อาโอโมริ จังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะฮอนชูในประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้อาโอโมริมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แต่สิ่งที่ทำให้จังหวัดนี้เป็นที่รู้จักคือ แอปเปิ้ล ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก อีกทั้งความอุดมสมบูรณ์ทรัพยากร และความสวยงามของธรรมชาติ รวมถึงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้อาโอโมริเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ และไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง แถมยังเดินทางได้สะดวกสามารถทัวร์อาโอโมริได้ทั้งรถไฟ และเครื่องบินภายในประเทศ หากคุณมีเวลาท่องเที่ยวที่มากพอต้องห้ามพลาดเที่ยวอาโอโมริ จังหวัดที่ไม่ได้มีดีแค่แอปเปิ้ล แต่ยังมีมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหาอีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูล และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆของจังหวัดอาโอโมริสำหรับผู้ที่สนใจอยากเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบครบวงจรมาฝากกันค่ะ
ข้อมูลเที่ยวทัวร์อาโอโมริ
จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เป็นจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดของเกาะฮอนชูของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 มีพื้นที่ทั้งหมด 9,645.64 ตารางกิโลเมตร รายล้อมไปด้วยทะเลทั้ง 3 ด้าน โดยทิศตะวันออกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศตะวันตกติดกับทะเลญี่ปุ่น และทิศเหนือติดกับช่องแคบสึงะรุซึ่งคั่นกลางระหว่างเกาะฮอนชู และเกาะฮอกไกโด มีเมืองเอกหลักคือ นครอาโอโมริ ด้วยลักษณะภูมิประเทศของอาโอโมริที่ปกคลุมไปด้วยป่าเขา และทะเลจึงทำให้อาโอโมริมีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งอาหารทะเลสด ๆมากมาย
ในอดีตบริเวณจังหวัดอาโอโมริ มีมนุษย์อาศัยอยู่เป็นเวลากว่า 15,000 ปี โดยมีการค้นพบเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ต่อมาในปี ค.ศ. 1871 สมัยยุคเอโดะ ได้มีการสร้างท่าเรือขึ้นในบริเวณนี้ และจัดตั้งให้เป็นจังหวัดอาโอโมริในที่สุด แต่ต่อมาเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ และสงครามโลกครั้งที่สองทำให้จังหวัดอาโอโมริถูกทำลายเสียหายเป็นอย่างมาก จนหลังสงครามโลกรัฐบาลญี่ปุ่นได้บูรณะ และฟื้นฟูจังหวัดอาโอโมริอีกครั้ง พร้อมกับได้มีการก่อสร้างอุโมงค์เซกังเพื่อเชื่อมเกาะฮอนชูกับเกาะฮอกไกโดเข้าด้วยกัน ซึ่งอุโมงค์นี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1985 โดยใช้เวลาก่อสร้างกว่า 23 ปี ด้วยงบประมาณ 7 แสนล้านเยน และกลายเป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในโลกนั่นเอง ภายหลังอุโมงค์แล้วเสร็จ 3 ปีได้มีการเดินรถไฟผ่านอุโมงค์นี้ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1988 และยังเป็นวันสุดท้ายที่เรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเซกังให้บริการ ซึ่งให้บริการมากกว่า 80 ปี
จังหวัดอาโอโมริ ประกอบด้วย 10 เมือง 8 อำเภอ 22 ตำบล และ 8 หมู่บ้าน มีประชากรมากกว่า 1.2 ล้านคน โดยประชากรส่วนใหญ่ 45 เปอร์เซ็นต์จะอาศัยอยู่ในเมืองหลัก 2 เมือง คือ เมืองอาโอโมริ และเมืองฮาจิโนเฮะ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพอุตสาหกรรมป่าไม้ การประมง และเกษตรกรรม โดยเป็นศูนย์กลางการเพาะปลูก และเก็บเกี่ยวต้นฮิบะเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างไม้ทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิต และส่งออกแอปเปิ้ลรายใหญ่ โดยคิดเป็น 59 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตแอปเปิ้ลทั้งหมดของญี่ปุ่นในปี 2018 นอกจากนี้ยังเป็น 1 ใน 5 จังหวัดที่ติดอันดับต้น ๆในญี่ปุ่นมีการเติบโตของภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอีกด้วย
ทัวร์อาโอโมริแนะนำ
อาโอโมริ ถึงแม้จะไม่ใช่จังหวัดหลักที่เหล่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความสนใจมากนัก แต่ด้วยเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ จึงทำให้เป็นจังหวัดที่มีมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล ทั้งศิลปะวัฒนธรรมที่คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองอาโอโมริ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆทั้งในเมือง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก อีกทั้งผลไม้ที่ขึ้นชื่ออย่างเช่น แอปเปิ้ล และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆจากแอปเปิ้ลที่คุณห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีของกินท้องถิ่นแสนอร่อย พร้อมทั้งของฝากของที่ระลึกที่เมื่อเห็นแล้วจะต้องช้อปกลับบ้านอย่างแน่นอน อาโอโมริจึงเป็นอีกหนึ่งจังหวัดในญี่ปุ่นที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย และสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากคุณอยากเที่ยว และอยากพักผ่อนแบบสโลไลฟ์มาเที่ยวอาโอโมริรับรองคุณจะประทับในอย่างแน่นอน
สถานที่เที่ยวทัวร์อาโอโมริ ยอดนิยม
1. ทัวร์อาโอโมริ ลำธารโออิราเซะ (Oirase Stream)
ลำธารโออิราเซะ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นลำธารที่ไหลมาจากทะเลสาบโทวาดะ มีเส้นทางเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติที่ยาวกว่า 14 กิโลเมตร โดยตลอดสองฝั่งเส้นทางจะมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และน้ำตกที่สวยงามมากกว่า 12 แห่ง นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมความสวยงามของป่าไม้ และน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการมาเที่ยวลำธารโออิราเซะ คือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะช่วงพีคสุดปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ถ้าได้มาทัวร์อาโอโมริคุณจะได้ชมความสวยงามของใบไม้นานาชนิดที่เปลี่ยนสีใบทั้งสีแดง, ส้ม, เหลือง, ทอง และน้ำตาลสลับเฉดสีสวยงามตระการตาอย่างมาก หากได้มาเที่ยวอาโอโมริต้องห้ามพลาดลำธารโออิราเซะแห่งนี้เลยค่ะ
Location : 60 Okuse, Towada, Aomori 034-0301, Japan
2. ทัวร์อาโอโมริ ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)
ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของเกาะฮอนซู และใหญ่เป็นอันดับ 12 ของญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นปากปล่องภูเขาไฟสองชั้นรูปแบบปกติที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว โดยมีจุดที่ลึกที่สุดลึกถึง 326.8 เมตร บริเวณรอบ ๆทะเลสาบมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากทั้งป่าเขา และต้นไม้นานาพรรณ สามารถนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ที่รายล้อมในทะเลสาบ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมองเห็นวิวของใบไม้ที่เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเที่ยวอาโอโมริชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
Location : Lake Towada, Japan
3. ทัวร์อาโอโมริ เทือกเขาชิราคามิ (Shirakami-Sanchi)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอาโอโมริที่มีชื่อเสียงอย่างมากกับ เทือกเขาชิราคามิ (Shirakami-Sanchi) เทือกเขาที่ทอดยาวตามแนวแบ่งเขตจังหวัดอาโอโมริ และจังหวัดอากิตะ ซึ่งในเทือกเขาแห่งนี้เป็นป่าที่มีต้นบีช (Beech) ขึ้นครอบคลุมทั้งผืนป่า และยังเป็นป่าดงดิบที่มีขนาดใหญ่มากถึง 16,971 เฮกเตอร์ ป่าผืนสุดท้ายในเอเชียตะวันออกที่ยังคงมีต้นบีช และมีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณนานาชนิด รวมทั้งสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวอาโอโมริอย่างมาก ซึ่งหากใครมาทัวร์อาโอโมริ และชื่นชอบธรรมชาติ ชอบเดินป่าเขาต้องห้ามพลาดที่นี่เลยค่ะ
Location : Kanda-61-1, Nishimeya, Nakatsugaru District, Aomori 036-1411, Japan
4. ทัวร์อาโอโมริ ทะเลสาบจูนิ (Lake Juniko)
ทะเลสาบจูนิ (Lake Juniko) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความมหัศจรรย์อย่างมาก เพราะนอกจากจะประกอบไปด้วยทะเลสาบ 33 แห่ง และบึงน้อยใหญ่มากมายแล้ว แต่มีจุดแลนด์มาร์กสำคัญที่ห้ามพลาดคือ บ่อน้ำอาโออิเกะ (Aoike) บ่อน้ำสีฟ้าใสที่มีความลึกอย่างมาก อีกทั้งน้ำในบ่อนี้ยังไม่เป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย จึงเป็นบ่อน้ำที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขนาดเล็ก (Juniko Eco-Museum Center) ที่ให้บริการข้อมูลป่าบีช พร้อมทั้งจำหน่ายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
Location : Matsugami, Fukaura, Nishitsugaru District, Aomori 038-2206, Japan
5. ทัวร์อาโอโมริ ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)
เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญหากได้มาเที่ยวอาโอโมริกับ ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ปราสาทเก่าแก่ 5 ชั้นที่สร้างขึ้นในปี 1610 โดย Tsugaru Tamenobu และถูกไฟไหม้ในปี 1627 จากนั้นมีการบูรณะอีกครั้งในปี 1810 แต่ได้ปรับโครงสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น พร้อมสวนสวยจากต้นไม้นานาชนิดรายล้อมปราสาทอย่างงดงาม ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้เปิดให้เข้าชมความสวยงามของปราสาท พร้อมทั้งจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ และยังสามารถเดินขึ้นไปชั้นบนสุดของปราสาทเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้อีกด้วย แต่ไฮไลท์ของที่นี่ไม่ได้มีแค่ปราสาทที่สวยงามเท่านั้นหากแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอันดับต้น ๆของญี่ปุ่นเลยทีเดียวสำหรับการชมดอกซากุระบาน ด้วยต้นซากุระที่มีมากกว่า 2,600ต้น บานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน ให้บรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติกอย่างมาก นอกจากนี้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็สวยงามไม่แพ้กัน เพราะต้นไม้นานาพันธุ์จะพากันเปลี่ยนสีใบอวดสีสันอย่างสวยงาม เป็นภาพที่ประทับใจชวนน่าหลงใหลให้มาทัวร์อาโอโมริอย่างยิ่ง
Location : 1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori 036-8356, Japan
6. ทัวร์อาโอโมริ โฮโตเคะกาอุระ (Hotoke-ga-ura)
"โฮโตเคะกาอุระ" หรืออนุสาวรีย์ธรรมชาติของญี่ปุ่น เป็นหน้าผาสูงชัน และกลุ่มโขดหินสีเขียวอ่อนรูปทรงแปลก ๆขนาดใหญ่ที่ทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตรขนาบชายฝั่งของคาบสมุทรชิโมคิตะ ดั่งศิลปะซึ่งเกิดจากธรรมชาติสรรสร้างจากแรงคลื่นทะเล และแรงลมกัดเซาะจนเกิดรูปทรงแปลกตา ยิ่งในช่วงคลื่นสงบในฤดูร้อน แนวหน้าผา และโขดหินเหล่านี้จะตัดกับแสงที่มากระทบเกิดเป็นภาพสะท้อนบนผิวน้ำทะเลสีฟ้าครามให้ความรู้สึกเงียบสงบดั่งเข้าสู่โลกอีกใบ เปรียบเสมือนแดนสุขาวดีหรือโลกแห่งความตายนั่นเอง จนได้รับการขนานนามว่า “โฮโตเคะกาอุระ” ซึ่ง โฮโตเคะ ในภาษาญี่ปุ่น แปลว่า พระพุทธ นั่นเอง หากได้มาเที่ยวอาโอโมริต้องห้ามพลาดที่นี่เลยค่ะ
Location : Japan, 〒039-4712 Aomori, Shimokita District, Sai, Chogo, 縫道石国有林地内
7. ทัวร์อาโอโมริ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ (Aomori Museum of Art)
สำหรับใครที่ชื่นชอบงานศิลปะ และการออกแบบสมัยใหม่ต้องมาที่นี่ “Aomori Museum of Art” พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอาโอโมริที่จัดแสดงศิลปะสมัยใหม่ โดยมีการออกแบบตัวอาคารให้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เน้นภายนอกเป็นสีขาวล้วน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากซากโบราณสถานซันไนมารุยามะ (Sannai-Maruyama Historical Site) แต่ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดจะต้องมาถ่ายรูปให้ได้คือ รูปปั้นสุนัขอาโอโมริเค็น ที่มีความสูง 8.5 เมตร เป็นงานศิลปะสามมิติที่ขึ้นชื่อของ นาระ โยชิโมโตะ (Yoshitomo Nara)
Location : Chikano-185 Yasuta, Aomori, 038-0021, Japan
8. ทัวร์อาโอโมริ ศาลเจ้าทาคายามะอินาริ (Takayama Inari Shrine)
“ศาลเจ้าทาคายามะอินาริ (Takayama Inari Shrine)” ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นกลางภูเขาเบียวบุ ในจังหวัดอาโอโมริ เป็นที่เที่ยวอาโอโมริที่ชาวสายมูห้ามพลาด ภายในศาลเจ้าจะมีเทพอินาริ เทพเจ้าประจำศาลเจ้าแห่งนี้ แต่ที่เป็นไฮไลท์โดดเด่นคือ เสาโทรริอิสีแดงที่ตั้งเรียงรายซ้อนกันกว่า 200 ต้นตลอดทางเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าที่ดูมีพลัง และศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก อีกทั้งยังเชื่อกันว่าหากใครได้เดินเข้าไปขอพรจากเทพเจ้าจะโชคดี มีโชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัยนั่นเอง
Location : Washinosawa-147-1 Ushigatacho, Tsugaru, Aomori 038-3305, Japan
9. ทัวร์อาโอโมริ ตลาดปลาฟุรุคาวะ (Furukawa Fish Market)
เที่ยวอาโอโมริต้องห้ามพลาดตลาดปลาฟุรุคาวะ (Furukawa Fish Market) เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ และได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของอาโอโมริ ตั้งอยู่ที่ Aomori Gyosai Center ภายในตลาดจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่ มีให้เลือกหลากหลายแบบในราคาไม่แพง และพิเศษสุด ๆ ด้วยการให้นักท่องเที่ยวสามารถทำเมนู Donburi ได้ด้วยตัวเอง สามารถเลือกได้เลยว่าอยากกินข้าวหน้าอะไร โดยซื้อตั๋วแบบเซ็ตแล้วเดินเลือกอาหารทะเลจากร้านต่าง ๆ มากินที่โต๊ะได้เลย พร้อมทั้งมีน้ำชา และซอสต่าง ๆ ให้ฟรีอีกด้วย มาทัวร์อาโอโมริทั้งทีจะต้องมาชิมอาหารทะเลสดๆที่นี่ให้ได้
Location : 1 Chome-11-16 Furukawa, Aomori, 030-0862, Japan
10. ทัวร์อาโอโมริ ภูเขาโอโซเรซัง (Osorezan)
“ภูเขาโอโซเรซัง (Mt. Osorezan)” เป็น 1 ใน 3 ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกค้นพบในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นที่ตั้งของวัดโบไดจิ (Bodaiji Temple) สำหรับภูเขาแห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่แปลกตา เนื่องจากเคยเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ และภายในวัดแห่งนี้จะมีกิจกรรมหลัก ๆให้ผู้ที่ศรัทธาเข้ามาปฏิบัติ คือ การถือศีล กินเจ และสวดมนต์ อีกทั้งยังมีรูปปั้นจิโซจำนวนมากวางกองไว้รวมกับหิน และกรวด พร้อมปักกังหันหลากสีสัน ตามความเชื่อที่ว่าวิญญาณของเด็กที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ถ้าได้สร้างรูปปั้นจิโซ นอกจากนี้ภูเขาโอโซเรซังยังมีชื่อเสียงในเรื่องอิทาโกะ หรือคนทรงที่เป็นสื่อกลางระหว่างโลกคนกับโลกคนตายอีกด้วย หากใครมาเที่ยวอาโอโมริ และอยากถือศีลบำเพ็ญเพียรภาวนา ที่นี่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน
Location : Ohata, Mutsu, Aomori 039-4401, Japan
11. ทัวร์อาโอโมริ พิพิธภัณฑ์เนบุตะวารัสเซ่ (Nebuta Warasse)
พิพิธภัณฑ์เนบุตะวารัสเซ่ (Nebuta Warasse) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับเทศกาลเนบุตะมัตสึริ (Nebuta Matsuri) เป็นเทศกาลโด่งดังของญี่ปุ่นที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งจัดในช่วงฤดูร้อนประมาณต้นเดือนสิงหาคม ภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยเรื่องราว ประวัติความเป็นมา รวมทั้งจัดแสดงโคมไฟสุดอลังการทั้งแสงสีเสียงดั่งเทศกาลจริง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำอีกด้วยทั้งทำโคมไฟ และการร้องเล่นเต้นรำ รับรองถ้าคุณมาเที่ยวอาโอโมริจะสนุกกับเทศกาลนี้อย่างแน่นอน
Location : 1 Chome-1-1 Yasukata, Aomori, 030-0803, Japan
12. ทัวร์อาโอโมริ สวนแอปเปิ้ล ฮิโรซากิ (Hirosaki Apple Park)
มาเที่ยวอาโอโมริทั้งทีจะพลาดแลนด์มาร์กหลักที่นี่ได้อย่างไรกับ “Hirosaki Apple Park” สวนแอปเปิลที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ด้วยแอปเปิลหลากหลายสายพันธุ์กว่า 1,200 ต้น พร้อมให้เก็บในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน หากใครมาทัวร์อาโอโมริ และอยากชิมแอปเปิ้ลหวานกรอบแบบสด ๆ ต้องห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแอปเปิ้ลอีกหลากหลายเมนูให้ได้ชิมได้ช้อปซื้อเป็นของฝากกันกันอีกด้วย
Location : Terasawa-125 Shimizutomita, Hirosaki, Aomori 036-8262, Japan
13.ทัวร์อาโอโมริ อาโอนิออนเซ็น (Aoni Onsen)
“อาโอนิออนเซ็น (Aoni Onsen)” ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติ และภูเขาที่สวยงามในจังหวัดอาโอโมริ ถ้าได้มาเที่ยวอาโอโมริจะต้องเช็คอินที่นี่ให้ได้ เพราะคุณจะพบกับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง และตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มารบกวน เพื่อให้คุณได้แช่ออนเซ็นพร้อมผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน ลืมทุกเรื่องราว และพักผ่อนไปกับธรรมชาติที่เงียบสงบสวยงาม สำหรับอาโอนิออนเซ็นจะมีบริการทั้งแบบไม่พักค้างคืน และแบบค้างคืนพร้อมอาหารเช้า-เย็น
Location : Aonisawatakinoue-1-7 Okiura, Kuroishi, Aomori 036-0402, Japan
14. ทัวร์อาโอโมริ Tsugaru Railway “Stove Train”
เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เมื่อมาเที่ยวอาโอโมริกับ รถไฟเตาผิงซึการุ (Tsugaru Railway “Stove Train”) รถไฟโบราณที่มีการติดตั้งเตาผิงอยู่ภายในโบกี้ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ความอบอุ่นแก่ผู้โดยสารขณะนั่งชมวิวทิวทัศน์ในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกนั่นเอง สำหรับรถไฟเตาผิงซึการุนี้จะให้บริการระหว่างสถานี Tsugaru Goshogawara และสถานี Tsugaru Nakasato และให้บริการเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น คือตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม โดยวิ่งแค่ 3 รอบต่อวัน แต่ละรอบจะมีเพียงแค่ 2-3 โบกี้เท่านั้น หากคุณอยากสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟโบราณชมวิวหิมะตกต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
15. ทัวร์อาโอโมริ เทือกเขาฮักโกดะ
มาเที่ยวอาโอโมริทั้งทีต้องมาที่นี่ให้ได้กับ เทือกเขาฮักโกดะ (Hakkoda-san) เทือกเขาที่มีภูเขาไฟที่ดับแล้วถึง 8 ลูก ซึ่งโด่งดังมากของญี่ปุ่นอีกที่หนึ่ง บนเทือกเขาจะเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ และเส้นทางเดินเขาที่ท้าทายชวนให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติจะต้องมาที่นี่ให้ได้ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเทือกเขาฮักโกดะแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสีสันของใบไม้ที่พากับอวดสีใบเต็มเทือกเขาเป็นภาพที่สวยมากเลยทีเดียว ยิ่งในช่วงฤดูหนาวเทือกเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนเหมาะสำหรับเล่นสกี และสโนว์บอร์ดอย่างมาก หรือจะนั่งกระเช้าชมวิวก็สวยงามไปอีกแบบ แต่ที่เป็นไฮไลท์จนมีชื่อเสียงคือ “ปีศาจหิมะ” เป็นต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจนเป็นน้ำแข็ง ด้วยรูปทรงที่แปลกตาชวนให้มองเป็นดั่งปีศาจหิมะนั่นเอง
Location : Fukazawa Komagome, Aomori, 030-0955, Japan
โรงแรมและที่พัก อาโอโมริ แนะนำ
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ โรงแรมอาป้า อาโอโมริ เอกิ ฮิกาชิ (APA Hotel Aomori Eki Higashi)
เที่ยวอาโอโมริขอแนะนำ โรงแรมอาป้า อาโอโมริ เอกิ ฮิกาชิ (APA Hotel Aomori Eki Higashi)
เป็นโรงแรมยอดนิยมของคนไทย เพราะใกล้กับสถานีรถไฟ JR Aomori เพียง 4 นาทีเท่านั้น อีกทั้งพนักงานในโรงแรมบริการดีมาก ห้องพักสะอาดขนาดกะทัดรัด พร้อมสิ่งอำนวยความสะอวดอย่างครบครัน และราคาไม่แพงอีกด้วยค่ะ แถมยังสามารถเดินไปห้างสรรพสินค้า A-Factory เพื่อซื้อของฝาก หรือจะเดินช้อปปิ้งในย่านถนน Shinmachi ก็สะดวกสบาย
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ ไดวะ รอยเน็ต โฮเต็ล อาโอโมริ (Daiwa Roynet Hotel Aomori)
โรงแรมไดวะ รอยเน็ต โฮเต็ล อาโอโมริ เป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมืองอาโอโมริ อยู่ห่างจากสถานี JR Aomori เพียง 5 นาทีเท่านั้น มีบริการห้องพัก ห้องอาหาร พื้นที่จอดรถยนต์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน โรงแรมแห่งนี้ออกแบบดีไซน์สวยงาม มีความทันสมัย พร้อมทั้งบริการพิเศษ Lawson จากโรงแรมทั้งไป และกลับจากสนามบิน อีกทั้งยังอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง Sakurano อีกด้วย นอกจากนี้ยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ ให้เดินเล่น กินของอร่อย และช้อปปิ้งอย่างสะดวกสบาย
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ โรงแรมสไมล์ อาโอโมริ (Smile Hotel Aomori)
โรงแรม Smile Hotel Aomori เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยู่ย่านใจกลางเมืองอาโอโมริ ตกแต่งสวยงาม บรรยากาศดีเลิศ ห้องพักสะอาด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อีกทั้งยังใกล้กับย่านธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกด้วย แต่ที่เป็นไฮไลท์ของโรงแรมนี้คือ เทศกาล Nebuta Festival อันโด่งดังที่จัดขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมในช่วงฤดูร้อนนี้ หากมาเที่ยวอาโอโมริ และชื่นชอบอยากมาร่วมเทศกาลนี้ต้องมาพักที่นี่เลย
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ โรงแรมซีเลค อินน์ อาโอะโมริ (Hotel Select Inn Aomori)
เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ JR Aomori กับโรงแรมซีเลค อินน์ อาโอะโมริ ที่มีบริการห้องพักในรูปแบบสไตล์ญี่ปุ่น สะอาด ปลอดภัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อีกทั้งด้านล่างยังมีร้านสะดวกซื้อตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเครื่องซักผ้าแบบหลอดเหรียญ และตู้จำหน่ายน้ำดื่มอัตโนมัติ แถมโรงแรมแห่งนี้ยังอยู่ใกล้กับตลาดปลาชื่อดัง Furukawa อีกด้วย
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ โรงแรมซันรูท อาโอโมริ (Hotel Sunroute Aomori)
เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ห้ามพลาดถ้าได้มาเที่ยวอาโอโมริ กับโรงแรม Hotel Sunroute Aomori โรงแรมขนาดใหญ่ที่มีบริกาห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อยู่ห่างจากสถานี JR Aomori เพียง 4 นาทีเท่านั้น และอยู่ใกล้กับร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างเช่น ตลาดปลา Auga Market – Furukawa Market อีกด้วย
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ อาป้า โฮเต็ล อาโอโมริเอคิ เคนโชโดริ (APA Hotel Aomorieki Kenchodori)
เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่นกับโรงแรม APA Hotel Aomorieki-Kenchodori ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี JR Aomori เพียง 5 นาที และอยู่ใกล้กับถนนคนเดิน ร้านค้า ร้านอาหารมากมายคุณสามารถเลือกช้อป หรือจะกินอาหารแสนอร่อยได้อย่างสะดวกสบาย โรงแรมแห่งนี้บริการห้องพักที่สะอาด เตียงนอนสบาย พนักงานบริการดี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ โรงแรมเบปปุ ไดติ (Beppu Daiiti Hotel)
เป็นโรงแรมที่ราคาไม่แพงสำหรับคนงบน้อยกับโรงแรมเบปปุ ไดติ ที่มีบริการห้องพักกว้างขวาง ดีไซน์สวย สะอาด ปลอดภัย มีบริการที่จอดรถยนต์ฟรี และเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญให้บริการอีกด้วย แต่โรงแรมนี้ไม่มีน้ำพุร้อนในโรงแรม ลูกค้าจะต้องเดินไปออนเซ็นเองประมาณ 10 นาที ซึ่งโรงแรมจะมีผ้าเช็ดตัวให้ยืมสำหรับไปออนเซ็น
ทัวร์อาโอโมริ พักที่ โรงแรมแจลซิตี้ อาโอโมริ (Hotel JAL City Aomori)
หากคุณมาเที่ยวอาโอโมริกับครอบครัวขอแนะนำโรงแรมนี้เลยค่ะ แจลซิตี้ อาโอโมริ โรงแรมที่มีบริการห้องพักสำหรับครอบครัว สะอาด ปลอดภัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างครบครัน เช่น แอร์ ตู้เย็น อินเตอร์เน็ต และที่จอดรถยนต์ บรรยากาศดี ใกล้กับแหล่งที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าอีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งโรงแรมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาด
แหล่งช้อปปิ้งในอาโอโมริ ยอดนิยม
1. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ Aomori Shunmi Kan
เริ่มต้นด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังกับ Aomori Shunmi Kan เป็นห้างที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเมื่อมาทัวร์อาโอโมริเพราะได้รวบรวมสินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริไว้อย่างมากมาย เช่น แอปเปิ้ลสด ๆหวานกรอบ, ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแอปเปิ้ล, ผลิตภัณฑ์ไซเดอร์ และผลิตผลท้องถิ่นมากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกชิม หรือจะซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย
2. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ ห้างสรรพสินค้า Aomori Shunmi kanในสถานี JR Shin-Aomori
แต่หากคุณอยู่ใกล้กับสถานี JR Shin-Aomori สามารถเลือกซื้อสินค้าจากห้าง Aomori Shunmi kan ได้ด้วยค่ะ เพราะที่สถานีนี้มีสาขาของห้างดังนี้อยู่ด้วย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกช้อปเลือกชิมอย่างหลากหลายไม่แพ้ห้างใหญ่เลยค่ะ
3. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ ศูนย์การค้า LOVINA ภายในอาคารสถานี JR Aomori
เป็นอีกศูนย์การค้าที่โด่งดังอีกแห่งกับ LOVINA ศูนย์การค้าที่อยู่ภายในอาคารของสถานี JR Aomori คุณสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารท่องถิ่น สินค้าท้องถิ่น สาเก หรือของฝากของที่ระลึกได้อย่างหลากหลาย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย
4. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ A-FACTORY
A-FACTORY แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่ได้รวบรวมสินค้าสุดฮิตของเมืองอาโอโมริตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าเบ็ดเตร็ดต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกช้อป ชิมได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ภายในอาคารยังมีโรงงานไซเดอร์ซึ่งผลิตเหล้าจากแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยม และขายดีอย่างมาก มาเที่ยวอาโอโมริต้องห้ามพลาดมาช้อปปิ้งที่นี่เลยค่ะ
5. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ ตลาดปลาฮัชโชะกุเซ็นเตอร์ (Hasshoku Center)
เป็นอีกหนึ่งตลาดปลาที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์อาโอโมริกับ ฮัชโชะกุเซ็นเตอร์ ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในฮาจิโนเฮะ และเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของอาโอโมริ ที่นี่คุณจะพบกับอาหารทะเลสด ๆ, ผลไม้ขึ้นชื่อ และของฝากของที่ระลึกมากมาย แต่ไฮไลท์จะอยู่ Shichirin mura ที่ซึ่งคุณสามารถเช่าตะแกรงเตาถ่านเล็ก ๆเพื่อย่างอาหารได้ด้วยตัวคุณเอง จึงเป็นตลาดปลาที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว
6. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ ตลาดเช้าท่าเทียบเรือทาเทฮานะ (Tatehana Wharf Morning Market)
ตลาดท่าเทียบเรือทาเทฮานะ เป็นตลาดตอนเช้าที่ใหญ่ที่สุดในอาโอโมริ และในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งเปิดขายในตอนเช้าตรู่ของทุกวันอาทิตย์ จุดเด่นของที่นี่จะอยู่ที่อาหารทะเลสดใหม่ที่จับขึ้นมาจากท่าเรือโดยตรง พร้อมกับแผงขายอาหารทะเลแห้ง ผัก ผลไม้ และสินค้าทั่วไปอย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีดนตรีสดสร้างบรรยากาศให้ตลาดยามเช้าคึกคักอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟคุณสามารถมาเที่ยวช้อปปิ้ง และทานอาหารเช้าที่นี่ก่อนเดินทางไปทัวร์อาโอโมริรับรองอร่อยแน่นอน
7. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ ร้านจำหน่ายสุราสึจิมุระ (Tsujimura Liquor Store)
สาเก เป็นสินค้าขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดเมื่อมาทัวร์อาโอโมริ หากคุณอยากได้สาเกดี ๆสักขวดต้องไปร้านนี้เลยค่ะ สุราสึจิมุระ เป็นร้านจำหน่ายสุราชื่อดัง ที่มีสาเกมากมายหลากหลายยี่ห้อให้ลูกค้าได้ช้อปชิม อีกทั้งยังจำหน่ายสาเกชื่อดังที่หายาก เช่น Denshu อีกด้วย ร้านนี้อยู่ไม่ไกลเพียงนั่งรถประมาณ 24 นาทีจากท่าอากาศยานอาโอโมริเท่านั้น
8. ทัวร์อาโอโมริ ช้อปปิ้งที่ Rest Area Oirase, Shikisaikan
Rest Area Oirase, Shikisaikan เป็นจุดพักรถ และศูนย์รวมสินค้าท้องถิ่นชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้สด ๆ, เครื่องดื่ม, ขนม, อาหาร, น้ำผึ้ง, สกินแคร์ และงานฝีมือต่าง ๆ แต่ที่เป็นสินค้ายอดนิยมจะเป็นผลิตภัณฑ์นมจากฟาร์มโคนมในท้องถิ่น เช่น โยเกิร์ต หรือไอศกรีม ที่รับรองว่าอร่อยจนต้องซื้อซ้ำอย่างแน่นอน
สภาพอากาศและอุณหภูมิ อาโอโมริ
อาโอโมริ เป็นจังหวัดที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเทือกเขาสูง และรายล้อมไปด้วยทะเล จึงทำให้มีอากาศที่ไม่ร้อนมากจนเกินไป เย็นสบาย และมีหิมะตกเลยทีเดียว อุณหภูมิจะอยู่ในช่วง -5 องศาเซลเซียส ถึง 26 องศาเซลเซียส และบางช่วงอาจมีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -9 องศาเซลเซียส และสูงสุด 31 องศาเซลเซียส สำหรับฤดูกาลของจังหวัดอาโอโมริจะมีอยู่ 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ย 2-23 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-30 องศาเซลเซียส ฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน มีอุณหภูมิเฉลี่ย 14-30 องศาเซลเซียส และฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย -5-15 องศาเซลเซียส
จะเห็นได้ว่าจังหวัดอาโอโมริมีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี จึงทำให้สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นชมดอกซากุระบานสะพรั่งที่ปราสาทฮิโรซากิในช่วงฤดูใบไม้ผลิ, ชมเทศกาลโคมไฟ Nebuta Festival ในฤดูร้อน, ชิมแอปเปิ้ลสด ๆที่สวนพร้อมดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ทะเลสาบโทวาดะในฤดูใบไม้ร่วง และเล่นสกีดูปีศาจหิมะบนเทือกเขาฮักโกดะในฤดูหนาว ซึ่งทั้งหวดนี้หากได้ไปทัวร์อาโอโมริรับรองฟินแน่นอน
แนะนำของฝาก อาโอโมริ
คินินารุ ริงโกะ (Kininaru Ringo) มาทัวร์อาโอโมริต้องห้ามพลาด คินินารุ ริงโกะ ของฝากขึ้นชื่อแห่งอาโอโมริ ซึ่งเป็นพายแอปเปิ้ลที่หวานฉ่ำจากกรรมวิธีผลิต และเทคนิคการแปรรูปโดยนำแอปเปิ้ลทั้งลูกฉีดน้ำเชื่อมเข้าไป จากนั้นนำแป้งพายมาห่อลูกแอปเปิ้ลแล้วนำไปอบให้สุก ความหอมของแป้งพาย และฉ่ำหวานของแอปเปิ้ลเมื่อกัดลงไปแล้วคุณจะฟิน และอร่อยอย่างแน่นอน
คุจิระโมจิ (Kujiramochi)
คุจิระโมจิ ขนมพื้นบ้านของจังหวัดอาโอโมริ และจังหวัดยามากาตะ ที่ทำจากข้าวเหนียว ถั่วแดง น้ำเชื่อม น้ำตาล เกลือ และวอลนัท ให้รสชาติที่หวานเค็มพอดี นิยมทานคู่กับน้ำชา
ขนมแท่งพายอบกรอบสอดไส้เนื้อแอปเปิ้ล (Patissier no Ringo-Stick)
ขนมแท่งพายอบกรอบสอดไส้เนื้อแอปเปิ้ล เป็นอีกหนึ่งของฝากที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ด้วยการันตีจากรางวัลเหรียญทองของงานเทศกาลขนมหวาน หากได้ชิมแล้วรับรองจะติดใจซื้อกลับมาเป็นของฝากแน่นอน
แอปเปิ้ลไซเดอร์ (Aomori Cider)
แอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปแอปเปิ้ลที่ขึ้นชื่ออย่างมาก ด้วยกรรมวิธีที่ผลิตเพื่อให้ได้รสชาตที่หอมหวานอร่อยเมื่อทานแล้วจะรู้สึกสดชื่น แถมมีให้เลือกหลายแบบทั้งไม่มีแอลกอฮอล์ และมีแอลกอฮอล์อีกด้วย ถือเป็นของฝากที่ต้องหิ้วกลับแน่นอน
สาเกญี่ปุ่น (Japanese Sake)
สาเกญี่ปุ่น เครื่องดื่มยอดนิยมของญี่ปุ่นซึ่งสาเกแห่งอาโอโมริเป็นสาเกที่ขึ้นชื่ออย่างมาก และมีโรงบ่มหลากหลายที่ที่เปิดให้เข้าไปชม ชิม และเลือกซื้อสาเกได้โดยตรง ใครชอบรสชาติแบบไหนก็เลือกช้อปตามใจชอบได้เลยค่ะ รับรองเป็นของฝากที่เด็ดแน่นอน
ซุปหอยเม่นทะเลปรุงสำเร็จ (Ichigoni)
ซุปหอยเม่นทะเลปรุงสำเร็จ เป็นอาหารพื้นบ้านของเมืองฮาชิโนเฮะที่ทำจากหอยเม่นทะเล และหอยเป๋าฮื้อ เคี้ยวกับน้ำซุปที่ได้จากปลาคัทสึโอะ และสาหร่ายคอมบุ รับรองถ้าได้ชิมจะติดใจแน่นอน
อาหารท่องถิ่น อาโอโมริ ที่ต้องลอง
ปลาโอมะมากุโระ (Oma Maguro)
เป็นปลาที่ขึ้นชื่อของอาโอโมริ ซึ่งเป็นปลาทูน่าที่จับมาจากบริเวณแหลมโอมะ จึงเรียกว่าปลาโอมะมากุโระนั่นเอง เนื้อปลาจะมีความหวาน เมื่อลองลิ้มชิมรสแล้วจะสัมผัสเนื้อปลาที่ฉ่ำ อร่อย แต่ราคาสูงอีกด้วย
ราเมนมิโสะผงกะหรี่ ‘กิวนิวราเมน’ (Miso Curry Gyunyu Ramen)
ราเมนมิโสะที่ใส่ผงกระหรี่ นมวัว และเนยลงไปในน้ำซุป ซึ่งเมนูนี้ประยุกต์มาจากราเมนมิโสะของเมืองซับโปโรนั่นเอง ส่วนรสชาตินั้นอร่อยอย่างมาก ด้วยความหวานของนม และความเผ็ดของผงกระหรี่ที่กลมกล่อม ให้ความอร่อยอย่างลงตัว มาทัวร์อาโอโมริต้องห้ามพลาดเมนูนี้เลยค่ะ
ฮาจิโนเฮะเซมเบ้จิรุ (Hachinohe Senbei Jiru)
เมนูหม้อไฟ ฮาจิโนเฮะเซมเบ้จิรุ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไปเที่ยวอาโอโมริจะต้องลอง ด้วยการใส่เซมเบ้สูตรพิเศษลงไปหม้อไฟให้น้ำซุปปรุงด้วยเนื้อปลา และผัก รับรองรสชาติอร่อยกลมกล่อมไม่ธรรมดาเลย
สึการุโซบะ (Tsugaru Soba)
โซบะท้องถิ่นของเมืองฮิโรซากิ ซึ่งทำจากแป้งไปผสมผงโซบะ และผงถั่วเหลืองโกจิรุ หมักไว้ครึ่งวันเพื่อให้แป้งเส้นโซบะเหนียวนุ่ม เมื่อนำไปปรุงจะได้รสชาติของถั่วเหลืองจาง ๆ หอมอร่อยแถมอุดมไปด้วยโปรตีนอีกด้วย
แอปเปิลอาโอโมริ (Aomori Apple)
และอาหารต่างๆ ที่ทำจากแอบเปิ้ล มาถึงแหล่งผลิตแอปเปิ้ลของญี่ปุ่นต้องห้ามพลาดที่จะชิมแอปเปิ้ลสด ๆที่หอม หวาน กรอบ เปรี้ยวพอดีจากสวนในจังหวัดอาโอโมริ อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำจากแอปเปิ้ลไม่ว่าจะเป็นพายแอปเปิ้ล, ซุปแอปเปิ้ล หรือเครื่องดื่มต่าง ๆที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล ที่รับรองได้ว่าหากได้ชิมแล้วจะประทับใจอย่างแน่นอน
สาเก
สาเก เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเพราะในอาโอโมรินี้จะมีสาเกแสนอร่อยมากมายหลายแบบให้เลือกซื้อ อีกทั้งยังเปิดโรงบ่มสาเกให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชม ชิม และจำหน่ายสาเกอีกด้วย ซึ่งสาเกที่จำหน่ายจะมีสองแบบ คือ Mutsu Otokoyama สาเกแบบแห้ง และ Mutsu Hassen สาเกที่มีกลิ่นหอมอะโรมา หวานสดชื่น แต่ถ้าสาเกยอดนิยมที่หายากต้อง Denshu รับรองเด็ดสุดอย่างแน่นอน
นกเกะด้ง (Nokke-don)
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดหากได้มาทัวร์อาโอโมริกับ นกเกะด้ง เมนูที่สามารถเลือกท็อปปิ้งได้ด้วยตัวเอง ซึ่งที่ตลาดปลาฟุรุคาวะจะมีคูปองจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้านำไปแลกเลือกท็อปปิ้งต่าง ๆตามใจชอบ เป็นเมนูที่สามารถทำเองได้เพิ่มความฟิน และอร่อยแบบสุด ๆ
บาระยากิ (Barayaki)
บาระยากิ หรือเสือร้องไห้ เมนูเด็ดที่ไปเที่ยวอาโอโมริจะต้องไปทาน ด้วยเนื้อวัวติดมันย่าง หรือผัดกับหอมหัวใหญ่ ปรุงรสด้วยซอสหวานรสโซยุ รับรองอร่อยจนต้องร้องไห้แน่นอน
ซึยุยากิโซบะ (Tsuyu Yakisoba)
เมนูชื่อดังของเมืองคุโรอิชิที่มีเอกลักษณ์เฉพาะโดยนำน้ำซุปโซบะราดลงบนยากิโซบะ ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูยอดนิยมอย่างมาก ต้นกำเนิดของโซบะน้ำดำนี้อยู่ที่ร้าน Kuroishi Yakisoba ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น Myoko หากใครไปเที่ยวอาโอโมริต้องไปลอง
อาโอโมริ ถึงแม้จะไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น แต่หากคุณได้มาทัวร์อาโอโมริสักครั้งรับรองคุณจะประทับใจอย่างแน่นอน ทั้งธรรมชาติ ป่าเขา และดินแดนหิมะที่ขาวบริสุทธิ์ พร้อมชิมแอปเปิ้ลญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อ ตลอดจนสัมผัสวิถีชีวิตชาวอาโอโมริ รวมทั้งช้อป ชิม และไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เที่ยวอาโอโมริรับรองตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นนอน