“อาเซอร์ไบจาน” หนึ่งในประเทศที่มีความน่าสนใจอย่างมากทั้งในเรื่องประวัติศาสตร์ทางการเมือง การปกครอง ไปจนถึงยังได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากในการไปเที่ยวอาเซอร์ไบจานสักครั้งในชีวิต ใครอยากสัมผัสกับวัฒนธรรม วิถีชีวิต ไปจนถึงสถาปัตยกรรมต่าง ๆ และอาหารสุดพิเศษ แนะนำว่าถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาดในการไปทัวร์อาเซอร์ไบจานเด็ดขาด แต่เหนือสิ่งอื่นใดลองศึกษาข้อมูลที่จะบอกต่อไปนี้ก่อนได้เลย
ข้อมูลเที่ยวทัวร์อาเซอร์ไบจาน
ประเทศอาเซอร์ไบจาน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน” (Republic of Azerbaijan) ตั้งอยู่ในแถบชายแดนฝั่งตะวันออกของทวีปยุโรป มีพื้นที่ติดกับทวีปเอเชียตะวันตก ซึ่งทำเลดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัสใต้ (Caucasus) ทิศเหนือติดกับประเทศรัสเซีย ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทศจอร์เจีย ทิศตะวันออกติดกับทะเลแคสเปียน ทิศตะวันตกติดกับประเทศอาร์เมเนีย และทิศใต้ติดกับประเทศอิหร่าน มีพื้นที่รวม 86,600 ตารางกิโลเมตร ประชากรอาศัยอยู่ราว 10 ล้านคน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม เมืองหลวงชื่อ กรุงบากู (Baku) เดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตก่อนประกาศเอกราชในปี 1991 ใครสนใจทัวร์อาเซอร์ไบจานถือว่าไม่ผิดหวังแน่
ทัวร์อาเซอร์ไบจานตามเมืองยอดนิยม
1. ทัวร์อาเซอร์ไบจานเมืองบากู (Baku)
เมืองหลวงของประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมทัวร์อาเซอร์ไบจานกัน และยังเป็นเมืองขนาดใหญ่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ติดกับทะเลแคสเปียนเป็นแผ่นดินยื่นออกไป จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งมากทั้งย่านเมืองเก่าที่ยังพบสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมสร้างขึ้นในยุคสหภาพโซเวียตตัดกับตัวเมืองที่ถูกสร้างใหม่ ไปจนถึงชายทะเลอันแสนสวยงาม ความแปลกใหม่ที่ผสานกันอย่างลงตัวมาก
2. ทัวร์อาเซอร์ไบจานเมืองเชอร์วาน (Shirvan)
หลายคนอาจคุ้นกันในชื่อ อาลิเบย์รามลิ (Alibayramli) เพราะถูกเรียกกันมาตั้งแต่ปี 1993 จนถึงปี 2008 ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำคูรา ถือเป็นเมืองที่มีความเจริญในด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะเรื่องการขนส่ง และยังเป็นศูนย์กลางของน้ำมันดิบ มีการผลิตน้ำมัน ก๊าซ เชื้อเพลิง และพลังงานต่าง ๆ อันถือเป็นระบบเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศ และยังมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีถึงการอยู่อาศัยของผู้คนในอดีตด้วย
3. ทัวร์อาเซอร์ไบจานเมืองซัมกายิต (Sumqayit)
อีกเมืองน่าสนใจในการเที่ยวอาเซอร์ไบจานตั้งอยู่ริมทะเลแคสเปียน ห่างจากเมืองหลวงออกไปประมาณ 31 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า Medean แต่การตั้งถิ่นฐานอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นประมาณปี 1580 กระทั่งหลังหมดยุคปกครองของสหภาพโซเวียตก็เคยเป็นเมืองของผู้ลี้ภัยในประเทศ ปัจจุบันจึงพบอาคารสูงและสถาปัตยกรรมสวย ๆ อยู่พอสมควร
4. ทัวร์อาเซอร์ไบจานเมืองเชคี (Shaki)
หรือทุกคนจะคุ้นเคยกันในชื่อจังหวัดเกลเดอร์ลันด์ (เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด) เมืองทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาคอเคซัส มีความคลาสสิกในเรื่องของสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศโดยเฉพาะพระราชวัง Shaki Khans ถึงขนาดได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ด้วยความงดงามสุดคลาสสิก และบริเวณเมืองนี้ยังถือเป็นอีกจุดเส้นทางสายไหมที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจอีกด้วย
5. ทัวร์อาเซอร์ไบจานเมืองมินกาเชเวอ (Mingachevir)
ใครอยากลองทัวร์อาเซอร์ไบจานกับเมืองที่มีฉายา “เมืองแห่งแสงสี” ต้องไม่พลาด เหตุผลหลักมาจากบริเวณแม่น้ำคูร์ แม่น้ำสายสำคัญของเมืองเป็นที่ตั้งของโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำเสมือนทำหน้าที่แบ่งเมืองเป็น 2 ฝั่งตรงกลาง มีขนาดใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ถูกบันทึกประวัติศาสตร์การก่อตั้งทางการเมื่อปี 1948 ส่วนใหญ่ประชากรเป็นเชลยศึกชาวเยอรมันที่ถูกจับตัวไปเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำเลตั้งอยู่ใจกลางของประเทศและยังเป็นเส้นทางรถไฟสายสำคัญระหว่างบากูและทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจียด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวทัวร์อาเซอร์ไบจาน ยอดนิยม
1. ย่านเมืองเก่าบากู (Baku Old City)
เป็นไฮไลท์ของการทัวร์อาเซอร์ไบจานอย่างยิ่งกับการได้สัมผัสย่านเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของประเทศ ถูกโอบล้อมด้วยกำแพงเมืองซึ่งเดิมถูกใช้สำหรับป้องกันศัตรู นอกจากการได้พบเจอกับบ้านเรือน สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ยังคงความคลาสสิกแล้ว อีกจุดต้องไปให้จงได้คือ ปราสาทเชอร์วานชาห์ส (Palace of the Shirvanshahs) สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 รวมถึงหอคอยไมเด็น (Maiden Tower) หอคอย สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 12
2. บากู บูเลอร์วาร์ด (Baku Boulevard)
เที่ยวอาเซอร์ไบจานในย่านเมืองหลวงทั้งทียังไงก็ไม่ควรพลาดกับถนนเลียบทะเลแคสเปียนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี อีกเส้นทางเดินเลียบทะเลที่มีความยาวมาก ๆ จุดเด่นสำคัญต้องยกให้กับชิงช้าสวรรค์ หรือ บากูอาย (Baku Eye) ที่มีความสูงถึง 60 เมตร ให้ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก หรือจะขึ้นไปชมวิวมุมสูงของทะเลสาบปิดขนาดใหญ่สุดในโลกและวิวเมืองก็จัดว่าดีงาม อากาศสุดชิลเดินเล่นพักผ่อนกันเพลิน
3. อุทยานแห่งชาติเชอร์วาน (Shirvan National Park)
อุทยานแห่งชาติที่มีความสำคัญของประเทศอาเซอร์ไบจาน ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2003 มีความโดดเด่นในเรื่องของพื้นที่ลักษณธกึ่งทะเลทราย มีเนินทรายในบางจุด แต่อีกมุมก็ยังติดกับทะเลส่งผลให้มีสัตว์หลากสายพันธุ์อาศัยอยู่จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเนื้อทราย แมวป่า เต่า นกฟลามิงโก รวมถึงสัตว์อื่น ๆ ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 200 สายพันธุ์อาศัยภายในอุทยานแห่งชาติที่นี่
4. ภูเขาโกยาซัน (Goyazan Mountain)
ใครเป็นสายธรรมชาติต้องไม่พลาดในการเดินทางมาเยือนภูเขาแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศติดกับดินแดนประเทศอาร์เมเนีย มีความสูง 857 เมตร เป็นภูเขาสูงเพียงลูกเดียวที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นมาแต่ไกลโดยรอบเป็นทุ่งนาและพื้นที่ราบ รวมถึงยังมีอ่างเก็บน้ำใกล้ ๆ เดินทางไม่ยากสามารถขับรถมาแวะชมวิวสวย ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์กันได้ตามสะดวกเลย
5. หมู่บ้านคินาลิค (Khinaliq)
อีกจุดน่าสนใจในการทัวร์อาเซอร์ไบจานกับหมู่บ้านบนภูเขาสูง เป็นหมู่บ้านบนที่สูงสุดของยุโรป และยังมีความเก่าแก่ลำดับต้น ๆ ของทวีปอีกด้วย ตามข้อมูลเชื่อว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้คนอยู่อาศัยมายาวนานกว่า 1,000 ปี ตั้งแต่ยุคคอเคเซียนแอลแบเนีย มีภูมิทัศน์สวยงามวิวฉากหลังเป็นภูเขาสูงและต้นไม้อันเขียวขจี และยังคงมีการใช้ชีวิตตามแบบฉบับวิถีชนดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ความคลาสสิกที่ต้องสัมผัสเอง
สภาพอากาศและฤดูกาลที่อาเซอร์ไบจาน
ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่มีความแตกต่างกันพอสมควร ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ติดทะเล ขณะที่อีกส่วนเป็นพื้นที่ภูเขาสูง ทำให้สภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันออกไปพอสมควร ใครสนใจเลือกทัวร์อาเซอร์ไบจานจึงต้องศึกษาให้ดีด้วย โดยประเทศนี้แบ่งเป็น 4 ฤดูกาล ได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม หากเป็นบริเวณพื้นที่ราบจะเข้าสู่ฤดูกาลนี้ก่อนประมาณมีนาคม ส่วนพื้นที่ภูเขาสูงจะเริ่มประมาณเมษายน ในช่วงแรกสภาพอากาศยังอาจไม่คงที่อยู่บ้างแต่ผ่านไปสักพักจะเริ่มอบอุ่นขึ้นชัดเจน มีดอกไม้ผลิบานให้ได้เห็นกันตามสวนและอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง ในบางคืนหากอากาศเย็นลงนิดหน่อยก็อาจพบเจอยอดน้ำค้างแข็งตามใบไม้ได้ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน
ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม หากมองในแง่ของความรู้สึกจากสภาพอากาศ นี่ถือเป็นฤดูกาลที่ยาวนานสุดของประเทศ ลักษณะจะมีความร้อนและแห้ง หากเป็นพื้นที่ราบลุ่ม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส แต่ถ้าเป็นริมชายฝั่งทะเลอุณหภูมิอาจพุ่งสูงได้ในระดับ 35 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นตามแนวภูเขาอุณหภูมิจะไม่ค่อยสูงมากนักเฉลี่ย 10-15 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ผลิ
ช่วงระหว่างเดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายน หากเป็นบริเวณพื้นที่ลุ่มหรือติดริมทะเลจะยังคงสภาพอากาศร้อนเอาไว้ แต่ไม่ถึงกับร้อนจัดมากนัก ส่วนพื้นที่ตรงภูเขาอากาศจะลดลงเฉลี่ยแล้วอุณหภูมิราว 20 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนตุลาคมมักเป็นเวลาของมรสุมที่ฝนตกชุก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ราบ จากนั้นอากาศมักค่อย ๆ เย็นลงแต่ก็ยังคงมีแดดจัดมากในช่วงเวลากลางวัน
ฤดูหนาว
ช่วงระหว่างเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ หากเป็นช่วงแรก ๆ อากาศจะยังคงอบอุ่นอยู่ตามบริเวณพื้นที่ราบ ส่วนพื้นที่ภูเขาอาจมีอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส โดยช่วงเดือนมกราคมถือเป็นช่วงหนาวสุดของประเทศ บนยอดเขามักมีหิมะปกคลุมแต่ก็เวลาสั้น ๆ ไม่ยาวนานมากนัก บางพื้นที่อาจมีอุณหภูมิติดลบระดับ -20 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับระดับความสูง และการโอบล้อมของภูเขาด้วย
เที่ยวทัวร์อาเซอร์ไบจาน ใช้งบเท่าไหร่
ในการไปทัวร์อาเซอร์ไบจาน การประเมินงบที่ต้องใช้เป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อให้มั่นใจถึงการเตรียมตนเองและสามารถจัดการเงินได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งสกุลเงินของประเทศอาเซอร์ไบจานมีชื่อว่า “มานัตอาเซอร์ไบจาน” (AZN) โดย 1 AZN ประมาณ 20 บาทไทย
อย่างไรก็ตามด้วยสกุลเงินของประเทศนี้ไม่ได้เป็นสกุลเงินหลักของโลกจึงอยากแนะนำให้แลกเป็นเงินยูโร (EUR) หรือเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ไปจากเมืองไทย เมื่อเดินทางถึงอาเซอร์ไบจานแล้วจึงค่อยแลกเป็นสกุลเงินท้องถิ่นกับทางธนาคาร โรงแรม ร้านอาหาร หรือตามสถานที่แลกเงิน โดยจะขอประเมินค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ สำหรับใครสนใจเที่ยวอาเซอร์ไบจานมาเช็กลิสต์เบื้องต้นได้เลย
- ค่าเครื่องบินไป - กลับ ค่าเดินทางในการไปยังอาเซอร์ไบจานโดยเครื่องบินขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการเลือกไฟล์ท ปกติแล้วหากประเมินราคาต่อเที่ยวอาจมีได้ตั้งแต่ 15,000 บาท ไปจนถึง 20,000 บาทต้น ๆ สำหรับที่นั่งชั้นประหยัดปกติ
- ค่าเดินทางในประเทศ ส่วนใหญ่แล้วหากเดินทางด้วยรถบัสจะอยู่ที่ประมาณเที่ยวละ 20 บาท ส่วนค่าแท็กซี่เริ่มต้นประมาณ 50 บาท อย่างไรก็ตามอีกวิธีน่าสนใจคือการเช่ารถเฉลี่ยวันละ 1,000 – 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทรถ ส่วนค่าน้ำมันที่นี่ถูกมากประมาณลิตรละ 20 บาท เท่านั้น
- ค่าอาหาร หากเป็นอาหารตามร้านทั่วไป เฉลี่ยต่อคนอาจอยู่ประมาณ 200 บาท ส่วนร้านอาหารระดับกลางตกราวคนละ 400 บาท ซึ่งตัวอย่างราคาอาหาร เช่น ไข่ไก่ 10 ฟอง 45 บาท เบียร์ท้องถิ่นขวดละ 40 บาท นม 1 ลิตร ประมาณ 40 บาท เป็นต้น
- ค่าที่พัก หากเข้าพักโฮสเทลราคาต่อคืนราว 450 บาท โรงแรมระดับ 3 ดาวต่อคืนราว 1,400 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ ขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละสถานที่
อาหารอาเซอร์ไบจาน ที่ไปเที่ยวแล้วควรลอง
1. Plov
หนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงมากสุดและแนะนำในการทัวร์อาเซอร์ไบจาน มีทั้งทำจากผลไม้แห้ง เนื้อแกะกับหัวหอม ถั่วกับปลา ไก่ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน จากนั้นนำมาปรุงจนได้ที่กับเครื่องเทศต่าง ๆ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเมล็ดยาว มีกลิ่นหอม ด้านล่างจะรองด้วย Gazmag ทำจากแป้ง เนย ไข่ โยเกิร์ต หรือจะรองด้วย Lavash (ขนมปังแบน)
2. Dolma
เป็นลักษณะของใบองุ่นยัดไส้ ซึ่งถือเป็นอาหารดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมากแถบยุโรปตะวันออก โดยไส้ข้างในจะมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ หัวหอม ข้าว ถั่วลันเตา และเครื่องเทศอื่น ๆ ห่อด้วยใบองุ่น หรือบางแห่งก็ยัดเข้าไปในมะเขือเทศ พริกหวาน มะเขือยาว นึ่งจนสุกเสิร์ฟพร้อมกับซอสครีมโยเกิร์ตกระเทียม
3. Saj Ichi
เป็นบาร์บีคิวสไตล์อาเซอร์ไบจานซึ่งยังใช้วิธีปรุงแบบโบราณ ส่วนมากจะนิยมใช้เนื้อแกะหั่นเป็นลูกเต๋าหมักรสชาติตามสไตล์เฉพาะจากนั้นก็วางลงบนถาดหรือกระทะดินเผา ด้านล่างรองด้วยมะเขือม่วง พริกหยวก หัวหอม และมะเขือเทศหั่นฝานเป็นชิ้นอร่อยมาก ใครเที่ยวอาเซอร์ไบจานแนะนำเลย
4. Piti
ซุปเนื้อแกะและถั่วพิกชี มีลักษณะคล้ายซอสโดดเด่นด้วยกรรมวิธีที่ต้องใช้เวลานานและไม่เหมือนใคร บางแห่งมีการผสมเกาลัดเพิ่มเติมเข้าไปให้กลมกล่อมมากขึ้น หรืออยากจะเพิ่มผัก พลัม หรือมะตูม เพื่อชูรสให้แตกต่างก็ไม่มีปัญหา เคี่ยวในหม้อเซรามิคนาน 5-6 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติดีที่สุด
5. Buglama
ในภาษาอาเซอร์ไบจานคำนี้แปลว่า “นึ่ง” จึงหมายถึงการนำเอาเนื้อแกะมาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง รวมถึงยังมีการเพิ่มเติมส่วนผสมอย่างหัวหอม มะเขือเทศ พริกไทย พริกไทยดำ และใบกระวานเล็กน้อย รสชาติเข้มข้นโดนใจ หรือจะเปลี่ยนเป็นเนื้อวัว เนื้อไก่ หรือปลาก็ดีงามไม่แพ้กัน ทัวร์อาเซอร์ไบจานแล้วต้องลอง
แหล่งช้อปปิ้งในอาเซอร์ไบจาน ยอดนิยม
1. ถนนนิซามี (Nizami Street)
ถนนช้อปปิ้งยอดนิยมในเมืองบากู โดดเด่นตั้งแต่เรื่องของสถาปัตยกรรมโดยรอบที่มีความคลาสสิกตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 และยังมีร้านรวงต่าง ๆ เปิดให้บริการเพื่อการช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลิน ส่วนใครอยากแวะชิมของอร่อยก็เลือกร้านตามชอบ ยิ่งพอพลบค่ำไฟถูกเปิดสวยไปอีกสไตล์
2. Metropark Shopping Center
ตั้งอยู่ในเมืองบากู ซึ่งเมืองนี้ถือว่ามีห้างสรรพสินค้าให้เดินเล่นกันเยอะมาก และนี่เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ไม่อยากให้พลาดเด็ดขาด รวมความครบครันเอาไว้ให้เสร็จสรรพทั้งสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของฝาก ไปจนถึงมีร้านอาหารให้ได้ฝากท้องกันอีกด้วย
3. Shopping Center Sadarak
ศูนย์การค้าอีกแห่งที่ตอบโจทย์การช้อปปิ้งอย่างมากเมื่อมาทัวร์อาเซอร์ไบจาน มีสินค้าให้เลือกสรรกันแบบจุใจทั้งเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน ที่สำคัญราคาไม่แพงมากอีกด้วย เดินกันเพลินได้ของเต็มมือแน่
4. Old Baku
ย่านเมืองเก่าของบากูตลอดเส้นทางนอกจากจะได้เดินชมสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกที่เรียงรายอยู่ตลอด 2 ข้างทางแล้ว ที่นี่ยังมีร้านรวงให้เดินแวะซื้อของที่ระลึกกันด้วย เช่น Old Baku Souvenir Shop เป็นร้านขายของฝาก มีงานฝีมือ งานแฮนด์เมดต่าง ๆ เยอะมาก
5. Ninka Cards and Gifts
ถ้าต้องการการ์ดสวย ๆ รวมถึงของขวัญ อัลบั้มภาพ และงานแฮนด์เมดต่าง ๆ นี่คือจิตวิญญาณแห่งความพิเศษที่พร้อมสร้างสรรค์สิ่งอันแสนงดงามให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน มั่นใจเลยว่าคุณเดินในร้านนี้แล้วจะเพลินจนลืมเวลากันเลยทีเดียว
โรงแรมและที่พักในอาเซอร์ไบจานแนะนำ
1. Royal Sapphire Hotel Baku
ที่พักอาเซอร์ไบจานที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบอันแสนคลาสสิกตามแบบฉบับราชวงศ์เก่าในอดีต การตกแต่งภายในก็ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน ภายในห้องพักเน้นลวดลายแบบเฉพาะตัว อีกทั้งทำเลยังอยู่ใจกลางเมือง ช่วยให้เดินทางสะดวกมาก
2. The Merchant Baku
ตัวโรงแรมเดิมที่เป็นอาคารเก่าของบริษัทขนส่ง สถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1858 บ่งบอกถึงเรื่องในประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าประทับใจ การออกแบบทั้งหมดเป็นสไตล์ “The Great Gatsby" ภายในห้องพักสุดหรูหราจำนวน 63 ห้อง มีแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส เหนือระดับกว่าเคย
3. Deluxe Park Qusar Resort & Spa Hotel
รีสอร์ตระดับ 4 ดาว ในเมืองกูซาร์ จัดเต็มบรรยากาศอันแสนพิเศษโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่พบเห็นหิมะขาวโพลนสวยงามอย่าบอกใคร ภายในห้องพักเน้นโทนสีขาวสบายตา พื้นที่กว้างขวาง มีสระว่ายน้ำในร่ม วิวสวย ๆ ให้ถ่ายรูป และทำกิจกรรมได้แบบครบครันมาก
4. Golden Horn Apart Hotel
โรงแรมสุดหรูหราในเมืองบากู มีการตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นที่ยังผสานกับความคลาสสิกของสีสันเอาไว้อย่างลงตัวมาก ภายในห้องพักมีการใช้พื้นลายไม้เพื่อบ่งบอกถึงความอบอุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมีให้ครบครัน ห่างจากสถานีรถไฟไม่ไกลอีกด้วย
5. Center Hotel Baku
โรงแรมระดับ 3 ดาว ตั้งอยู่ย่านธุรกิจของเมืองบากู ช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกมากกว่าเคย ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุคเก่าบ่งบอกถึงความคลาสสิกได้อย่างดี แต่ภายในมีการตกแต่งผ่านสไตล์โมเดิร์น เน้นสีสันสดใส เพิ่มความผ่อนคลายให้กับทุกคนอย่างดี
แนะนำของฝาก อาเซอร์ไบจาน
1. พรม
ถือเป็นสินค้าขึ้นชื่อมาก ๆ ของอาเซอร์ไบจานถึงขนาดองค์กรยูเนสโกยังยอมรับให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ยิ่งถ้าไปทางตอนใต้ของประเทศที่มีจะมีหมู่บ้านหลายแห่งยังคงอนุรักษ์ลวดลายและวิธีถักทอเอาไว้ได้แบบไม่เสื่อมคลาย
2. เครื่องครัวทองแดง
ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ช่างทำทองแดงในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนภูเขา Lahij ได้ถลุงทองแดงออกมาเป็นแผ่น จากนั้นจึงขัดเงาและแกะสลักลวดลาย นี่จึงเป็นงานฝีมืออีกชิ้นที่มีการยอมรับจากองค์การยูเนสโกและควรค่ากับการซื้อกลับมาก
3. ผ้าคลุมศีรษะไหม
ด้วยชาวอาเซอร์ไบจานแทบทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลาม เวลาทัวร์อาเซอร์ไบจานก็มักพบเจอผ้าคลุมศีรษะไหมได้แทบทุกจุด หากต้องการซื้อกลับไปฝากเป็นที่ระลึกก็นับว่าตอบโจทย์และได้ความสวยงามไม่แพ้กับของฝากประเภทอื่น ๆ เลยทีเดียว
4. ถุงมือไหมพรม
เรื่องการถักทอผู้คนที่นี่ไม่เคยเป็นสองรองใครยิ่งทางตอนเหนือของประเทศใกล้กับเทือกเขาคอเคซัสสภาพอากาศหนาวเย็น ทำให้ผู้คนต้องใช้ถุงมือในการดำรงชีวิต และนั่นจึงเป็นอีกความพิเศษในการซื้อกลับมาอย่างยิ่ง ลวดลายสวยงาม ฝีมือประณีตมาก
5. หมวกปาปา
เป็นหมวกทรงแบนกลมส่วนมากผู้ชายที่อาศัยแถบภูเขามักนิยมสวมใส่ ปัจจุบันถูกทำออกมาเป็นงานฝีมือที่มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวมักซื้อกลับไปฝากกันเสมอ ด้วยงานอันแสนวิจิตร แถมราคาไม่ได้แพงอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อมูลต่าง ๆ ในการไปเที่ยวทัวร์อาเซอร์ไบจาน เชื่อว่าคงทำให้หลายคนอยากวางแผนออกเดินทางกันในทันทีแน่ นี่คืออีกดินแดนที่มีเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัว และยังสร้างความประทับใจกับทุกคนมาแล้วมากมาย ไปสัมผัสกับวิถีชีวิต สถาปัตยกรรม ความเป็นอยู่ของผู้คน และแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ กันได้เลย