ถึงแม้ว่าภาพจำของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อประเทศอิสราเอลคือความไม่สงบภายในประเทศ ความรุนแรง สงคราม และการแก่งแย่งดินแดน จึงทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากวางแผนไปทัวร์อิสราเอลกันเท่าไหร่นัก เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเพราะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ในปัจจุบันการท่องเที่ยวอิสราเอลนั้นได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น มีการพัฒนาระบบการขนส่งที่ทันสมัย มีการพัฒนาเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เจริญก้าวหน้า โดยมีท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน (Ben Gurion International Airport) ในเมือง Lod เป็นศูนย์กลางหลักสำหรับการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ ดังนั้นอิสราเอลจึงกลายเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเราจึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลของประเทศอิสราเอล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจวางแผนทัวร์อิสราเอลมาฝากกันค่ะ
ข้อมูลเที่ยวทัวร์อิสราเอล
ประเทศอิสราเอล (Israel) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือรัฐอิสราเอล (State of Israel) ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันตก โดยอยู่กึ่งกลางระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกา มีพรมแดนติดกับเลบานอนทางทิศเหนือ ติดกับซีเรียทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับจอร์แดนทางทิศตะวันออก ทิศใต้ติดกับทะเลแดง ติดกับอียิปต์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางทิศตะวันตก มีเมืองหลวงคือเยรูซาเล็ม (Jerusalem) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาล แต่ทั้งนี้สถานะของเยรูซาเลมนั้นมีข้อพิพาททั้งในกฎหมายระหว่างประเทศและการปฏิบัติทางการทูต เนื่องจากทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ต่างก็อ้างสิทธิ์ว่าเยรูซาเล็มนั้นเป็นเมืองหลวงของตน ซึ่งประเทศส่วนใหญ่รวมถึงสหประชาชาติและสหภาพยุโรป ต่างสนับสนุนกันว่ากรุงเยรูซาเล็มควรเป็นเมืองหลวงในอนาคตของทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ โดยให้เยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์ และเยรูซาเล็มตะวันตกเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ในขณะที่เมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) ของอิสราเอล เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และอยู่ในฐานะเมืองหลวงการเงินของประเทศเนื่องจากเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญและเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุด รวมไปถึงเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะ การแสดง และศูนย์กลางการค้าของอิสราเอลอีกด้วย
อิสราเอลตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนที่เรียกว่า (Rift) dead Sea ได้แก่บริเวณ Jordan Valley Fault ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนของประเทศจอร์แดน ดังนั้นจึงสามารถมีแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งแต่ไม่เป็นอันตราย เป็นประเทศขนาดเล็กที่มีภูมิประเทศหลากหลาย มีทั้งที่ราบชายฝั่งทะเล ที่ราบสูงทางตอนเหนือและตอนกลาง มีทะเลทรายเนเกฟทางตอนใต้ มีพื้นที่ 20,770 ตารางกิโลเมตร (พื้นดิน 20,330 ตารางกิโลเมตร พื้นน้ำ 440 ตารางกิโลเมตร) และเป็นประเทศที่ค่อนข้างแคบ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวยิวและอาศัยอยู่บนที่ราบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเขตเมืองใหญ่ทั้งหมด 4 แห่งได้แก่ Gush Dan หรือเขตมหานครเทลอาวีฟ, พื้นที่มหานครเยรูซาเล็ม, เขตมหานครไฮฟา และพื้นที่เมืองเบียร์เชบา อิสราเอลเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง สามารถเทียบได้กับประเทศพัฒนาแล้วในโลกตะวันตก มีความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่เครื่องจักรและอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เพชรเจียระไน เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ใช้ภาษา Hebrew และ Arabic เป็นภาษาราชการ แต่ประชากรส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี สกุลเงินที่ใช้ได้แก่ เชคเกล (New Israeli Shekel) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน 1 เชคเกล เท่ากับ 9.5 บาท ในเดือนเมษายนปี 2023
ทัวร์อิสราเอลแนะนำ
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าอิสราเอลนั้นมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทะเลทรายเนเกฟ (Negev) ทางตอนใต้ หุบเขายิสเรเอล (Jezreel Valley) อันอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และที่ราบสูง ดังนั้นที่นี่จึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลทางธรรมชาติมากมาย และยังเป็นบ้านเกิดรวมไปถึงสถานที่เติบโตของพระเยซู ดังนั้นที่นี่จึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ ถึงแม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลบางแห่งจะยังได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในภูมิภาค แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงเลือกเดินทางไปทัวร์อิสราเอลอันเนื่องมาจากสถานที่สำคัญทางศาสนา โบราณคดี และประวัติศาสตร์ เช่น กำแพงตะวันตก, โดมออฟเดอะร็อค และเมืองในพระคัมภีร์ไบเบิลอย่าง นาซาเรธ (Nazareth) มีที่พักและรีสอร์ทมากมายบริเวณที่ราบสูงรวมไปถึงทะเลทรายและตามแนวชายฝั่ง และมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนอิสราเอลเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากฝั่งยุโรปและอเมริกาเหนือ
แนะนำเมือง อิสราเอล น่าเที่ยว
1. ทัวร์อิสราเอล เทล อาวีฟ (Tel Aviv)
ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีความทันสมัยมากที่สุดของประเทศอิสราเอลกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาเป็นอันดับต้น ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของอิสราเอล เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 และเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ เรียกได้ว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญของอิสราเอลเลยก็ว่าได้ และยังเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกอีกด้วย เทลอาวีฟถูกขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งปาร์ตี้ในตะวันออกกลาง เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาตลอด 24 ชั่วโมง มีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลมากมาย นับตั้งแต่หาดทรายเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่โด่งดังระดับโลก มีสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยอมรับจาก UNESCO และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งอาหารมังสวิรัติของโลก" อันเนื่องมาจากมีประชากรที่บริโภคมังสวิรัติมากที่สุดในโลก ดังนั้นที่นี่จึงเต็มไปด้วยร้านอาหารมังสวิรัติมากมายทั่วทั้งเมือง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่น่าสนใจได้แก่ Old City of Jaffa, Yemenite Quarter, พิพิธภัณฑ์ศิลปะเทลอาวีฟ, โบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ, Homat Hayam Promenade, ย่าน Neve Tzedek Quarter, ถนน Little Bialik เป็นต้น
2. ทัวร์อิสราเอล ไฮฟา (Haifa)
ไฮฟาเป็นเมืองใหญ่อันดับสามตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอลบนเนินเขาคาร์เมล หันหน้าไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งบางครั้งถูกเรียกว่า 'ซานฟรานซิสโกของอิสราเอล' ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองเศรษฐกิจแห่งหนึ่ง แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลและกิจกรรมดี ๆ ให้ทำกันอย่างมากมาย เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของประชากรที่ผสมผสานระหว่างชาวยิวและชาวอาหรับ และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอาหรับและยิวได้ทั่วไปที่เมืองนี้ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์และภูมิประเทศที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามของเมืองไฮฟาคือสวน Bah'ai เป็นส่วนหนึ่งของ Bah'ai World Center ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้แก่ Haifa Educational Zoo, Madatech Science and Technology Museum, Haifa City Museum, Elijah’s Cave, Bat Galim Beach เป็นต้น
3. ทัวร์อิสราเอล เยรูซาเล็ม (Jerusalem)
นอกจากจะถือว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลกันแล้ว เยรูซาเล็มยังเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมานับพันปี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเมืองสมัยใหม่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองและดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในทุกปี ได้รับขนานนามว่าเป็น "นครศักดิ์สิทธิ์" ของศาสนาทั้งสามในกลุ่มศาสนาอับราฮัม อันได้แก่ ศาสนายูดาห์, ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม เสน่ห์และแก่นแท้ของการมาท่องเที่ยวอิสราเอลกันที่กรุงเยรูซาเล็ม จะอยู่ที่การเดินเล่นไปตามท้องถนนเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของความเก่าแก่ที่ผสมผสานกับวิถีชีวิตในยุคสมัยใหม่เอาไว้ได้อย่างลงตัว โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่น่าสนใจได้แก่ Jerusalem Jarus Western Wall, David’s Citadel, Via Dolorosa, Church of the Holy Sepulche, Dome of the Rock, City of David, Dead sea เป็นต้น
4. ทัวร์อิสราเอล นาซาเรธ (Nazareth)
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตทางตอนเหนือของอิสราเอล เป็นที่รู้จักในนาม "เมืองหลวงอาหรับของอิสราเอล" ประชากรในเมืองนี้ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองอาหรับของอิสราเอล ซึ่งที่นี่เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่สำคัญของชาวคริสต์ทั้งในอิสราเอลและทั่วโลก อันเนื่องมาจากเป็นเมืองที่ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิล โดยเป็นบ้านเกิดสถานที่ที่เติบโต และการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของพระเยซู สิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาทัวร์อิสราเอลกันที่เมืองนี้คือการเดินเยี่ยมชมโบสถ์และวิหารต่าง ๆ รวมไปถึงย่านเมืองเก่าที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับได้หลุดไปอยู่ในอดีตกันเลยทีเดียว สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่น่าสนใจในเมืองนาซาเรธ ได้แก่ Church of the Annunciation, Mary of Nazareth International Center, St. Joseph's Church, Synagogue Church, ซากโบราณ Zippori เป็นต้น
5. ทัวร์อิสราเอล เบียร์เชวา (Beer Sheva)
เบียร์เชวาเป็นประตูสู่ดินแดนแห่งธรรมชาติและความมหัศจรรย์ เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ที่นี่เมืองหลวงของภูมิภาคเนเกฟซึ่งเป็นเมืองทะเลทราย โดยทั่วไปแล้วเบียร์เชวาอาจจะไม่ใช่เมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่ต้องบอกว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายและมีนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยคนยุคใหม่เนื่องมาจากที่นี่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย Ben Gurion University of the Negev ดังนั้นนอกจากจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่น่าสนใจได้แก่ Tel Be’er Sheva, Carasso Science Park, อนุสาวรีย์ Negev, Israeli Air Force Museum, Bedouin Market เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์อิสราเอล ยอดนิยม
1. ทัวร์อิสราเอล เมืองท่าโบราณจาฟฟา (Old City of Jaffa)
หนึ่งในเมืองท่าที่เก่าแก่ที่สุดบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่ในเมืองเทลอาวีฟ ได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 15 โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนและถนนหนทางคดเคี้ยวแคบ ๆ ที่ทำมาจากหินชนวนโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าไปตามถนนหนทางเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองโบราณ และแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งในบริเวณเมืองท่าโบราณจาฟฟาไม่ว่าจะเป็น Jaffa Clock Tower, Great Mahmoudiya Mosque, Old Jaffa Museum of Antiquities, Saint Nicholas Monastery, Old Jaffa Port, Saint Peter's Church, Suspended Orange Tree, Jaffa Flea Market, Kedumim Square เป็นต้น
2. ทัวร์อิสราเอล พิพิธภัณฑ์ศิลปะเทลอาวีฟ (Tel Aviv Museum of Art)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1932 เป็นบ้านของนายกเทศมนตรีคนแรกของเมือง และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมทางด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบนานาชาติของอิสราเอล ซึ่งที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแบบร่วมสมัยชั้นนำของอิสราเอลที่ได้รวบรวมเอาศิลปะต่าง ๆ โดยเฉพาะศิลปะของศาสนาอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งโซนจัดแสดงนิทรรศการแบบชั่วคราวและถาวร โดยมีผลงานของศิลปินชื่อดังทั้ง Degas, Monet, Van Gogh, Henry Moore, Picasso, Jackson Pollock รวมไปถึงคอลเลกชันของ Alois Breyer ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ออกแบบได้อย่างสวยงามและโดดเด่น ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะบอกเลยว่าไม่ควรพลาด
3. ทัวร์อิสราเอล สวนบาไฮการ์เดน (Baha’i Garden)
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่สวยงามโดดเด่นมากที่สุดในเมืองไฮฟา และเริ่มได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ตั้งอยู่บนภูเขาคาร์เมล สร้างแล้วเสร็จในปี 2001 สวนแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสวนที่มีความกว้างใหญ่อลังการและงดงามเป็นอย่างมาก ประกอบไปด้วยวงกลมขนาดใหญ่ 9 วง เรียงกันเป็นชั้น แต่ละวงเต็มไปด้วยดอกไม้ ต้นไม้ขนาดเล็ก ประติมากรรมขนาดเล็ก น้ำพุ และสระน้ำ มีระเบียง 19 ขั้น ซึ่งระเบียง 18 แห่งเป็นตัวแทนสาวก 18 คนแรกของพระ Báb ผู้ก่อตั้งพระเมสสิยาห์ของลัทธิบาบิส และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของศาสนาบาไฮ ระเบียงที่ 19 คือระเบียงที่อยู่บริเวณแท่นบูชา Shrine of the Báb ใจกลางด้านบนสุดนั่นเอง โดยมีระยะทางถึงกว่า 1 กิโลเมตร ด้วยบันไดถึงกว่า 1,500 ขั้น ด้านข้างของสวนเป็นพื้นที่ป่าซึ่งออกแบบมาไว้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและลดเสียงรบกวนจากเมือง
4. ทัวร์อิสราเอล หาดแบตกาลิม (Bat Galim Beach)
ชายหาดตั้งอยู่ในเขตเมืองไฮฟา เป็นแนวชายฝั่งเล็ก ๆ ที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับคริสตัลและหาดทรายสีทองละเอียด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจบริเวณชายหาด โดยนอกจากการว่ายน้ำและอาบแดดแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถทำได้บริเวณชายหาดแห่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นกระดานโต้คลื่น วินด์เซิร์ฟ หรือไคท์บอร์ด บริเวณชายหาดมีเก้าอี้อาบแดดและร่มให้บริการ รวมไปถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยมีที่จอดรถอยู่บริเวณชายหาดโดยตรง นอกจากนี้ยังมีชายหาดอีก 4 แห่งที่อยู่ภายในรัศมี 5 กิโลเมตรจากชายหาดแห่งนี้ให้เราได้เลือกไปท่องเที่ยวกันได้
5. ทัวร์อิสราเอล กำแพงตะวันตกของเยรูซาเล็ม (Jerusalem Jarus Western Wall)
กำแพงตะวันตก หรือที่เรียกว่า "Wailing Wall" หรือ "Kotel" เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนามากที่สุดในโลกสำหรับชาวยิว ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงเยรูซาเล็ม โดยเป็นกำแพงด้านนอกแห่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ของวิหารยิวโบราณ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีอายุกว่า 2,000 ปี นักท่องเที่ยวและผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางมาเยือนกำแพงแห่งนี้ทุกปี เพื่อเยี่ยมชมและท่องคำอธิษฐานซึ่งเขียนและวางไว้ในรอยแยกของกำแพง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซน แยกไว้สำหรับผู้ชายและผู้หญิง ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา รวมไปถึงเป็นสถานที่ประกอบพิธีการต่าง ๆ ในอิสราเอล ดังนั้นการเยี่ยมชมจึงควรแต่งกายสุภาพ สำหรับผู้หญิงควรคลุมขาและไหล่ให้มิดชิด และผู้ชายควรคลุมศีรษะ โดยได้มีการจัดผ้าพันคอและผ้าคลุมไว้ให้บริการกันด้วย
6. ทัวร์อิสราเอล เมืองแห่งเดวิด (City of David)
เมืองแห่งเดวิดถูกค้นพบอีกครั้งโดยนักโบราณคดีตั้งแต่ปี 1860 และยังมีการขุดค้นต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่สำคัญมากของอิสราเอล ตั้งอยู่บนชะง่อนผาแคบ ๆ บริเวณทางด้านตะวันตกของหุบเขา Kidron Valley ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเมืองเก่าเยรูซาเล็ม เมืองแห่งดาวิดนั้นเป็นสถานที่สำคัญทางโบราณคดีที่ปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิล ในอดีตเป็นบริเวณที่กษัตริย์ดาวิดยึดป้อมปราการของชนเผ่าคานาอันของชาวเยบุส เมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาลในยุคสำริดและยุคเหล็ก บริเวณด้านบนขุดค้นพบโครงสร้างหินขั้นบันไดขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าทำหน้าที่เป็นกำแพงกันดินสำหรับพระราชวังของดาวิด หรือป้อมปราการของชาวคานาอันในสมัยนั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์อิสราเอลสามารถเยี่ยมชมอุทยานโบราณคดีแห่งนี้ได้ โดยมีไกด์ท้องถิ่นที่คอยให้คำแนะนำและพาเดินไปยังจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
7. ทัวร์อิสราเอล วิหารแห่งการประกาศ (Church of the Annunciation)
เป็นโบสถ์คาทอลิกในเมืองนาซาเรธทางตอนเหนือของอิสราเอล เชื่อกันว่าหัวหน้าทูตสวรรค์กาเบรียลได้บอกกับมารีย์เมื่อตอนอายุประมาณ 14 ปี ว่าเธอจะกลายเป็นมารดาของพระบุตรของพระเจ้า และที่นี่กลายเป็นบริเวณซึ่งมารีย์ได้แสดงความยินยอมของเธอโดยกล่าวว่า “Let it be done to me according to your word.” โดยได้มีการสลักความยินยอมของมารีย์เป็นภาษาละตินที่ด้านหน้าของโบสถ์ และมีรูปปั้นของมารีย์ตอนอายุ 14 ปี ขอต้อนรับทุกคนที่มาเยือนอยู่ทางประตูด้านใต้ของวิหาร มหาวิหารแห่งนี้มี 2 ชั้นและมีขนาดใหญ่มหึมา ใช้สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่มีความโดดเด่นโดยการออกแบบของสถาปนิก Giovanni Muzio ชาวอิตาลี สร้างแล้วเสร็จในปี 1969 ทำให้ที่นี่กลายเป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่ไม่ควรพลาด
8. ทัวร์อิสราเอล อุทยานแห่งชาติ Zippori (Zippori National Park)
แหล่งโบราณคดีซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นกาลิลีทางตอนกลางของอิสราเอล อยู่ห่างจากเมืองนาซาเรธไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 6 กิโลเมตร ในภาษากรีกโบราณเมืองนี้ถูกเรียกว่า Sepphoris ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นกาลิลี ตั้งอยู่บนเนินเขาตรงกลางระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลกาลิลี ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของโมเสคในยุคไบเซนไทน์ที่ถูกค้นพบในปี 1990 เต็มไปด้วยกระเบื้องโมเสคที่เรียงรายอยู่บนพื้น โดยเฉพาะโมเสครูปโมนาลิซ่าที่สวยงามสะดุดตา จนทำให้ถูกเรียกว่าโมนาลิซ่าแห่งกาลิลี ซึ่งนอกจากกระเบื้องโมเสคอันน่าทึ่งที่เรียงรายอยู่เต็มไปหมด ที่นี่ยังประกอบไปด้วยสถานที่อื่น ๆ ได้แก่ ที่อยู่อาศัยของชาวยิว โบสถ์ และโรงอาบน้ำสำหรับทำพิธีกรรม สำหรับใครที่มาทัวร์อิสราเอลแล้วสนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์และโบราณคดี บอกเลยว่าต้องถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน
9. ทัวร์อิสราเอล เมืองประวัติศาสตร์ เทล เบียร์ เชวา (Tel Beer Sheba)
Tel Beer Sheba ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง Beer Sheba มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในยุคแรกซึ่งปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิล โดยได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก สถานที่แห่งนี้ถูกขุดค้นขึ้นในปี 1970 มีบริเวณที่น่าสนใจ ได้แก่ บ่อน้ำที่ถูกขุดเจออยู่บริเวณนอกกำแพงเมือง คาดว่าบางทีใช้เพื่อจัดหาน้ำให้กับกลุ่มนักบวชที่อาศัยอยู่ด้านนอกของเมือง ซึ่งบ่อน้ำของที่นี่ยังเป็น 1 ในบ่อน้ำที่ลึกที่สุดในอิสราเอลอีกด้วย ในส่วนของประตูเมืองถูกแบ่งออกเป็น 2 แห่ง ได้แก่ประตูด้านนอกและประตูด้านใน ถัดจากประตูเมืองเป็นห้องโถง 3 ห้องที่มีเศษภาชนะดินเผาจำนวนมากซึ่งเรียกว่า โดยถูกสันนิษฐานว่าเป็นโกดังเก็บของหรืออาจเป็นตลาดในร่ม นอกจากนี้ยังค้นพบระบบน้ำที่มีความซับซ้อนรวมไปถึงชิ้นส่วนของแท่นบูชาหินที่พบอยู่ทั่วไปในบริเวณนี้
10. ทัวร์อิสราเอล พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศอิสราเอล (Israeli Air Force Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่นอกเมืองเบียร์เชวาทางตอนเหนือของเนเกฟ มีการจัดแสดงเครื่องบินมากกว่า 150 ลำ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับกองทัพอากาศอิสราเอล พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนพื้นที่โล่งกว้างของทะเลทรายซึ่งเป็นฐานทัพอากาศ Hatzerim นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์อิสราเอลกันที่นี่ยังสามารถมองเห็นเครื่องบินรบ และเครื่องบินฝึกประจำท้องถิ่นที่บินอยู่ด้านบนเป็นบางครั้งในช่วงกลางวัน พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง และมีอาคารไม่กี่แห่งที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บเอกสารสำคัญ รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ของกองทัพอากาศ โดยบริเวณใกล้กับทางเข้ามีร้านขายของที่ระลึกและร้านกาแฟเล็ก ๆ และมีน้ำเย็นใส่น้ำแข็งเป็นจำนวนมากให้บริการทั่วบริเวณ เนื่องจากเป็นพื้นที่กลางแจ้งและอยู่ใกล้ทะเลทรายนั่นเอง
สภาพอากาศและฤดูกาลที่อิสราเอล
ประเทศอิสราเอลมีลักษณะเป็นเขตกึ่งร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กแต่ก็มีความแตกต่างของภูมิอากาศอยู่ค่อนข้างมาก พื้นที่ทางตอนเหนือและบริเวณชายฝั่งมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีฤดูร้อนที่ร้อนและแห้งแล้ง ในขณะที่ฤดูหนาวมีฝนตกชุกและอากาศเย็นสบาย ส่วนพื้นที่ทางใต้และตะวันออกมีสภาพอากาศแบบแห้งแล้ง สามารถพบหิมะได้ที่บริเวณตอนเหนือสุดของที่ราบสูง Golan ในขณะที่บริเวณอื่น ๆ ของประเทศนั้นไม่ค่อยพบหิมะ โดยสามารถแบ่งออกได้ เป็น 4 ฤดูกาลดังนี้
- ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทัวร์อิสราเอล อุณหภูมิเย็นสบายกำลังดีและอากาศแจ่มใส อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 17-27 องศาเซลเซียส พื้นที่บริเวณชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเปิดให้เล่นน้ำได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม
- ฤดูร้อน อยู่ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม เป็นช่วงเวลาที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25-33 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ใกล้กับเขตทะเลทรายทางใต้อุณหภูมิสามารถสูงได้ถึงประมาณ 40 องศาเซลเซียส ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่ดีที่สุดในฤดูร้อนคือบริเวณเมืองชายทะเลนั่นเอง
- ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็นสบายมากขึ้น ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนและท่องเที่ยวอิสราเอลด้วยเช่นกัน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-27 องศาเซลเซียส โดยอากาศจะเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน
- ฤดูหนาว อยู่ในช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ยกเว้นบริเวณพื้นที่ภูเขาอุณหภูมิไม่เคยลดลงต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ในขณะที่พื้นที่ชายทะเลอุณหภูมิเย็นสบายกำลังดี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-21 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่ภูเขาอุณหภูมิจะลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส โดยบริเวณภูเขา Hermon จะมีหิมะตก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์อิสราเอลสามารถเดินทางไปเล่นสกีได้
เที่ยวทัวร์อิสราเอล ใช้งบเท่าไหร่
นักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่ต้องการเดินทางไปทัวร์อิสราเอล จะต้องมีหนังสือเดินทางที่อายุเกินกว่า 6 เดือน และต้องทำการขอวีซ่าล่วงหน้าจากสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นอกจากนี้กฎหมายอิสราเอลระบุให้ทุกคนต้องถือบัตรประจำตัวประชาชนหรือ ID Card ติดตัวไว้ตลอดเวลา ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทัวร์อิสราเอล จำเป็นที่จะต้องมีหนังสือเดินทางติดตัวเอาไว้อยู่ตลอดและพร้อมแสดงเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจ สำหรับค่าบริการโดยประมาณในการขอวีซ่าท่องเที่ยวอิสราเอลจะมีค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 1,100 บาท
ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการเที่ยวทัวร์อิสราเอล สามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ - อิสราเอล ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาท แล้วแต่เมืองจุดหมายปลายทาง
- ค่าใช้จ่ายรายวันต่อคน ได้แก่ ค่าอาหาร การเดินทาง และสถานที่ท่องเที่ยว เริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ถึง 5,000 บาท ต่อวัน
- ค่าที่พักเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาท ต่อคืน แล้วแต่รูปแบบของที่พัก
สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละบุคคล แต่ต้องบอกว่าประเทศอิสราเอลนั้นมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการทัวร์อิสราเอลประมาณ 8 วัน 5 คืน โดยรวมเบ็ดเสร็จแล้วจะอยู่ที่ประมาณ จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 90,000 – 100,000 บาทต่อคนขึ้นไป แต่ถ้าหากไม่อยากวางแผนทัวร์อิสราเอลด้วยตัวเองให้ยุ่งยาก และสามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้แนะนำให้เลือกแพ็คเกจทัวร์อิสราเอลกับบริษัททัวร์ที่เชื่อถือได้จะเป็นการดีที่สุดค่ะ
อาหารอิสราเอล ที่ไปเที่ยวแล้วควรลอง
- Hummus ฮัมมูสเป็นเมนูดั้งเดิมที่เปรียบเสมือนอาหารประจำชาติกันเลยทีเดียว ด้วยรสชาติที่เข้มข้นของถั่วชิกพีที่นำมาต้มแล้วบดกับมะนาวสด เครื่องเทศ ผักชีฝรั่ง ทาฮินีหรือซอสงาขาว จนได้เป็นเนื้อครีมเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกับถั่วชิกพีทั้งเมล็ด โรยด้วยพริกปาปริก้าและน้ำมันมะกอกเล็กน้อย กินคู่กับขนมปัง บางที่อาจผสมกับเนื้อบด ไก่ เห็ด พริกขี้หนูและผักสด
- Shawarma เมนูที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาดเมื่อมาทัวร์อิสราเอล ใช้เนื้อสัตว์หรือส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อแกะ ไก่งวง เนื้อวัว เนื้อไก่ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศแล้วนำไปวางซ้อนกันบนไม้เสียบสำหรับย่าง จากนั้นแล่เนื้อเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำไปม้วนในแผ่นแป้งพร้อมผักดอง ผักสลัด และเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น ฮัมมูส ซอสงาขาว ซอสเผ็ด มะเขือม่วง เฟรนช์ฟรายส์
- Falafel เมนูนี้มีต้นกำเนิดดั้งเดิมมาตั้งแต่ในสมัยอียิปต์โบราณ ปัจจุบันใช้ถั่วชิกพีหรือถั่วฟาวาบด ปั้นเป็นก้อนกลมพร้อมกับเครื่องเทศแล้วนำไปทอดให้เปลือกกลายเป็นสีน้ำตาลสวย นิยมเสิร์ฟในแผ่นแป้งพิต้าหรือลาฟฟา โรยหน้าด้วยสลัด กะหล่ำปลี พริกขี้หนู มะเขือยาวทอด ฮัมมูส ทาฮินี ซอสเผ็ด และมันฝรั่งทอด
- Shakshuka สตูว์ไข่ที่มีต้นกำเนิดมาจากแอฟริกาเหนือ ถูกดัดแปลงโดยชาวยิวและชาวอาหรับในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน ประกอบด้วยไข่ลวกราดซอสมะเขือเทศ พริก กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศและสมุนไพรของตะวันออกกลาง พร้อมด้วยมะนาวดอง พริกขี้หนู ชีสรสเค็ม โยเกิร์ต ไส้กรอกหรือเนื้อสับ กินคู่กับขนมปังแผ่น
- Rugelach เมนูเบเกอรี่ดั้งเดิมที่อยากให้ลองเมื่อมาทัวร์อิสราเอล ขนมปังหวานสอดไส้ช็อกโกแลต อบเชย ถั่ว หรือทาฮินีหวานบด ม้วนเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวแล้วนำไปอบ ตัวขนมปังอาจมีเนื้อสัมผัสที่กรอบหรือนุ่มก็ได้แล้วแต่สูตรของทางร้าน
- Sachlav เมนูที่เรียกได้ว่าเป็นช็อกโกแลตร้อนแห่งเมดิเตอร์เรเนียน ใช้ผงของของดอกกล้วยไม้ดิน Salahb ที่มีสรรพคุณทางยาและเป็นที่นิยมในฤดูหนาว ผสมกับน้ำดอกส้มหรือน้ำกุหลาบ วานิลลา และอบเชย พร้อมด้วยมะพร้าวขูดฝอย ถั่วป่น และผลไม้แห้ง โรยหน้าลงบนช็อกโกแลตนมแท้ ๆ ที่หอมเข้มข้นหวานมัน
- Salatim ซาลาติมหรือสลัดผักอิสราเอลที่ขึ้นชื่อ ทำจากผักสด ผักดอง และซอส ร้านอาหารส่วนใหญ่มักเสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย นิยมเสิร์ฟคู่กับขนมปังร้อน ๆ หรือนำไปใช้เป็นเครื่องเคียงของเมนูต่าง ๆ เป็นเมนูที่นำไปกินกับอะไรก็ได้นอกจากของหวาน
- Schnitzel หนึ่งในเมนูยอดนิยมของอิสราเอล ทำจากเนื้ออกไก่ทุบจนเป็นแผ่นบางเท่ากัน นำไปชุบแป้ง ไข่ และเกล็ดขนมปังปรุงรส ทอดจนสุกเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับเลมอน สลัดอิสราเอล ข้าว เฟรนช์ฟรายส์ หรือในขนมปังบาแก็ต
แหล่งช้อปปิ้งในอิสราเอล ยอดนิยม
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Grand Canyon Mall
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอิสราเอลในเมือง Beer Sheva รองรับทุกความต้องการในการช้อปปิ้งของคุณเมื่อมาทัวร์อิสราเอล มีร้านค้ามากมายกว่า 250 ร้านที่มีสินค้าให้เลือกทุกประเภท ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากทั้งในและต่างประเทศ มีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ และมีสนามเด็กเล่นสำหรับใครที่พาครอบครัวมาเที่ยวอิสราเอลกันด้วย
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Mahane Yehuda Market
ตลาดดั้งเดิมหลักของกรุงเยรูซาเล็ม มีร้านค้ามากกว่า 250 ร้านที่ขายทุกอย่างตั้งแต่ผักผลไม้ อาหารท้องถิ่น เสื้อผ้า ของฝากของที่ระลึก ตั้งอยู่ระหว่างถนน Aggripas และถนน Jaffa เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยมากมายให้เดินช็อปปิ้งกันได้อย่างไม่รู้เบื่อเมื่อมาทัวร์อิสราเอล
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Carmel Market
ตลาดคาร์เมลเป็นตลาดที่คึกคักที่สุดในเมือง Tel Aviv มีสินค้าขายทุกอย่างตั้งแต่อาหาร เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น เครื่องเทศ ผลไม้ ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์อิสราเอลนิยมมาเดินที่ตลาดแห่งนี้เพื่อซื้อผักและผลไม้สดใหม่ รวมไปถึงชิมอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจ
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Greek Market
แหล่งช้อปปิ้งที่อาจเรียกได้ว่าสวยงามที่สุดในเมือง Tel Aviv หากคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรเป็นของฝากดีเมื่อมาทัวร์อิสราเอลแนะนำให้มาที่นี่กันเลย ตลาดแห่งนี้ดำเนินการโดยชุมชนกรีกเล็ก ๆ มาตั้งแต่ในศตวรรษที่ 19 เต็มไปด้วยสินค้างานหัตถกรรม ของที่ระลึกวินเทจ อาหารท้องถิ่น และดอกไม้สดสวย ๆ
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Sarona Market
ตลาดอาหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอิสราเอล ตั้งอยู่ในเมือง Tel Aviv บนพื้นที่กว่า 8,700 ตารางเมตร สถานที่ชั้นนำที่มีทั้งสินค้านำเข้าจากทั่วทุกมุมโลกและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ชีสดัตช์ บะหมี่เอเชีย หรือวาฟเฟิลเบลเยียม ไปจนถึงร้านเสื้อผ้า รองเท้า และร้านหนังสือ
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Old City Market
ตลาดนัดที่จะทำให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ช้อปปิ้งในตลาดอาหรับเมื่อมาทัวร์อิสราเอล ตั้งอยู่ในพื้นที่ของชาวมุสลิมและคริสเตียน เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่มีร้านค้าและร้านขายของทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องเทศ เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Alrov Mamilla Mall
หนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่หรูหราและดีที่สุดในกรุงเยรูซาเล็ม ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เปรียบเสมือนตัวเชื่อมต่อระหว่างเมืองเก่าของเยรูซาเล็มและใจกลางเมืองที่ทันสมัยในปัจจุบัน มีสินค้าให้เลือกซื้ออยู่มากมายโดยเฉพาะสินค้าแบรนด์หรู และสินค้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์
ทัวร์อิสราเอล ช้อปปิ้งที่ Jaffa Flea Market
ตลาดนัดจาฟฟา แหล่งช้อปปิ้งที่มีทุกสิ่งให้เลือกสรร โดยเฉพาะใครที่มาทัวร์อิสราเอลแล้วอยากได้ของเก่าของแท้ โดยเฉพาะของแต่งบ้านสวย ๆ เฟอร์นิเจอร์วินเทจ เสื้อผ้า และสามารถนั่งพักหาอาหารริมทางอร่อย ๆ เติมพลังกันได้หลังจากช้อปปิ้ง
โรงแรมและที่พักในอิสราเอลแนะนำ
1. ทัวร์อิสราเอล พักที่ Margosa Boutique Hotel
ที่พักทำเลดีเยี่ยมใกล้ชายหาดใจกลางเมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) ตั้งอยู่ในย่าน Jaffa ที่แวดล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดนัดที่มีชีวิตชีวา อยู่ไม่ไกลจากชายหาดโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาทีเท่านั้น ห้องพักมีให้เลือกหลากหลาย โดยแต่ละห้องมีระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวเมืองเก่า Jaffa ได้ พร้อมบริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของอาหารท้องถิ่นแบบตะวันออกควบคู่ไปกับอาหารตามปกติ มีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ Alma Beach, Ra'amsses Gate Garden, Bauhaus Foundation Museum, พิพิธภัณฑ์ศิลปะเทลอาวีฟ, Museum Garden, อนุสรณ์ Itzhak Rabin Memorial เป็นต้น
2. ทัวร์อิสราเอล พักที่ Schumacher Hotel Haifa
ที่พักบรรยากาศเงียบสงบใจกลางเมืองไฮฟา (Haifa) ตัวอาคารมีความสวยโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยเก่าและสมัยใหม่ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยครบครัน แวดล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และคาเฟ่มากมาย มีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ Baha'i Gardens, Golden Dome, The Quiet Beach, Haifa's Municipal Theatre, Rambam Medical Centre Haifa Israel, Bat Galim, Madatech เป็นต้น
3. ทัวร์อิสราเอล พักที่ The Templer Inn
ที่พักใจทำเลดีเยี่ยมกลางเมืองเยรูซาเลม (Jerusalem) บรรยากาศเงียบสงบพร้อมตัวอาคารที่มีดีไซน์แบบสถาปัตยกรรมในยุคเก่าอันสวยงาม มีห้องครัวขนาดเล็กพร้อมไมโครเวฟให้บริการทุกห้อง มีบริการอาหารเช้าแบบมังสวิรัติ แวดล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ที่สามารถเดินเท้าไปถึงได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ Tower of David Museum, Jerusalem Botanical Garden, Western Wall, Montefiore Windmill, ภูเขา Temple Mount, เมืองจำลอง Holyland Model of Jerusalem, พิพิธภัณฑ์อิสราเอล เป็นต้น
4. ทัวร์อิสราเอล พักที่ Michel House
ที่พักดีไซน์สวยงามในสไตล์ปราสาทยุคเก่าบนทำเลดีเยี่ยมในเมืองนาซาเรธ (Nazareth) มีการตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมระเบียงชมวิวและดาดฟ้า มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทันสมัย อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารและคาเฟ่ที่สามารถเดินเท้าไปถึงได้อย่างสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ Hazaytim park, Nazareth Old City, Mary's Well, David Garden, Municipal Forest Park, St. Gabriel's Church เป็นต้น
5. ทัวร์อิสราเอล พักที่ Luxury Central Old Town Apartment
ที่พักแบบอพาร์ทเม้นท์ในเมืองเบียร์เชวา (Beer Sheva) ในย่านเก่าแก่ที่เงียบสงบ มาพร้อมการตกแต่งที่สวยหรูใส่ใจในทุกรายละเอียดและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีห้องครัวที่สามารถใช้งานได้พร้อมทั้งเตาแก๊สและเตาอบ มีเครื่องชงกาแฟและเครื่องซักผ้า พร้อมทีวีจอใหญ่แบบติดผนังที่มีสัญญาณ Wi-Fi แรงพิเศษ อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารและคาเฟ่ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลใกล้เคียงที่น่าสนใจได้แก่ Remez Garden, Niusia and Aron Chilewich Square, Nawi Park, Ben Gurion University, Tel Be’er Sheba, Carasso Science Park เป็นต้น
แนะนำของฝาก อิสราเอล
- อินทผาลัม (Dates) ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อที่ควรซื้อกลับไปเป็นของฝากเมื่อมาเที่ยวอิสราเอล ซึ่งอินทผาลัมของที่นี่เป็นสายพันธุ์ที่มีรสชาติหวานอร่อยมากกว่าที่อื่น และมีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะตามตลาดสดหรือตลาดนัด
- ขนม Bamba (Bamba) ขนมขบเคี้ยวยอดฮิตที่อยากให้ลองซื้อกลับไปเป็นของฝากเมื่อมาเที่ยวอิสราเอล ลักษณะเป็นแป้งพอง ๆ กรอบ ๆ รสเนยถั่ว ซึ่งในบางครั้งจะสอดไส้ด้วย Halva หรือช็อกโกแลต รสชาติอร่อยเคี้ยวเพลินกันเลยทีเดียว
- ไม้มะกอกแกะสลัก (Olive Wood Carvings) ชาวอิสราเอลเชื่อกันว่าต้นมะกอกมีถิ่นกำเนิดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิลมาอย่างยาวนาน ช่างท้องถิ่นได้มีการนำเอากิ่งมะกอกที่ได้จากการตัดแต่งมาแกะสลักเป็นงานฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ สามารถหาซื้อได้ในร้านขายของที่ระลึกทั่วไป
- เครื่องประดับ (Jewelry) อุตสาหกรรมหลักอีกอย่างหนึ่งของอิสราเอลคืออัญมณี ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยหากมาเที่ยวอิสราเอลแล้วจะพบเจอเครื่องประดับวางจำหน่ายอยู่ทั่วไป อัญมณีประจำชาติของอิสราเอลคือหินไอแลต ที่ส่องประกายแวววาวสีน้ำเงินและสีเขียว เหมาะสำหรับการซื้อกลับไปเป็นของฝากเมื่อมาทัวร์อิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง
- เกลือเดดซี (Dead Sea Salt) ทะเลเดดซีมีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในอิสราเอล เป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อมาทัวร์อิสราเอล ดังนั้นของฝากยอดฮิตคงหนีไม่พ้นเกลือเดสซีที่มีขายทั่วไปตามร้านขายยาและร้านบูติกเล็ก ๆ ทั่วอิสราเอล
- โบราณวัตถุ (Antiques) การหาซื้อวัตถุโบราณในอิสราเอลเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย นักท่องเที่ยวที่มาทัวร์อิสราเอลสามารถเลือกซื้อวัตถุโบราณของแท้ตั้งแต่ในสมัยกษัตริย์เดวิดจากร้านค้าที่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นเหรียญโบราณ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์
- ฮัมซา (Hamsa) สัญลักษณ์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปเมื่อมาทัวร์อิสราเอล มีลักษณะเป็นรูปมือ 5 นิ้วที่สมมาตรกัน โดยมีนิ้วหัวแม่มือยื่นออกไปด้านข้าง เชื่อกันว่ามีไว้เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ โดยมีสินค้าที่ทำเป็นรูป Hamsa ให้เลือกหลายอย่าง เช่น น้ำหอมปรับอากาศในรถ พวงกุญแจ และเครื่องประดับ
- เครื่องปั้นดินเผาอาร์เมเนีย (Armenian Pottery) อิสราเอลมีชุมชนชาวอาร์เมเนียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาที่ทำมาจากฝีมือของช่างชาวอาร์เมเนียที่มีพรสวรรค์ จึงเป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมสำหรับการเป็นของที่ระลึกเมื่อมาเที่ยวอิสราเอล
ต้องบอกว่าประเทศอิสราเอลนั้นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่เพียงแต่แค่ที่เราแนะนำมาให้เท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่รอให้คุณได้ไปสำรวจและค้นหา พร้อมสัมผัสความงดงามตื่นตาตื่นใจด้วยตัวคุณเอง แต่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการท่องเที่ยวอิสราเอลจะเริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่ควรระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยและการปฏิบัติตัวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอิสราเอลที่มีความสำคัญทางด้านศาสนา ควรแต่งกายให้มิดชิดและมีความสำรวมเคารพต่อสถานที่ และถ้าหากเป็นไปได้โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี ไม่แนะนำให้เดินทางท่องเที่ยวอิสราเอลคนเดียวค่ะ