร้อนและแห้งแล้ง โดยฤดูแล้งที่มีอากาศเย็นจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ และฤดูแล้งที่อากาศทั้งร้อนทั้งแห้งแล้งมักจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายน อากาศลาวในช่วงที่ร้อนและแห้งแล้งนั้นถือว่าโหดร้ายมากไม่แพ้อากาศร้อนในเมืองไทย

ฤดูแล้ง - ร้อน

นอกจากฤดูร้อนจะมีอากาศที่ร้อนระอุแล้ว สิ่งที่แย่ไปกว่าเดิมก็คือ ปัญหาเรื่องควันและฝุ่น โดย เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ชาวนามักจะจุดไฟเผาตอซังข้าวและป่า ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในไทยเช่นกัน ด้วยเหตุที่ว่าต้องการปรับปรุงหน้าดินและเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปลูกข้าวใหม่ การเผาจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่ปกคลุมไปทั่วทั้งประเทศ ซึ่งนอกจากจะทำลายทัศนียภาพแล้ว ยังทำให้เกิดมลพิษและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

ฤดูแล้ง - ฤดูหนาว

หากอยากเจอสภาพอากาศลาวแบบหนาวเย็น ต้องไปช่วงแล้งในตอนปลายปี ช่วงนี้ถือเป็นเวลาที่ดีในการท่องเที่ยว เพราะอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ อากาศสะอาดขึ้น ฝุ่นและควันเริ่มหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อุณหภูมิจะลดลงต่ำถึง 15 องศาเซลเซียส อากาศลาวที่เย็นสบายสดชื่นแบบนี้ จะทำให้การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาพีคพอควร โดยหากอยากเจอสภาพอากาศลาวดีๆ จะต้องขึ้นเหนือ เพราะหากลงใต้ไปปากเซอากาศจะค่อนข้างอบอุ่น โดยมีอุณหภูมิสูงสุด 30 องศาเซลเซียส

ฤดูฝน

ปกติสภาพอากาศลาวที่เริ่มจะมีฝนโปรยปรายมักจะเป็นเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ซึ่งอากาสจะคล้ายๆ กับไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยบางช่วงอาจจะเจอกับมรสุม ส่วนใหญ่ฝนจะตกโดยเฉลี่ยราวๆ 2 ถึง 3 ชั่วโมงในแต่ละวัน แทนที่จะเป็นฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวัน ช่วงนี้หากใครไปเที่ยวบนภูเขาสูงอาจจะเจอฝนโจมตีค่อนข้างหนัก เพราะโดยทั่วไป ยิ่งอยู่สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีฝนตกมากขึ้นเท่านั้น ส่วนใครอยากจะหนีฝน แนะนำให้เที่ยวทางตอนใต้ริมโขงของเวียงจันทน์ซึ่งมักจะมีฝนตกน้อยที่สุด

แม้สภาพอากาศลาวจะมีช่วงเวลาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่โดยส่วนใหญ่เราก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศลาวได้ตลอดทั้งปี เพราะลาวไม่ได้อยู่ติดทะเลจึงไม่เจอพายุจากชายฝั่ง เพียงแต่หากไปช่วงที่เจอการเผาป่าและเจอควันหรือฝุ่น PM2.5 อาจจะทำให้เราป่วยและหมดสนุกได้ ดังนั้นแนะนำว่าให้เลี่ยงช่วงที่อาจจะเจอกับผลกระทบจากสภาพอากาศและมลพิษ และเลือกการเดินทางในช่วงเวลาที่ทำให้เราได้อิ่มเอมกับความงดงามตามธรรมชาติของลาวจะทำให้ทริปของคุณยอดเยี่ยมที่สุด