โมจิ ญี่ปุ่น (ไดฟุกุ ญี่ปุ่น) ขนมหนุบหนับ ยอดฮิตที่ญี่ปุ่น

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

เรื่องราวของ โมจิ ญี่ปุ่น (ไดฟูกุ ญี่ปุ่น) ที่มาของความหนุบหนับที่ทุกคนชื่นชอบ

โมจิ ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบ ในการทำอาหารและขนม ของคนญี่ปุ่น ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยยุคเอโดะ หรือเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดย โมจิ ญี่ปุ่น แต่ดั้งแต่เดิมนั้น ทำขึ้นจากส่วนผสมง่ายๆ ได้แก่ แป้งโมจิ และ น้ำสะอาด ที่ถูกนึ่งจนสุก และนำมาตำให้แน่น จนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน ก็จะได้แป้งโมจิสุดเหนียวนุ่ม เอาไว้ใช้ในการทำอาหาร ทั้งของคาวและของหวานอื่นๆ ต่อไป โดยวิธีการทำแป้งโมจิด้วยมือนั้น ถือเป็นศาสตร์เก่าแก่อีกอย่างของญี่ปุ่น ที่ต้องอาศัยทั้งความชำนาญและการฝึกฝนพอสมควร ทำให้ปัจจุบัน ก็มีการทำแป้งโมจิ ด้วยการใช้เครื่องจักรระบบอัตโนมัติ เข้ามาช่วยในการผลิตจำนวนมาก ตามยุคสมัย แต่สำหรับแป้งโมจิแบบดั้งเดิม คือแบบทำด้วยมือล้วน ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง (หากมีความเชี่ยวชาญมากพอ)

และด้วยความพิเศษของแป้งโมจิ ที่ความเหนียวนุ่ม สามารถเข้ากันได้กับอาหารหลายชนิด ที่ญี่ปุ่นจึงมีเมนูที่ทำขึ้นจากโมจิ ออกมามากมาย โดยหนึ่งในขนมที่เราคุ้นเคยกันดีที่สุด ก็คือขนมเหนียวหนึบแสนอร่อย อย่าง ไดฟูกุ ญี่ปุ่น นั่นเอง โดยไดฟูกุ ก็ถือเป็นขนมที่มีประวัติมานานยากมากพอๆ กับต้นกำเนิดของแป้งโมจิ เดิมทีไดฟูกุ ถูกเรียกว่า “อุซึระโมจิ” แปลว่า “โมจินกกระทา” เนื่องจากในอดีต ขนมจะถูกทำออกมาเป็นรูปนก ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี และการขอพรต่อเทพเจ้า ต่อมาเมื่อขนมได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการทำออกมาด้วยรูปทรงเป็นก้อนกลมๆ ให้รับประทานง่ายขึ้น และสามารถสอดไส้ได้มากกว่าเดิม ก็ถูกเรียกว่า “ไดฟูกุโมจิ” ที่แปลว่า “โมจิกลมๆ” และหดเหลือเพียงแค่ชื่อ ไดฟูกุ มาจนถึงปัจจุบัน

โมจิ ญี่ปุ่น กับ ไดฟุกุ ญี่ปุ่น เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?

จริงๆ แล้ว ไดฟูกุ ก็คือ ขนม โมจิ ญี่ปุ่น อีกประเภทหนึ่งนั่นเอง โดยเป็นการเอาโมจิ มาสอดไส้ต่างๆ ไว้ข้างใน และเรียกว่า ไดฟูกุ แต่เนื่องจากความนิยมที่แพร่หลายเป็นอย่างสูงมากของไดฟูกุ ก็เลยทำให้หลายคนเข้าใจว่า โมจิ กับ ไดฟูกุ เป็นขนมคนละอย่างกัน แต่ความจริงแล้ว ไดฟูกุก็คือโมจิที่มีไส้ นี่แหละ เพราะสำหรับญี่ปุ่นนั้น โมจิ ไม่ได้เป็นเพียงแค่อาหารอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่แล้ว แต่แป้งโมจิ ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร และของหวาน ได้มากมายหลายเมนู เราจึงไม่สามารถระบุได้แบบเจาะจงเสียทีเดียวว่า โมจิ คือขนมอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะในอาหารญี่ปุ่น โมจิแทบจะอยู่ในส่วนผสมของขนมหลายชนิดอยู่แล้ว

และด้วยเหตุนี้เอง ก็น่าจะทำให้หลายคน เริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไม โมจิ นครสวรรค์ ของบ้านเรา ถึงไม่ใช่โมจิแบบแท้ๆ เพราะทุกอย่างแตกต่างกันหมด ไม่ว่าจะ วัตถุดิบ วิธีการทำ รวมถึงเนื้อสัมผัสและรสชาติ ถือว่าเป็นโมจิประยุกต์ สไตล์ไทยๆ นั่นเอง (ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะถือเป็นการตีความวิธีการผลิตตามวัตถุดิบท้องถิ่นของเราเอง) แต่ถ้าเป็น โมจิ ญี่ปุ่น แบบแท้ๆ ต้องเป็นเนื้อสัมผัสที่นุ่มนิ่มละมุนลิ้นเท่านั้น

รู้จักกับ โมจิ ญี่ปุ่น (ไดฟูกุ ญี่ปุ่น) ทั้ง 10 แบบ ที่เราอยากชวนให้ลิ้มลอง!

1. มาเมะไดฟูกุ (Mame Daifuku)

ไดฟูกุสอดไส้ถั่ว แบบที่เราคุ้นเคยกันดี ถือเป็น โมจิ ญี่ปุ่น ที่ใกล้เคียงกับโมจิของบ้านเรามาก โดยนิยมใช้ทั้งไส้ ถั่วเหลือง และ ถั่วแดง และหลายเจ้ามักจะใช้เม็ดถั่วแดงแบบเป็นเม็ดๆ แทรกบนผิวหน้าของตัวไดฟูกุ ให้รสสัมผัสที่แปลกและอร่อยไปอีกแบบ

2. คินาโกะไดฟูกุ (Kinako Daifuku)

เป็นไดฟูกุสอดไส้แบบทั่วไปคล้ายๆ กับ มาเมะไดฟูกุ เพียงแต่จะมีการโรย ถั่วคินาโกะ เป็นถั่วเม็ดเล็กๆ คล้ายถั่วเหลือง โรยอยู่ด้านบนด้วย เพื่อให้เกิดรสชาติที่มีความ หวาน มัน เค็ม กำลังดีนั่นเอง เป็นอีกรสชาติที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยกันมานาน

3. อิจิโกะไดฟูกุ (Ichigo Daifuku)

เป็น โมจิ ญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในฤดูกาลสตรอว์เบอร์รีของญี่ปุ่น โดยเป็นการเอาสตรอว์เบอร์รีทั้งลูกยัดเข้าไปในไส้ของแป้งโมจิ กลายเป็นไดฟูกุที่มีรสชาติของแป้งโมจิแบบเพียวๆ ผสมกับความหวานเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รีด้านใน ซึ่งต้องบอกว่าอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ

4. ซากุระไดฟูกุ (Sakura Daifuku)

ไดฟูกุเนื้อแป้งสีชมพูดูหวานแหววน่ารัก ดูเข้ากับบรรยากาศของฤดูกาลดอกซากุระ เลยได้ชื่อว่าเป็น ซากุระไดฟูกุ นั่นเอง โดยจะนิยมสอดไส้ยอดนิยม ที่ดูเข้ากันกับแป้งโมจิสีชมพู เช่น สตรอเบร์รี่ ถั่วแดง หรือถั่วขาว เป็นต้น

5. ไดฟูกุไอสึ (Daifuku Aisu) หรือ ไดฟูกุไอซ์ (Daifuku Ice)

ถือเป็นเรื่องปกติ กับการเอาขนมประเภทแป้ง มาผสมเข้ากับไอศกรีม ไดฟูกุเองก็มีประเภทที่สอดไส้ไอศรีมหวานเย็น ให้เลือกทานกันมากมายหลายรสชาติเช่นกัน โดยเป็นหนึ่งในไดฟูกุที่สามารถประยุกต์รสชาติออกมาได้หลากหลายจริงๆ

6. โยโมกิไดฟูกุ (Yomogi Daifuku)

ไดฟูกุสีสันแปลกตา เป็น โมจิ ญี่ปุ่น สีเขียวเข้ม ที่หลายคนเห็นอาจจะรู้สึกไม่น่ากิน เหมือนไดฟูกุลูกขาวๆ แต่จริง ๆ แล้ว ถือว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะสีเขียวที่เห็นนี้ มาจากส่วนผสมของ หญ้าโยโมกิ ที่เป็นพืชสมุนไพรที่เป็นที่นิยมของญี่ปุ่น แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย

7. อุเมะไดฟูกุ (Ume Daifuku)

เป็นไดฟูกุสอดไส้บ๊วยของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบเก่าแก่ที่ญี่ปุ่นนิยมมานาน ทำให้มีรสชาติที่แปลกและแตกต่างไปจากรสอื่นๆ เพราะมีความเปรี้ยว ความหวาน รวมถึงความเค็ม ตัดกันกับแป้งโมจินุ่มๆ ได้เป็นอย่างดี

8. มัทฉะไดฟูกุ (Matcha Daifuku)

ไดฟุกุแบบที่มีส่วนผสมของ ชาเขียวมัทฉะ นั่นเอง โดยถือเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ของขนมญี่ปุ่น โดยชาเขียวมัทฉะถูกนำมาใช้กับไดฟูกุในหลายรูปแบบมาก ทั้งสอดไส้ครีมมัทฉะ ผสมในเนื้อแป้งโมจิ รวมถึงโรยด้วยผงมัทฉะเช่นกัน เหมาะกับการทานคู่กับชาเชียวอุ่นๆ เป็นอย่างยิ่ง

9. ไดฟูกุย่าง (Toasted Daifuku)

การนำ โมจิ ญี่ปุ่น ไปย่างไฟนั้น ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่คนญี่ปุ่นนิยมเสมอมา ซึ่งไดฟูกุเองก็สามารถนำไปย่างไฟร้อนๆ ได้เช่นกัน ทำให้ตัวแป้งไดฟูกุ จะเหนียวนุ่มและยืดยิ่งกว่าเดิม แถมบางครั้งจะทำให้ไส้ข้างในมีรสชาติเข้มข้นขึ้นด้วย หลายคนติดใจไดฟูกุย่างกันจนต้องนำมาย่างไฟทุกครั้งเลยทีเดียว

10. ยูซุไดฟูกุ (Yuzu Daifuku)

เป็น โมจิ ญี่ปุ่น สอดไส้ครีมเปรี้ยวหวานที่ทำมาจาก ยูสุ ผลไม้รสเปรี้ยวที่มีความฉุน คล้ายกับส้ม ที่มีรสชาติเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ทำให้หลายคนชอบและติดใจกันไม่น้อย โดยเฉพาะใครที่ชอบไส้ไดฟูกุ ที่มีความเปรี้ยวหวานคล้ายกับไส้ของโดนัท ยังไงก็ต้องชอบแน่นอน

ก็เรียกได้ว่าโมจิญี่ปุ่น (ไดฟูกุ ญี่ปุ่น) นั้นเป็นขนมที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอดจริง ๆ ทั้งในรูปแบบที่นำมาทานคู่กับอาหารคาวอย่างชาบูชาบู ทานเป็นของหวานด้วยการนำไปย่าง แล้วราดน้ำเชื่อมและผงถั่วบดก็ดี หรือแม้แต่โมจิญี่ปุ่นแบบสอดไส้ หรือที่เรียกว่าไดฟูกุที่มีหลากหลายไส้ หลากหลายรสชาติให้เลือกทาน ซึ่งใครที่อยากสัมผัสรสชาติขนมญี่ปุ่นแท้ ๆ ก็ห้ามพลาดการทานขนมโมจิญี่ปุ่น หรือไดฟูกุญี่ปุ่นเด็ดขาดเลยนะ ทั้งนี้สมัยนี้ในบ้านเราก็สามารถหาซื้อโมจิญี่ปุ่นมาทานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือกทานหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งแบบโมจิญี่ปุ่นที่มีแค่แป้ง เหมาะสำหรับไปทานกับอาหารคาว หรือนำไปย่างทานโดยเฉพาะ และแป้งโมจิญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับท็อปปิ้งอย่างน้ำเชื่อมและผงถั่วบด

โมจิ ญี่ปุ่น (ไดฟุกุ ญี่ปุ่น)​ ขนมหนุบหนับ ยอดฮิตที่ญี่ปุ่น